ขับรถพาครอบครัวมาเที่ยวพัทยา จังหวัดชลบุรี คราวนี้ถนนหนทางเจริญขึ้นผิดหูผิดตา การคมนาคมไปไหนมาไหนสะดวกโยธิน มีทั้งอุโมงค์ลอดทางแยก สะพานข้ามแยกเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่ ลดปัญหาจราจรติดขัดตามแยกไฟแดง ผมขับรถดิ่งไปที่ซอยนาจอมเทียน 8 แหล่งรวมของอร่อยอีกแห่งของเมืองพัทยา ร้านอาหารย่านนี้เป็นสไตล์บ้านๆ ถ้าใครชอบอาหารทะเลสดๆ รสชาติจัดจ้าน นั่งชิดติดทะเล มาที่ซอยนาจอมเทียน 8 รับประกันความฟิน

“คุณชายตะลอนชิม” สัปดาห์นี้ “คุณชายแป๊ะ” ขอแนะนำ “ร้านป้ารุณ” ของ “ป้ารุณ-จรูญ ศิริวรรณ” อายุ 64 ปี ตั้งอยู่ริมชายหาด สุดซอยนาจอมเทียน 8 จอดรถข้างร้านสะดวกสบาย ร้านเป็นอาคารชั้นเดียว แบ่งเป็นโซนให้ลูกค้า นั่งกินด้านข้าง และด้านหลังของร้าน มีทั้งโต๊ะไม้ และโต๊ะม้าหินไว้รับรอง มีร่มคันใหญ่ไว้คอย

บังแดดบังฝน ในยามอากาศดีนั่งชิลรับลมทะเลสบายๆ นั่งมองดูเรือประมงของชาวบ้านลอยทะเลเรียงรายอยู่ตามแนวชายฝั่ง มองออกไปเห็นเส้นขอบฟ้าไกลสุดลูกหูลูกตา เหมาะสมกับคำว่า “อาหารหลักร้อย วิวหลักล้าน” โดยแท้

...

ด้านหน้าร้านติดริมถนนซอยนาจอมเทียน 8 “เชฟเมย์-เมธานี สุขกระจ่าง” สาวสองคนสวย เชฟมือหนึ่งประจำร้านกำลังง่วนอยู่ที่หน้าเตา ผัดกับข้าวด้วยความแคล่วคล่อง กลิ่นหอมของเครื่องพริกแกง ลอยโขมงโฉงเฉงไปตามแรงลม เสียงตะหลิวเคาะกับกระทะดังกระทบกันเป็นระยะๆ ท่วงท่าของเธอราวกับ “วาทยกร” กำลังกำกับวงดนตรี “ออเคสตรา”

“อร่อยทุกอย่างจ้า ต้ม ผัด แกง ทอด เด็ดทุกจาน” เชฟเมย์ป่าวประกาศ อย่างเป็นกันเอง ทันทีที่ผมเดินเข้าไปทักทาย ในมือยังควงตะหลิวจับกระทะไปด้วย “ถ้าจานไหนไม่อร่อยมาด่าเจ๊ได้เลยยย” เธอลากเสียงยาวตามสไตล์สาวสองผู้ช่ำชองการทำอาหาร

ด้วยเกรงในวัยวุฒิ และตะหลิวในมือเชฟเมย์ ผมได้แต่ตอบกลับว่า “ไม่กล้าด่าหรอกครับ กลัวโดนสวน” ผมพูดเองยังอดกลั้นขำไว้ไม่อยู่

เดินถัดไปข้างร้านอีกฝั่งเป็นส่วนของครัวสำหรับการตระเตรียมวัตถุดิบ เห็น “ป้ารุณ” กำลังแล่ปลาอินทรีตัวใหญ่ เนื้อปลาสีขาวอมชมพู บ่งบอกถึงความสดใหม่ไซส์ใหญ่น่ากิน

“เดี๋ยวนี้ป้าไม่ได้ทำกับข้าวเองแล้ว มีลูกๆ หลานๆมาช่วยเป็นแม่ครัวให้ แต่รับประกันว่าอร่อยเหมือนเดิม” ป้ารุณบอกกล่าว ขณะสับปลาอินทรีเป็นท่อนๆ

แค่เห็นครัวแบบบ้านๆ รู้สึกเหมือนได้ไปเยี่ยมบ้านญาติที่ต่างจังหวัด มันได้ความรู้สึกเป็นกันเอง ไหนจะวัตถุดิบที่กำลังตระเตรียม มีทั้งกุ้งสดๆและหมึกสดๆ เห็นแล้วช่วยเรียกน้ำย่อยในกระเพาะอาหารให้เริ่มทำงาน

ผมสั่งอาหารไปหลายอย่างใช้เวลารอไม่นาน จานแรกถูกนำมาเสิร์ฟ “ทะเลทอดกระเทียม” ปริมาณของหมึก, กุ้ง, หอย อัดแน่นพูนจาน ผัดกับน้ำมันหอย ได้ความเงาวาวของน้ำมันเคลือบไว้ทั่ววัตถุดิบ กลิ่นหอมของกระเทียมเจียวที่นำไปผัดคลุกยิ่งยั่วน้ำลาย เนื้อหมึกกล้วยสดเด้งเคี้ยวง่าย ไม่เมื่อยกราม ขนาดแม่ยายผมที่ไปกินด้วยยังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ในความเอร็ดอร่อย เติมน้ำปลาเพิ่มพริกขี้หนูสวนซอยลงไปคลุกกับข้าว รับรองอร่อยจนต้องร้องว้าว งานนี้เชฟเมย์ไม่ต้องห่วงเรื่องถูกด่า เพราะทำกับข้าวอร่อยแบบนี้ต้องถูกรักเข้าเต็มหัวใจ

จานต่อมา “ผัดฉ่าทะเล” อัดแน่นทั้งเครื่องสมุนไพรไทย ผัดคลุกเคล้า เข้ากับวัตถุดิบสดๆจากทะเล ทั้งกุ้ง, หมึก, หอย ใส่กันมาแบบไม่ยั้งมือ รสชาติความเผ็ดร้อน เรียกเหงื่อซึมทั้งตัว ช่างครบเครื่องเผ็ดร้อน และหอมพริกไทยอ่อนใส่มาเป็นพวงๆ กัดกินแล้วมันสะใจสายฮาร์ดคอร์อย่างผม ส่วนตัวหมึกและกุ้งนั้นสดจริงๆ กินแล้วไม่ผิดหวัง

...

“ต้มยำทะเลน้ำใส” ได้รสชาติเครื่องต้มยำ แท้ๆ กลิ่นหอมของเครื่องต้มยำมาครบ ทั้งข่า, ตะไคร้, ใบมะกรูด แต่งรสด้วยน้ำมะนาวสดๆ, น้ำปลาหอมๆ และพริกขี้หนูสวนตำหยาบๆ โรยผักชีฝรั่งซอย ทำให้ต้มยำกลายเป็นอาหารจานพิเศษขึ้นมาทันที น้ำต้มยำรสชาติจัดจ้านสไตล์บ้านๆแบบนี้ ได้ใจคนกินไปทั้งดวง เนื้อปลากะพงหั่นมาเป็นท่อนชิ้นหนา เคี้ยวเต็มปากเต็มคำ ความสดคือความดีงามประจำร้านป้ารุณ

...

ไม่สั่งไม่ได้คือ “ปลากะพงทอดราดน้ำปลา” จานเอกประจำครอบครัวผม ทานได้ทุกวัย ปลากะพงไซส์ใหญ่ น้ำหนักตัวประมาณ 1 กิโลกรัม ทอดในน้ำมันให้ผิวปลาเหลืองทองอร่าม ราดด้วยซอสน้ำปลาเคี่ยวกับน้ำตาลมะพร้าว โรยหน้าด้วยกระเทียมเจียวกรอบๆ กลิ่นหอมขึ้นจมูก เนื้อปลากะพงสดๆ เนื้อนุ่มเนียน หันไปเห็นรอยยิ้มพ่อตาแม่ยาย และลูกสาว ต่างมีความสุขกับอาหารจานนี้ ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าอร่อย

ผมสั่ง “แกงป่าทะเล” มาเอาใจแม่ยายโดยเฉพาะ เนื่องจากแม่ยายไม่ชอบทานแกงกะทิ ทันทีที่แม่ยายยกช้อนชิมน้ำแกง ก็ยกนิ้วโป้งให้ผม เป็นที่ถูกอกถูกใจ เครื่องพริกแกงหอมๆ ซดน้ำแกง เคี้ยวมะเขือพวง และมะเขือเปราะ ช่วยให้ซดคล่องคอ เชื่อว่าเป็นเมนูที่ผู้ใหญ่ต้องถูกใจ

หันมาเอาใจภรรยาบ้าง ด้วยเมนู “ทะเลผัดผงกะหรี่” ซึ่งชื่นชอบกลิ่นหอมของผงกะหรี่ ที่ผัดเข้ากับไข่นัวๆ คลุกกับวัตถุดิบ ทั้งหมึก, กุ้ง และหอยเชลล์เนื้อเด้งๆ กินแล้ววางช้อนไม่ลง จ้วงตักกินอย่างเอร็ดอร่อย เอามาคลุกกับ “ข้าวผัดปู” ยิ่งเจริญอาหาร

...

อาหารกลางวันมื้อนี้อิ่มอร่อยไปถึงเย็นแน่นอน ผมลุกขึ้นจากโต๊ะริมทะเล เดินเข้าไปคุยกับ “ป้ารุณ” ที่ยังคงแล่ปลาอยู่ในครัวอีกรอบ แต่ขณะเดินผ่านหน้าเตา ได้ยินเสียง “เชฟเมย์” ดังลอยมาแต่ไกล “อร่อยไหมจ๊ะ”

“อาหารอร่อยเด็ดทุกจานเลยครับ ครอบครัวผมปลื้มกันถ้วนหน้า” ผมตอบแบบไม่ต้องคิดเลย เพราะเป็นสิ่งที่อยากจะบอกจริงๆ ทำเอาเชฟคนสวยยิ้มไม่หุบ

หันไปคุยกับป้ารุณเล่าว่า “ร้านอาหารบ้านๆ ทำกันเองในครอบครัว ป้าเปิดร้านมานาน 30 ปีแล้ว ก่อนหน้านี้ครอบครัวป้าเป็นชาวประมง ลากอวนปู ไดหมึกขาย พอครอบครัวเลิกทำประมง ป้าก็หันมาเปิดร้านอาหารแทน อาศัยว่าป้าเป็นคนชอบทำอาหารมาตั้งแต่เด็กๆ เอาฝีมือที่เรามีมาทำขายให้ลูกค้าชิม เน้นรสชาติจัดจ้านถึงเครื่องถึงรสชาติ บ้านป้ากินแบบไหน เราก็ทำขายแบบนั้น อย่างพวกปลา, หมึก, กุ้ง, หอย ป้าไม่ได้ไปจ่ายตลาดหรอก เพราะมีชาวประมงเอามาขายสดๆทุกวัน พอเขาจับได้ก็เอามาขายร้านป้าเลย ของป้าถึงสดใหม่ทุกวัน เมื่อก่อนป้าทำเองหมดทุกอย่าง แต่พออายุมากขึ้นมันยืนนานๆไม่ไหว เลยฝึกลูกๆหลานๆ ให้มาเป็นแม่ครัวแทน”

“ลูกค้าป้าส่วนใหญ่มาจากกรุงเทพฯ คนจังหวัดใกล้เคียงที่มาเที่ยวพัทยาก็เยอะ ป้าว่าเขาคงติดใจในรสชาติอาหารนะ พอมาเที่ยวพัทยาต้องแวะเข้ามากิน กลายเป็นลูกค้าประจำกันไป แต่มีบางทีที่ลูกค้าเข้ามาพร้อมๆกัน ก็ต้องรอคิวกันหน่อย เพราะแม่ครัวมีแค่ 2 คน เราทำกันในครอบครัวไม่ได้จ้างคนอื่นมาทำ อยากให้ลูกค้าที่มากินใจเย็นๆ อีกอย่างป้าไม่รับจองโต๊ะ เพราะเกรงใจคนที่เขามาถึงก่อน เอาเป็นว่าใครมาก่อนก็ได้กินก่อน ว่ากันไปตามคิวดีที่สุด ป้าเชื่อว่าที่ร้านป้าอยู่ได้มาถึงทุกวันนี้ นอกจากรสชาติของอาหารแล้ว มันมาจากความซื่อสัตย์ของเรา ทำให้ลูกค้าไว้ใจ อีกอย่างป้าเป็นคนตามใจลูกค้า ใครมาอยากกินอะไรขอให้บอก ป้าทำให้กินได้หมด” ป้ารุณกล่าวปิดท้าย ด้วยรอยยิ้มพิมพ์ใจ

สนนราคา ทะเลทอดกระเทียม 200 บาท, ผัดฉ่าทะเล 200 บาท, ต้มยำทะเลน้ำใส 200 บาท, ปลากะพงทอดราดน้ำปลา 300 บาท, แกงป่าทะเล 200 บาท, ทะเลผัดผงกะหรี่ 200 บาท นอกจากนี้ แนะนำให้ชิม ผัดเปรี้ยวหวานทะเล, เอ็นหอยทอดกระเทียมและต้มข่าทะเล “ร้านป้ารุณ” เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00–16.00 น. โทรศัพท์ 08–4272–8830.

คุณชายแป๊ะ

คลิกอ่านคอลัมน์ “คุณชายตะลอนชิม” เพิ่มเติม