จากที่ มาดาม ชีร์เลย์ เดนนิช อากิลาร์ บาร์เรรา เอกอัครราชทูตกัวเตมาลาประจำประเทศไทยเปิดทำเนียบให้เราได้เรียนรู้วัฒนธรรมของกัวเตมาลา ผ่านอาหารยอดนิยมที่เป็นที่รู้จักของกัวเตมาลาแล้ว จากอาหารจานหลักสู่ขนมหวาน เป็นที่แปลกใจที่ขนมอันขึ้นชื่อของกัวเตมาลา อย่าง Tamarind sweet และ Cocadas กลับมีความเหมือนขนมไทยที่คุ้นเคย
ขนมหวานดั้งเดิมของกัวเตมาลา มักจะนำวัตถุดิบจากธรรมชาติอย่างน้ำผึ้ง, ผลไม้, เมล็ดธัญพืชและสมุนไพร มารังสรรค์เป็นขนมหวาน จนกระทั่งตกเป็นอาณานิคมของสเปน ในศตวรรษที่ 16 จึงได้รับอิทธิพลทางวัฒนธรรมและได้นำเอานมและน้ำตาลมาผสมผสานกับวัตถุดิบเดิมๆที่เคยใช้ ขนมหวานยอดนิยม หรือ popular traditional sweet ของกัวเตมาลา มีอาทิ Cocadas ที่มีความเหมือนขนมบ้าบิ่น และ Tamarind sweets หรือมะขามแก้ว ที่คนไทยรู้จักนั่นเอง
คุณอานา ลูเซีย เมซา รามิเรซ ที่ปรึกษาและกงสุล ประจำสถานเอกอัคร ราชทูตกัวเตมาลาประจำประเทศไทย และคุณ เปาลินา อินเตริอาโน เมนเดซ นักศึกษาฝึกงาน ประจำสถาน เอกอัครราชทูตกัวเตมาลาประจำประเทศไทย ได้เล่าวิธีการทำของทั้ง 2 เมนู ที่สะท้อนวัฒนธรรมการกินอยู่ของชาวกัวเตมาลาที่คล้ายคลึงคนไทย
...
วิธีการทำ Tamarind sweets หรือมะขามแก้วตามแบบกัวเตมาลา ประกอบด้วย
มะขาม 200 กรัม
น้ำตาล 400 กรัม
และสีปรุงอาหารสีแดง 1 ช้อนโต๊ะ
และน้ำ 1 ส่วน 4 ถ้วย
วิธีการทำ นำมะขามลงในหม้อต้ม เติมน้ำกวนจนมะขามเหลว จากนั้นปิดเตาแล้วใส่น้ำตาลลงไปผสมกับน้ำมะขาม ตามด้วยสีปรุงอาหาร คนให้เข้ากัน แล้วค่อยปั้นเป็นก้อนกลมเล็ก
ส่วนวิธีการทำ Cocadas ประกอบด้วย
เนื้อมะพร้าวขูด 250 กรัม
น้ำตาล 115 กรัม
ไข่ 2 ฟอง
วิธีการทำ เตรียมเตาอบอุณหภูมิ 350 องศา เวลา 15 นาที เอาวัตถุดิบทั้งหมดผสมในชามใหญ่ ผสมให้เข้ากัน จากนั้นปั้นเป็นก้อนกลมเล็กๆ แล้วเอาเข้าเตาอบ อบเป็นเวลา 15 นาที เมื่อขนมเย็นแล้วสามารถนำมาเสิร์ฟได้เลย.
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่