ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกวันนี้ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของสุขภาพและความสมดุลของชีวิตกันมากขึ้น และหันมาบริโภคผักและผลไม้ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ไม่ละเลยเรื่องรสชาติ ดังนั้นในวันนี้จะพาทุกคนไปรู้จักกับผักและผลไม้จากแถบยุโรป ที่เป็นที่เลื่องลือและชื่นชอบของคนทั่วโลก เพราะมีจุดเด่นอยู่ตรงคุณภาพที่ยอดเยี่ยม รสชาติคงที่ และมีความโดดเด่นในเรื่องความปลอดภัย แถมยังให้คุณค่าทางโภชนาการที่ดี

ด้วยแสงแดดอันเจิดจ้าและความหลากหลายทางชีวภาพอันเป็นเอกลักษณ์ อิตาลีจึงเป็นผู้ผลิตผักและผลไม้สดและแปรรูปชั้นนำของยุโรป รวมถึงประเทศสเปน ทั้งสองสืบสานประเพณีเกษตรกรรมที่มีมายาวนานหลายศตวรรษ ตั้งแต่ส้มหวานของซิซิลี เกาะทางตอนใต้ของอิตาลี ไปจนถึงแอปเปิลกรอบของเตรนตีโน-อัลโตอาดีเจ ทางเหนือของอิตาลี โดยแต่ละภูมิภาคนำเสนอผลไม้ที่คัดสรรมาอย่างมีเอกลักษณ์ มีกลิ่นหอมและคุณลักษณะเฉพาะของตัวเอง แคมเปญ “ศาสตร์ศิลป์แห่งรสชาติแบบยุโรป: สุดยอดผลิตภัณฑ์ผักและผลไม้” จึงได้เกิดขึ้นและได้ถูกสานต่อในประเทศไทย ซึ่งเป็นแคมเปญที่ส่งเสริมโดย CSO Italy และได้รับเงินทุนสนับสนุนจากสหภาพยุโรปเพื่อสานต่อการนำเสนอผักและผลไม้ทั้งสดและแปรรูปของยุโรป และนอกจากจะจัดขึ้นในประเทศไทยแล้ว แคมเปญดังกล่าวก็ยังจัดขึ้นที่ประเทศจีน ไต้หวัน ฮ่องกง และญี่ปุ่น โดยแคมเปญนี้ยังได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ของบริษัทชั้นนำจากอิตาลี ได้แก่ Apofruit, Cico-Mazzoni, Conserve Italia, Lagnasco, Oralfrizer, Origine และ RK Growers โดยหนึ่งในประเทศแถบยุโรปที่สามารถเพาะปลูกผักและผลไม้ได้นานาพันธุ์ก็คือ “ประเทศอิตาลี” ดินแดนที่มีภูมิอากาศหลากหลาย สภาพแวดล้อมอุดมสมบูรณ์ และทัศนียภาพที่สวยงาม รวมถึงยังเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อในเรื่องนำผักและผลไม้มาแปรรูป เพื่อส่งต่อผลิตภัณฑ์ผักและผลไม้ที่มีเอกลักษณ์ และมีคุณลักษณะเฉพาะตัวให้กับเหล่าผู้บริโภค

ในตอนนี้ทางศาสตร์ศิลป์แห่งรสชาติแบบยุโรปก็มีผักและผลไม้ทั้งสดและแปรรูปมาให้เลือกสรรกันมากมาย ไม่ว่าจะเป็นกีวีที่หลายคนต่างชื่นชอบในรสชาติและคุณค่าทางโภชนาการ เพราะมีวิตามินเค วิตามินอี โฟเลต แร่ธาตุโพแทสเซียม แร่ธาตุฟอสฟอรัส และแคลเซียม นอกจากจะมีน้ำตาลในระดับปานกลางแล้ว ก็ยังมีแคลอรีในระดับต่ำอีกด้วย สามารถลองลิ้มรสได้ เพราะขณะนี้เป็นฤดูของกีวี และอีกหนึ่งผลไม้ที่เป็นที่นิยมคือ ‘แอปเปิล’ ผลไม้ที่เป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระ เส้นใยไฟเบอร์ และสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย

ไม่เพียงแค่นั้น ‘ส้ม’ ยังเป็นผลไม้ที่ได้รับความนิยม และยังเป็นผลไม้ที่จะนำไปคั้นเป็นเครื่องดื่มบนโต๊ะอาหาร รวมถึงเป็นส่วนประกอบในการปรุงอาหารต่างๆ ในห้องครัว เพราะมีสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายที่ประกอบไปด้วย ฟรุกโตส แร่ธาตุ วิตามินซี วิตามินบี วิตามินพี กรดซิตริก และไฟเบอร์ ตลอดจนผักอย่าง ‘มะเขือเทศ’ ซึ่งเป็นหนึ่งในส่วนผสมของอาหารอิตาเลียนที่สามารถนำมาทำอาหารได้หลายอย่าง สร้างสีสัน เพิ่มรสชาติในอาหารจานเด็ด และยังเป็นวัตถุดิบที่ได้รับความนิยมไปทั่วทั้งเมือง เพราะไม่มีผักหรือผลไม้ชิ้นไหนที่ช่วยปั้นแต่งอาหารอิตาเลียนได้มากเท่ามะเขือเทศ

นอกจากนี้ผักและผลไม้ทั้งสดและแปรรูปจากแคมเปญศาสตร์ศิลป์แห่งรสชาติแบบยุโรป ยังทำเป็นเมนูสุดอร่อยได้หลายอย่าง จะมีอะไรบ้าง ลองไปดูกันได้เลย

แอปเปิลเป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระที่ดี ชาวยุโรปชอบนำไปทำพายแอปเปิล พายสอดไส้แอปเปิลอบปริมาณพอเหมาะ คือกุญแจวิเศษที่ทำให้พายมีกลิ่นหอมเหนือขั้น ส่วนผสมจากเลมอนและความกรอบของแป้งพายทำให้รสชาติกลมกล่อมลงตัว

มะเขือเทศและผลิตภัณฑ์จากมะเขือเทศ ที่สามารถใช้ทำอาหารได้หลากหลาย สร้างสีสัน และช่วยเพิ่มรสชาติ เช่น พาสต้าซอสมะเขือเทศ เพิ่มความหอมด้วยใบโหระพา เพิ่มน้ำมันมะกอก และปรุงรสด้วยชีส

ส้ม ผลไม้ที่ได้รับความนิยมสูงในการนำมาคั้นเป็นน้ำผลไม้ เพิ่มความหอมและชูรสชาติด้วยใบโหระพา

สลัดยี่หร่าและส้ม - เข้าถึงความเป็นซิซิลี ด้วยการปรุงสลัดยี่หร่าและส้มด้วยมะกอก หัวหอม และส่วนผสมสำคัญอื่นๆ

กีวี ผลไม้ที่อิตาลีเป็นผู้ผลิตและส่งออกกีวีรายใหญ่อันดับสองของโลก สามารถนำมาทำไอศกรีมกีวี หรือซอร์เบท - ไอศกรีมรสชาติผลไม้ หนึ่งในเมนูที่ผู้คนในอิตาลีนิยมบริโภค

หากผู้บริโภคท่านใดอยากมอบผลิตภัณฑ์คุณภาพให้กับร่างกาย สามารถร่วมลิ้มรสผักและผลไม้ทั้งในรูปแบบแปรรูปและยังไม่แปรรูปได้ตั้งแต่วันนี้ โดยดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ แคมเปญศาสตร์ศิลป์แห่งรสชาติแบบยุโรป หรือช่องทางออนไลน์ผ่านทางเว็บไซต์ https://www.europeanartoftaste.com/th/หน้าหลัก/ , ทาง Facebook: https://www.facebook.com/european.art.of.taste.th และทาง YouTube: https://www.youtube.com/@TEAOT 

Funded by the European Union. Views and opinions expressed are however those of the author(s) only and do not necessarily reflect those of the European Union or the European Research Executive Agency (REA). Neither the European Union nor the granting authority can be held responsible for them.