ยามนี้เมืองหลักเมืองรองท่องเที่ยวมีสภาพอากาศไม่ต่างกัน คือฝนตกผสมลมมรสุมบ้างบางพื้นที่ เพราะ “โลกร้อน” จนเดือดพล่านขึ้นทุกวี่วัน แต่วงจรธรรมชาติหมุนวนเป็นฤดูฝนประจำปี เหมาะแก่การทำเกษตรกรรม น้ำท่าอุดมสมบูรณ์

ส่วนวิถีท่องเที่ยวนั้นย่อมเป็นอุปสรรคการเดินทาง ทว่ามิได้ชะงักเสียที เพียงแต่เรียกวันฝนหลั่งเสียใหม่ว่า “กรีนซีซัน” ให้ดูซอฟต์ลง เพื่อมโนภาพท่องเที่ยวช่วงนั้นได้ตามอัตภาพ

คุณชาย 3” คิดเช่นนี้ถึงได้ไปเที่ยวไปกินที่จังหวัดระยอง ขณะกลิ่นทุเรียนไม่ทันจางหายจากนวัตกรรมแนวใหม่ชาวสวน ที่รู้จักสร้างผลผลิตนอกฤดูกับได้ชมฝนโปรยหาด...ดูน่ารักออก อีกอย่างที่ช่วยเพิ่มผลกำไรในการท่องเที่ยวช่วงนี้คือ ผู้คนไม่พลุกพล่านต้องชิงไหวชิงพริบแย่งชิงห้องพัก...เล่นเก้าอี้ดนตรีตามร้านอาหาร

ที่สำคัญ...ประหยัดค่าใช้จ่ายสินค้าค่าบริการบริโภคต่ำกว่าปกติ

อีกทั้ง ททท.ระยอง ก็กระตุ้นให้เที่ยวแบบ “สบ๊าย สบาย สไตล์ระยอง” จัดเลี้ยงทัวร์กรุ๊ปด้วยอาหารทะเลสดๆ หัวละ 200 บาท ถ้า 150 คนขึ้นไปมีงบไม่เกิน 3 หมื่นบาท เพียงบรรจุโปรแกรมทัวร์แหล่งรับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย อาทิ สวนสมุนไพรสมเด็จพระเทพฯ สมาร์ทฟาร์มมิ่งสวนยายดา เรือนจำกลางเขาไม้แก้ว ศูนย์เรียนรู้ป่าวังจันทร์ ชุมชนปากน้ำประแสร์ หรือใช้บริการร้านอาหารโรงแรมในโครงการส่วนลด 300 บาท

ครั้งนี้มีโอกาสไปเดินตามรอยโครงการเก่า “อีท @ อีสต์” กินอาหารที่ภาคตะวันออก ได้ พ.ต.อ.สรรเสริญ ประสพทรัพย์ อดีตผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรปลวกแดง นรต.รุ่น 27 เป็นเนวิเกเตอร์นำทางไปชิมอาหารทะเลสดๆ ซิงๆจากเรือประมงแบบไม่ทันได้ผ่านห้องเย็นสะพานปลาและพ่อค้าคนกลาง

...

ร้านที่ว่าชื่อน่ารักน่าชังชวนถนอม “เจ้จิ๋มซีฟู้ด” ต.เนินพระ อ.เมืองระยอง ปลายหาดที่ชื่อเดิม “ปากคลองตากวน (อ่านว่าตา กวน)” วันนี้เปลี่ยนเป็น “หาดสุชาดา” ตั้งแต่เมื่อใดไม่มีใครรู้?

แบบว่า...ใครสนใจอยากชิมของดี “เจ้จิ๋มฯ” ให้ใช้กูเกิลแม็ปนำทางรับรองถึงที่หมายแน่นอน

เสาวลักษณ์ แซ่ตัน หรือ “จิ๋ม” พื้นเพคนเมืองยองที่เล่ากันว่า...ฮิสั้น ผิดกับคนจันท์...ฮิยาว โตเป็นสาวชาวประมงชุมชนนี้แล้วไปเป็น “ซาโจ้” ร้านอาหารไทยอยู่ 20 ปี ที่เมืองมัตสึโมโตะ จ.นางาโนะ ห่างโตเกียวทางตะวันตก 20 กิโลเมตร มีคนอาศัยอยู่ 2.39 แสนคน

พอกลับมาก็ยึดอาชีพทำเรือประมงกับพี่น้อง ขายสินค้าอาหารทะเลกับเปิดร้านเจ้จิ๋มซีฟู้ด โดยใช้วัตถุดิบที่ได้สู่ครัวแต่ละวัน ซึ่งทำมานาน 9 ปีแล้ว

หลายคนถามว่าทำไมไม่เปิดครัวญี่ปุ่นตามเทรนด์นิยมคนไทยสมัยใหม่ยุคนี้...เจ้จิ๋มตอบทันที “มันไม่ง่ายอย่างที่คิดนะ...อาหารญี่ปุ่นละเอียดอ่อนพิถีพิถัน ใช้เวลาและควรใช้เชฟญี่ปุ่นตัวจริงถึงจะอร่อยตามต้นแบบ การเอาเชฟไทยมาทำอาหารญี่ปุ่นก็ไม่ต่างใช้เชฟญี่ปุ่นทำอาหารไทย คือไม่อร่อยเหมือนเจ้าของสูตร”

มื้อนี้เจ้จิ๋มไม่ปล่อยให้คุณชายนอยด์อดสงสัยในฝีมือไม่ได้ จึงลงมือเซตซาซิมิปลากะพงหั่นสไลซ์ตามแนวขวางเป็นชิ้นๆ มาให้ชิม อื้อฮือ...หล่อเชียวแหละ! เนื้อขาวนุ่มนวลยวนใจนักแล มีโชยุมาคู่วาซาบิ ไชเท้าคู่แครอทขูดเป็นเส้นๆ วางพร้อมผักเครื่องเคียงตามสไตล์ร้านซูชิญี่ปุ่น

ด้วยว่ามีความชอบเป็นทุนอยู่แล้ว มิรอช้ารีบจัดแจงคีบเนื้อปลาจิ้มโชยุคลุกวาซาบิ ส่งเข้าปากค่อยๆ บดๆเคี้ยวๆ ได้รสสดหวานโดยธรรมชาติเหนือร้านซูชิย่านสีลม ทองหล่อ สุขุมวิทเสียอีก

พอหนำใจได้เวลาเข้าสู่เมนูอาหารไทย...ไปต่อด้วยอาหารต้นตำรับตะวันออก คือ “ยำ 3 ไข่” ไข่ทั้งสามของเจ้มี...ไข่ปู ไข่แมงดาทะเล ไข่ปลาเรียวเซียวเม็ดกลมเขื่อง ยำใส่มะม่วงซอย มีตะไคร้หอมแดงให้กลิ่นหอมสมุนไพร มะนาวเพิ่มรสให้เข้มขึ้น ได้ผักชีฝรั่งโรยหน้ากับใบสะระแหน่เท่ดูน่ากิน

จานนี้...ราคาลูกหลานประมงปากคลองตากวนเคาะอยู่ที่ 250 บาท

ถัดต่อจากนั้น เจ้าของร้านแนะนำให้กิน “ปูก้อนผัดผงกะหรี่” สีเหลืองเกิดจากเครื่องเทศมีผงกะหรี่ผสมขมิ้น...ใส่พริกหวานผัดกับผักตั้งโอ๋ พืชสกุลเดียวกับเบญจมาศ วงศ์ทานตะวันกลิ่นหอมฉุยแตะจมูก เติมเนื้อปูแกะเป็นก้อน ผัดเป็นพระเอกนำในเมนูนี้ กินกับข้าวสวย...อร้อย อร่อย

...

เผ็ดเครื่องเทศผงกะหรี่ที่นุ่มเนียนด้วยเนื้อปูก้อน สอบถามราคาช่างสมเหตุสมผลกันดีกับวัตถุดิบที่ใช้คือ 350 บาทขาดตัว

อีกเมนูที่ถูกคะยั้นคะยอให้ชิมเมื่อมาถึงทะเลย่านนี้ นั่นคือ “ปลากะพงราดพริก” หรือใช้ปลาเก๋าแทนก็ได้ ...แต่กะพงเนื้อเยอะและแน่นกว่าเก๋า

ใช้ปลาขนาด 1.2 กิโลกรัม ทอดกรอบนอกนุ่มในราดเครื่องปรุงรส มีพริกแดงจินดา พริกขี้หนูสวน กระเทียม ใช้น้ำมะขามเปียกรสหวานหอมอมเปรี้ยวแทนน้ำส้ม น้ำตาลทรายเพิ่มหวานกับน้ำปลาเสริมเค็มนิดๆติดปลายลิ้น มีชิ้นสับปะรดแนมเคียงไชเท้าและแครอทดีไซน์ไว้ข้างๆ

...

เมนูนี้เด็ดสาระตี่ยิ่งนัก ยินดีกดไลค์ให้ในรสเปรี้ยวและหวานพอดี๊พอดี จานนี้ราคากันเอง 450 บาท

สุดท้ายมาลงตัวกันที่ “กุ้งแม่น้ำบาง ปะกง” แปดริ้ว มีขนาดกลางถึงใหญ่ แต่ใช้ครึ่งกิโลฯต่อจานทอดกับกระเทียมพริกไทย แต่งหน้าด้วยผักชี เหมาะกินกับข้าวสวยร้อนๆเช่นกัน...ราคา 420 บาทเอาล่ะครับ ร้านเจ้จิ๋มซีฟู้ดมีเมนูทั้ง กุ้ง หอย ปู ปลา หมึกและส้มตำให้เลือกอีกกว่าร้อยรายการ คุณชายฯ การันตีได้ด้วยความสดจากทะเลแค่เอื้อม เปิดทุกวัน 9 โมงเช้าถึง 4 ทุ่ม เว้นวันหยุดสำคัญ...เพื่อไม่ให้ลูกค้าผิดหวัง โทร.สอบถามได้ที่เบอร์ 08-1782-8851, 06-1231-0498 นะขอรับ.

คุณชาย 3

คลิกอ่านคอลัมน์ “คุณชายตะลอนชิม” เพิ่มเติม