“พระพุทธโสธร” ชาวพุทธเรียกกันติดปากว่า “หลวงพ่อโสธร” เป็นที่พึ่งทางใจของทั้งชาวแปดริ้ว และพุทธศาสนิกชนทั่วประเทศ ไปเที่ยวจังหวัดฉะเชิงเทราครั้งใด ผมต้องไปสักการะกราบไหว้ขอพรเป็นประจำ มาบ่อยจนแม่ค้าในตลาดหน้าวัดทักทายเป็นเสียงเดียวกัน “ว่าไงจ๊ะพ่อรูปหล่อ” ทิ้งช่วงไม่นานเสียงแม่ค้าถามว่า “ชิมขนมจากไหมจ๊ะ” ทำเอาต้องรีบตั้งสติ ที่ไหนได้จะชวนซื้อขนมนี่เอง

“คุณชายตะลอนชิม” สัปดาห์นี้ “คุณชายแป๊ะ” ขอแนะนำร้าน “ศุภณัฐ ไก่หมุน” ของ “คุณลัย–มาลัย สุขเกษม” อายุ 52 ปี อดีตขี่สามล้อรับจ้าง ผันตัวมาเป็นแม่ค้าขายไก่ย่าง ด้วยความวิริยะอุตสาหะสามารถสร้างเนื้อสร้างตัวด้วยความตั้งใจจริง “ไก่หมุน” อร่อยเลื่องชื่อลือชาเป็นที่รู้จักของชาวแปดริ้วมายาวนาน ร้าน “ศุภณัฐ ไก่หมุน” สังเกตง่าย ถ้าขับรถออกจากวัดโสธรมาทางถนนศรีโสธร เลี้ยวซ้ายเข้าถนนมหาจักรพรรดิ์ จะเห็นเตาหมุนไก่ไซส์ใหญ่ยักษ์ตั้งอยู่ริมถนน

คุณลัยเป็นคนน่ารักอารมณ์ดี รอยยิ้มบ่งบอกถึงความเป็นกันเองตั้งแต่แรกพบ ช่วยดึงดูดลูกค้าสร้างความคุ้นเคยได้เป็นอย่างดี ที่ยอดเยี่ยมไปกว่านั้นคือ “ไก่หมุน” ทำเอาผมติดอกติดใจต้องแวะซื้อกลับบ้านแทบทุกครั้ง ด้วยความติดใจในรสชาติกลมกล่อมของเนื้อไก่นุ่มๆ สมสโลแกนร้าน “ไก่สด ย่างสุก น้ำจิ้มรสเด็ด”

...

พนักงานกำลังเติมถ่านลงเตา ไอความร้อนจากเตาถ่าน แม้ยืนอยู่ห่างๆยังสัมผัสได้ แท่งเสียบไก่ทำจากสเตนเลสยาว 2 เมตร สามารถเสียบไก่ย่างได้ครั้งละ 10 ตัว ติดกลไกฟันเฟืองด้วยระบบไฟฟ้า ทำหน้าที่หมุนไก่อัตโนมัติ ได้ความร้อนทั่วถึงและสม่ำเสมอ สามารถย่างพร้อมกันครั้งละ 40 ตัว มองเห็นตัวที่ย่างเสร็จแล้ว สีสันช่างยั่วน้ำลาย

“เอาไก่ย่างตัวนึงครับพี่ลัย”

ทันทีที่ผมร้องสั่ง พนักงานคว้ามีดเฉือนไก่ทั้งตัวออกมาจากแท่งหมุน ส่งให้คุณลัยสับเป็นชิ้นใหญ่ๆใส่มาในจานเต็มตัว

ไก่ย่างส่งกลิ่นหอม ควันจากความร้อนยังระอุ เนื้อไก่มีรสชาติหวานหอมของเครื่องหมักเข้าถึงเนื้อ ทำให้เนื้อไก่นุ่มละมุนลิ้น โดยเฉพาะชิ้นส่วนสะโพกทำเอาผมหยุดปากไม่ได้ ยอมปล่อยตัวปล่อยใจปล่อยให้ปากเคี้ยวบดขยี้ไก่ด้วยความเพลิดเพลิน จากปกติไม่ชอบทานหนังไก่ ถือเสียว่านานๆกินที มันดีต่อใจเป็นที่สุด

ทานไก่ย่างทั้งทีต้องมีของคู่กัน นั่นคือ “ส้มตำ” สุดแท้แต่จะชอบ “ส้มตำไทย” หรือ “ส้มตำปูปลาร้า” เลือกทานกันตามสะดวก นอกจากไก่หมุนแล้ว ยังมีอาหารหลากหลายชนิดไว้ให้ลูกค้าเลือกชิม ตั้งแต่ต้มยำ ไปจนถึงตำถาด ล้วนมีบริการครบครัน

“ทำยังไงไก่ถึงนุ่มอร่อยแบบนี้ครับพี่ลัย” ผมเปิดประเด็น

...

“ไก่หวานเข้าเนื้อมาจากการหมักข้ามคืน ใช้ส่วนผสมนมสด, น้ำตาล, เกลือ และซอสปรุงรส ปราศจากผงชูรส ทำให้เนื้อและหนังนุ่ม แต่นมสดต้องใส่ในปริมาณพอดี เพื่อไม่ให้ไก่เปื่อยเกินไป ไก่ของเราใช้ไก่สดจากบริษัทซีพี หมักแบบวันต่อวัน โดยเฉพาะในช่วงตรุษจีนที่ผ่านมา มีคนสั่งทั้งไก่ต้ม, ไก่ย่าง, เป็ดย่าง และเป็ดพะโล้ ทำกันทั้งวันทั้งคืน เพื่อให้ลูกค้าได้นำเป็ดไก่ไปไหว้เจ้า ลูกค้าสามารถสั่งจองไก่และเป็ดสำหรับไหว้เจ้าวันสารทจีนได้เช่นกัน พนักงานของเราดูแลกันแบบครอบครัว เมื่อออเดอร์เต็มเราก็ปิดรับ เพื่อให้ลูกน้องได้พักผ่อน ทุกวันนี้ขยายสาขาอยู่ที่ถนนศรีโสธรอีก 1 แห่ง ตรงนั้นมีที่จอดรถสะดวกกว่า แต่คนก็ยังมาซื้อตรงสาขานี้ด้วยความคุ้นเคย”

...

“พี่ลัยขายไก่ย่างมากี่ปีแล้วครับ”

คุณลัยทำท่านึกพักใหญ่ “พี่กับสามี (นายภาณุ สุขเกษม อายุ 55 ปี) ขายไก่หมุนมา 25 ปี กว่าจะมีทุกวันนี้ไม่สวยงามอย่างที่เห็นหรอก พี่เคยขายกับข้าว ขายขนมตามโรงงาน แต่ขายไม่ดี จากนั้นพี่กับสามีหันไปขี่สามล้อรับจ้าง พอมีลูก 3 คนความเป็นอยู่ลำบากมาก กระทั่งไปเป็นลูกจ้างร้านไก่หมุนห้าลาว อยู่ปากทางเข้าวัดก้อนแก้ว เจ้าของถือเป็นผู้มีพระคุณของพี่และครอบครัว ได้เรียนรู้วิธีหมักไก่ การหมุนไก่ รวมทั้งสูตรน้ำจิ้ม เจ้าของถามพี่ตลอดว่า ถ้าพร้อมจะไปขายเองขอให้บอก เขาให้สูตรไปทำกินได้เลย เมื่อทำได้ 1 ปี จึงออกมาย่างไก่ขายเอง แรกเริ่มยังขายไม่ดี ขายได้วันละ 3-5 ตัว พอเริ่มขายได้เกิดโรคไข้หวัดนก ล้มลุกคลุกคลาน อดทน ฟันฝ่าเรื่อยมา กระทั่งเจ้าของที่ดินให้มาเช่าที่ขายตรงนี้”

...

“พอเริ่มมีร้าน พี่กลับถูกดูแคลนจากเจ้าของร้านอาหารใกล้ๆว่าขายได้วันละกี่ตัวกัน แฟนพี่แกล้งบอกไปว่า ขายได้วันละ 30 ตัว ทั้งที่ความเป็นจริง ขายได้ไม่เกิน 5 ตัวต่อวัน แต่ด้วยความอดทน ไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก แม้จะต้องกระเสือกกระสนยังไง เราก็ไม่ยอมแพ้ พี่ถือว่าโชคดีที่มีคนคอยสนับสนุน ทั้งเรื่องค่าเช่าที่ และค่าไก่สด ช่วยให้เราสามารถหมุนเงินได้ ช่วยประคับประคองครอบครัว กระทั่งมีกินมีใช้มาตลอด 25 ปี จนเดี๋ยวนี้คนที่เคยดูถูกเราเค้าเลิกค้าขายไปนานแล้ว แต่ร้านเราก็ยังคงอยู่”

คุณลัยน้ำตารื้น “จากค้าขายกับข้าว ขี่สามล้อเครื่อง เราช่วยกันสร้างเนื้อสร้างตัว มีรถ มีบ้าน แต่ยังมีหนี้สินอยู่นะ ด้วยไก่หมุนทำให้เราลืมตาอ้าปากได้ จากวันที่คนดูถูก ดูแคลน เผชิญโรคไข้หวัดนกและโควิด สู้ฝ่าวิกฤติทุกอย่าง จนมาถึงวันนี้ช่วงวันธรรมดาขายไก่ได้ 100 กว่าตัว ส่วนเสาร์-อาทิตย์ ขายได้วันละ 200 ตัว จนเพื่อนๆที่เคยขี่สามล้อบอกว่า เรามาถูกทางแล้ว ร้านของคนอื่นยอดตก แต่ร้านเรายังขายได้ตลอด ที่มีวันนี้ได้มาจากความรักในการค้าขาย บวกกับใจสู้ ถึงแรกเริ่มจะไม่ประสบความสำเร็จ แต่เราไม่เคยยอมแพ้ ภาพวันวานที่ต้องปล่อยลูกนอนอยู่ในห้อง 3 คนตามลำพัง พี่กับแฟนออกไปซื้อของมาหมักไก่ตอนตี 2 ตี 3 ยังจำได้ดี หากไม่มีวันยากลำบาก คงไม่มีทางมาถึงวันนี้”

สนนราคา ไก่หมุน ตัวละ 180 บาท, ไก่ครึ่งตัว 95 บาท, ลาบหมู 80 บาท และส้มตำไทย–ส้มตำปูปลาร้า 50 บาท นอกจากนี้ยังมีอาหารแนะนำ ตำถาดทะเล 170 บาท, ตำป่า 60 บาท, กุ้งชุบแป้งทอด 80 บาท และไส้อ่อนทอด 80 บาท มีอาหารอื่นๆให้เลือกชิมกว่า 50 รายการ ร้าน “ศุภณัฐ ไก่หมุน” เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30–19.00 น. หยุดทุกวันที่ 20 ของเดือน โทรศัพท์ 08–6112–0029.

คุณชายแป๊ะ

คลิกอ่านคอลัมน์ “คุณชายตะลอนชิม” เพิ่มเติม