ถ้าพูดถึงอาหารประจำชาติที่มีรสชาติโดดเด่น เชื่อว่าอาหารอินเดียต้องติด Top Ten อย่างแน่นอน ไม่เพียงรสชาติที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แต่ยังอุดมด้วยเครื่องเทศนานาชนิดที่ดีต่อสุขภาพ 

ในบ้านเรามีร้านอาหารอินเดียที่รสชาติชวนลิ้มลองอยู่หลายร้าน หนึ่งในนั้นคือบาวาร์ชิ ชิดลม ซึ่งเปิดให้บริการความอร่อยมานานกว่า 20 ปี เน้นอาหารอินเดียทางตอนเหนือที่ถือว่าเป็นอาหารเก่าแก่ที่สุดในโลกชนิดหนึ่ง ปรุงโดย เชฟรานา หัวหน้าเชฟประจำห้องอาหารอินเดียบาวาร์ชิผู้คว้ารางวัลมาแล้วมากมายทั้งในและต่างประเทศ

เชฟเน้นการผสมผสานวัตถุดิบหลากชนิดร่วมกับการปรุงแบบต้นตำรับ สร้างสรรค์เป็นเมนูรสเลิศอบอวลด้วยกลิ่นหอมของเครื่องเทศชั้นดี และมีให้เลือกหลายรายการ

พร้อมดื่มด่ำกับบรรยากาศที่จำลองกลิ่นอายแดนภารตะไว้ทุกอณู อย่างเช่น วอลเปเปอร์สีสันสดใส เน้นลวดลายสไตล์อินเดีย เครื่องทองเหลืองโบราณที่จัดวางอย่างเหมาะเจาะตามมุมต่างๆ รวมถึงโต๊ะเก้าอี้สีขรึม เข้ากันกับแสงไฟที่เน้นความสว่างเฉพาะบริเวณ แม้จะดูลึกลับไปบ้างแต่ให้ความรู้สึกผ่อนคลายและเป็นส่วนตัว

...

ส่วนเมนูที่น่าลองชิม คือ

1. Papadum

เริ่มต้นเรียกน้ำย่อยกับ Papadum ข้าวเกรียบอินเดียเสิร์ฟพร้อมชัตนีย์ 4 รสชาติ ได้แก่ ซาวน์ครีม บีตรูต มะม่วง และสับปะรด Bhelpuri ของว่างทำจากข้าวพอง ผักรวม และซอสมะขามรสเปรี้ยว

2. Olive Naan

ต่อด้วยเมนูที่คนไทยค่อนข้างคุ้นเคย Olive Naan แป้งนานรสมะกอก และ Missi Roti โรตีแบบดั้งเดิมที่นิยมกินกับแกงอินเดียมีให้เลือกหลายเมนู

3. Dal Makhani

เมนูแกงอย่างแรกที่ต้องสั่งมาชิม คือ Dal Makhani ถั่วเลนทิลดำกับมะเขือเทศที่เคี่ยวบนเตาถ่านนานข้ามคืน เพื่อให้เข้มข้นเข้าเนื้อ

4. Achari Gobhi Mutter

ต่อมาเป็น Achari Gobhi Mutter แกงดอกกะหล่ำใส่เครื่องเทศดองรสเปรี้ยวกับมะม่วง พริกขี้หนู และขมิ้น

5. Shahi Malai Kofta

สำหรับคนกินมังสวิรัติก็มีทางเลือกที่อร่อยไม่แพ้กัน Shahi Malai Kofta เกี๊ยวไส้ชีสในน้ำซุปเข้มข้นเคี่ยวจากมะเขือเทศและหอมหัวใหญ่จนเนื้อเนียนละเอียดนุ่มลิ้น

6. Tandoori Prawn

ต่อด้วยเมนูห้ามพลาดจากเตาทันดูร์อย่าง Tandoori Prawn กุ้งแม่น้ำคลุกเคล้ากับมัสตาร์ดและคาราเวย์ ย่างในเตาทันดูร์ซึ่งเป็นเตาแบบโบราณช่วยชูรสชาติและกลิ่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เสิร์ฟพร้อมชัตนีย์สูตรพริกขี้หนูและสับปะรด

7. Malabar Machi

ถัดมาเป็น Malabar Machi แกงเผ็ดปลาสูตรดั้งเดิมรัฐเกรละ เข้มข้นด้วยรสชาติและกลิ่นหอมของเครื่องแกงและเม็ดมะม่วงหิมพานต์บดที่แทรกซึมอยู่ในเนื้อปลา เสิร์ฟพร้อมข้าวหุงหญ้าฝรั่นสีเหลืองนวล

ช่วงเย็นยังมีดนตรีสดพื้นเมืองมาขับกล่อมเพิ่มความเพลิดเพลิน หากไม่รีบร้อนไปไหน แนะนำเครื่องดื่ม Tarined Margarita หรือ Chai Martini ก็ยิ่งเสริมรสชาติให้มื้อนี้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น

พิกัด : President Tower Arcade ชั้น B ถนนเพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
วัน-เวลา : เปิดบริการ 11.00-23.30 น.
โทร. : 0-2656-0102, 08-8868-2211
ราคา : 195-3,900 บาท
รับบัตรเครดิต VISA และ Master Card