คนญี่ปุ่นใช้การ์ตูนในการพัฒนาประเทศ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ อย่างการ์ตูนเรื่อง “กัปตันซึบาสะ” เรื่องราวของเด็กผู้ชาย “โอโซระ ซึบาสะ” ชื่นชอบกีฬาฟุตบอลเป็นชีวิตจิตใจ ผลงานการเขียนของ “โยอิจิ ทาคาฮาชิ” ผู้มุ่งหวังให้ทีมชาติญี่ปุ่นได้เป็นแชมป์ฟุตบอลโลก ถูกตีพิมพ์เมื่อปี 2524 กลายเป็นแรงผลักดันให้ญี่ปุ่นพัฒนาเยาวชน มีลีกฟุตบอลอาชีพ ส่งผลให้ทีมชาติญี่ปุ่นผ่านเข้าไปแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายเป็นครั้งแรกในปี 2541 ที่ฝรั่งเศสเป็นเจ้าภาพ จากนั้นทีมชาติญี่ปุ่นกลายเป็นขาประจำในศึกฟุตบอลโลกมาตลอด การ์ตูนมังงะยังตีพิมพ์ออกมาหลากหลายเรื่องราว ล้วนเผยแพร่วัฒนธรรมของญี่ปุ่นให้คนทั่วโลกได้รู้จัก หลายคนรู้จักและชอบทานอาหารญี่ปุ่นก็มาจากการอ่านจากหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่นนี่ละครับ
“คุณชายตะลอน” สัปดาห์นี้ “คุณชายแป๊ะ” พาไปชิมของอร่อยที่ “ตลาดญี่ปุ่นทองหล่อ” ภายใต้การบริหารของ “คุณยุพเรศ เอกธุระประคัลภ์” ตลาดแห่งนี้เป็นแหล่งรวมกุ้ง หอย ปู ปลา สินค้านานาชนิดจากประเทศญี่ปุ่น ที่ลูกค้าสามารถเลือกให้เชฟนำมาปรุงให้ทานทันที “ตลาดญี่ปุ่นทองหล่อ” ตั้งอยู่ในซอยทองหล่อ 13 เข้าไปในซอยประมาณ 100 เมตร เลยสี่แยกมานิดเดียวก็เลี้ยวขวาเข้ามาจอดรถสะดวกสบาย แค่เห็นการตกแต่งด้านหน้าร้าน มีปูทาราบะสีแดงอมส้มตัวใหญ่ และปลาทูน่าครีบน้ำเงิน ตั้งตระหง่านอยู่ด้านบน ทำให้นึกถึงบรรยากาศตลาดปลาในประเทศญี่ปุ่นขึ้นมาทันที
...
เมื่อก้าวเท้าเข้ามาในร้านได้กลิ่นหอมของปลา ราวกับเดินอยู่ใน “ตลาดปลาซึกิจิ” ประเทศญี่ปุ่น มองเห็นปลาที่วางเรียงรายอยู่ในลังโฟมอัดน้ำแข็ง ตาปลาแต่ละตัวยังใสปิ๊ง มีทั้ง ปลาคินเมะได, ปลาอามะได, ปลาซันมะ, ปลาคามาสึ, ปลาโอ, ปลาอุสุบาฮางิ, ปลาตาเดียว อาซิจิเมะ, ปลาคัมปาจิ, ปลาชิมาอาจิ ล้วนเป็นปลาที่นำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่นโดยตรง นอกจากนี้ยังมีตัวเป็นๆของ หอยเชลล์ ฮอกไกโด และ หอยนางรม ฮิโรชิมา ที่เลี้ยงอยู่ในถังพลาสติกขนาดใหญ่ให้ออกซิเจน รับประกันความสด
มาถึงตลาดปลาทั้งที ก็ต้องลองทาน “ซูชิ” ที่เชฟชาวญี่ปุ่นตั้งใจปั้นมาเป็นเซตอย่างสวยงาม เนื้อปลาแต่ละชนิดรับประกันความสด ไร้กลิ่นคาว ยิ่งจิ้มซอสโชยุ เพิ่มวาซาบิลงไป พอเคี้ยวเข้าในปากรวมกันแล้วกลิ่นวาซาบิดันขึ้นจมูก ทำเอาน้ำตารื้นทั้งแสบจมูก และปลื้มปริ่มไปพร้อมกัน เนื้อปลาสด สะอาด หวาน ไร้ที่ติ กินแล้วมันฟินหัวใจราวกับนั่งชิลอยู่ที่ญี่ปุ่นจริงๆ
พลาดไม่ได้คือ “หอยนางรม” สั่งตรงจากฟาร์มในเมืองฮิโรชิมา “คุณยุพเรศ” ใช้สวิงอันเล็กยกหอยนางรมขึ้นจากถังพลาสติก ส่งให้เชฟนำมาแกะเสิร์ฟให้ทานกันสดๆ บีบมะนาว เติมซอสสไตล์ญี่ปุ่นลงไป เนื้อหอยนางรมนุ่มละมุนลิ้นเหลือเกิน ทานแล้วรู้สึกกระชุ่มกระชวยดี ลองทานหอยนางรมล้วนๆแล้ว เชฟรังสรรค์เมนูเพิ่มความน่ากินด้วยการนำ “ไข่หอยเม่น” และ “ไข่ปลาแซลมอน” มาทานร่วมกับ “หอยนางรม” กัดเข้าไปแต่ละคำ ต่อมรับรสรับรู้ถึงความชุ่มฉ่ำอยู่ภายในปากได้เป็นอย่างดี
...
ตบท้ายด้วยของหวาน “ไอศกรีมมัทฉะ” โดยมัทฉะจากเมืองชิซูโอกะ หวานละมุนลิ้น เขายังนำมัทฉะมาทำเป็นเครื่องดื่ม “มัทฉะยูซุ” ได้ความหวานของส้มยูซุและความหอมของมัทฉะชุ่มชื่นใจ
สำหรับใครที่ต้องการอาหารปรุงสำเร็จ ทางร้านก็มีเมนูให้เลือกหลากหลาย อาทิ ข้าวหน้าปลาดิบรวม “ชิราชิซูชิ” อัดแน่นไปด้วยเนื้อปลาดิบหั่นเต๋า, ข้าวปั้นปลาดิบ, ปลาย่าง บรรจุไว้ในกล่องอย่างดี วางให้เลือกหยิบได้ตามความต้องการของลูกค้า ตลาดแห่งนี้ไม่ได้มีดีแค่เนื้อปลาสดๆ ยังมี “เนื้อวัววากิว เกรดเอ 4” ไว้ให้เลือกซื้อ แบ่งหั่นเป็นชิ้น หรือสไลด์บางๆ มีหลายราคาตามน้ำหนักที่ลูกค้าต้องการ เห็นมันที่แทรกเป็นลายเนื้อวากิวแล้วยั่วน้ำลายจริงๆ ส่วนคนที่ชอบทานหมู มีจำหน่ายเนื้อหมูยูซุ ที่เลี้ยงด้วยการให้หมูทานส้มยูซุ สามารถปรุงเมนูได้หลากหลายตามความต้องการ ทั้งปิ้ง ย่าง ข้าวหน้าเนื้อ ข้าวหน้าหมู หรือสุกี้ชาบู
...
ของสดทั้งหมดสั่งตรงมาจาก “ตลาดปลาซึกิจิ” เครื่องบินออกจากญี่ปุ่นช่วงเวลาเที่ยงคืน และบินมาลงที่สนามบินสุวรรณภูมิ จากนั้นมีรถควบคุมความเย็นไปรับมาส่งที่ร้านในตอนเช้าทันที เชฟจะทำการแล่ปลามากุโระขนาดใหญ่ยักษ์ให้ชมช่วงสายๆของทุกวันอังคารและวันศุกร์ ตลาดแห่งนี้เป็นเหมือนศูนย์รวมของปลาสดที่เหล่าเชฟญี่ปุ่นร้านดังเข้ามาเลือกซื้อ หรือลูกค้าจะเลือกซื้อปลาแล้วส่งให้เชฟปรุงตามความต้องการ ก็มีที่นั่งไว้คอยให้บริการ
สำหรับคนมีลูกเล็กอย่างผม ชอบอ่านนิทานญี่ปุ่นให้ลูกฟังจะคุ้นเคยดีกับดอกไม้ญี่ปุ่น ที่นี่ก็มีจำหน่ายสำหรับประดับในจานซูชิ อย่าง “ดอกเก๊กฮวยสีเหลือง หรือโคกิคุ” และ “ดอกฮานะโฮจิโส” เรียกว่ามาที่นี่ที่เดียวได้ครบทั้งของคาว ของหวาน และเครื่องปรุงครบถ้วน
คุณยุพเรศเล่าว่า “จากการได้เรียนที่สหรัฐอเมริกาในชั้นไฮสคูล จบปริญญาตรีด้าน Hotel and Tourism Management จากวิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล เรียนภาษาที่ประเทศญี่ปุ่น และจบปริญญาโทด้านบริหาร จากประเทศอังกฤษ รู้สึกชอบประเทศญี่ปุ่นที่สุด เป็นจุดเริ่มต้นในการร่วมกับ “คุณโทโมมิ โคบายาชิ” เปิดบริษัท จี–ยู ครีเอทีฟ จัดงาน JAPAN EXPO THAILAND ที่ประเทศไทยมาแล้ว 9 ครั้ง เตรียมจัดครั้งที่ 10 ระหว่างวันที่ 7–9 ก.พ.2568 ที่เซ็นทรัลเวิลด์ เป็นช่องทางด้านความร่วมมือทางธุรกิจ การลงทุน การท่องเที่ยว การศึกษา แฟชั่น อาหาร และความบันเทิง ที่ผ่านมาเคยจัดงาน THAI EXPO และงาน THAI FESTIVAL ที่โตเกียว นำสินค้าไทยไปแลกเปลี่ยนเผยแพร่ที่ประเทศญี่ปุ่น เป็นความเชื่อมโยงระหว่าง 2 ประเทศ ตลอดชีวิตการทำงาน 20 ปี จึงผูกพันกับประเทศญี่ปุ่นมาโดยตลอด”
...
“ตลาดญี่ปุ่นทองหล่อ ต่อยอดจากการทำงานอีเวนต์ ด้วยการนำสินค้าปลา หอย ปูทาราบะเป็นๆมาจากญี่ปุ่น สามารถเลือกซื้อวัตถุดิบให้เชฟปรุงแล้วนำไปทานในพื้นที่ของร้านได้ ซื้อของกลับไปทำเองที่บ้านก็ได้ นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งที่เชฟมาซื้อวัตถุดิบไปทำอาหารอีกหลายร้าน สำหรับอาหารสดที่นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น เรานำเข้ามา 3 ครั้งต่อสัปดาห์ มั่นใจในความสด ปู หอยยังมีชีวิตอยู่ ใครที่อยากทานปลาญี่ปุ่น หาซื้อสินค้าคุณภาพดี ซื้อของฝาก หรือสาเกดีๆ ขอเชิญมาที่ตลาดญี่ปุ่นทองหล่อ สามารถตอบโจทย์แฟนพันธุ์แท้คนรักญี่ปุ่นทุกคน” คุณยุพเรศกล่าวด้วยรอยยิ้ม
สนนราคา ปลาซาบะย่างตัวละ 100 บาท, ข้าวปั้นหน้าปลาไหลย่างซีอิ๊ว 90 บาท, ข้าวปั้นหน้าปลาแซลมอนย่างเกลือ 55 บาท, สุกียากี้ด้ง 222 บาท, โซซาอิ 150 บาท, ข้าวหน้าปลาดิบหั่นเต๋า ชิราชิ 299 บาท, หอยนางรมตัวละ 109 บาท, ข้าวหน้าปลาดิบ มากุโระ 250 บาท, ข้าวหน้าปลาฮามาจิ 200 บาท เนื้อวากิว กิโลกรัมละ 2,500–3,000 บาท ไอศกรีมโคน 69 บาท, ไอศกรีมถ้วย 95 บาท, มัทฉะร้อน 55 บาท และยูสุ มัทฉะ 155 บาท “ตลาดญี่ปุ่นทองหล่อ” เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-19.00 น. โทรศัพท์ 0–2059– 2616 Facebook : Thonglor Nihon Ichiba ตลาดญี่ปุ่นทองหล่อ.
คุณชายแป๊ะ
คลิกอ่านคอลัมน์ “คุณชายตะลอนชิม” เพิ่มเติม