“กวยจั๊บ” เฌอฟ้า โรจนชาลี ครูจากโรงเรียนมารีวิทย์ พัทยา-ระยอง ทายาทหมอลำดังบ้านแท่น จ.ชัยภูมิ ผู้มีเสน่ห์ปลายจวักอาหารถิ่นให้เพื่อนครูกินประจำมาชวนไปชิม...“พาข้าว” ถึงร้านบ้านเกิด...งานนี้ “คุณชาย 1” มีหรือจะพลาด

ร้านที่ว่าเป็นเฮือนทุ่งบ้านนอกชื่อ “ฮักนาโคก : ฮ้านค้า ขายสุแนว” หรือ “รักนาโคก ร้านค้าขายจิปาถะ” ภาษากลางเรียก “รักษ์นาโคก ฟาร์มสเตย์”...เพราะเก๋และลงตัวดีทั้งสองชื่อ

ร้านนี้อยู่ห่างอำเภอ 3 กิโลเมตร บนทางหลวง 2187 แยกบ้านนาดีผ่านสวนส้มโอรายทาง ครูจั๊บบอก... “ส้มโอบ้านแท่นเปลือกบางปังสุดๆคือพันธุ์ทองดีหวานกรอบอมเปรี้ยวนิดๆส่งออกจีนทุกปี อีกพันธุ์ทับทิมสยามเนื้อสีแดงหวานนำกับขาวแตงกวาหวานกรอบอร่อย ให้ผลผลิตช่วงเดือนสิงหาคมมีเทศกาลประจำปีด้วย”

ครั้นพอถึงนาแปลงใหญ่ปักหมุดตรงที่ตั้ง ก็ได้พบ “โน” พลธณัฐ ก้านแก้ว วัย 42 ปี อินฟลูเอนเซอร์ผู้สร้างสรรค์งานในฐานะสตาร์ตอัพ ดีกรีศิลปศาสตรบัณฑิต เคยทำงานเป็นข้าวนอกนาอยู่กรุงเทพฯ

...

พบว่า...นี่ไม่ใช่ตัวตนเลยกลับบ้านแท่น อย่างไรเสียก็มีที่นาของพ่อแม่ 21 ไร่ให้เฮ็ด กับ “เถียงนา” เก่าเก็บกลางท้องทุ่งให้ตนกับพี่ชายช่วยกันซ่อม ทุ่มเงินลงทุน 5 พันบาท ซื้อประดู่มาต้นหนึ่ง แล้วลงแรงเลื่อยทำไม้กระดานตามภูมิปัญญาชาวบ้าน

“ซ่อมเสร็จ...พี่ชายใช้เป็นลานกางมุ้งนอน ส่วนโนนอนเต็นท์เพราะชอบแบบนั้น วันหนึ่งฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าธรรมชาตินาโคกนั้นแล้ง แต่นาแปลงนี้มีน้ำในหนองเล็กๆอยู่บ้าง แถมมีปลาดุกนาข้างเหลืองตัวใหญ่อาศัยอยู่ โนกับพี่ชายจึงลงมือทำบ่อเลี้ยงปลาขึ้นเพื่อไว้กินเอง”

จากนั้น...ฟื้นฟูดินที่เดิมปนเปื้อนสารเคมีให้พอปลูกพืชผักได้ เริ่มเปลี่ยนชีวิตจากเคยเป็นคนกรุงสู่สังคมเกษตรกร ค้นพบตัวตนคือเด็กท้องนาอีกครั้งอย่างมีความสุข แต่ต้องทนกับความแห้งแล้ง...ภัยเอลนีโญ

เริ่มหาทางออกด้วยการขุดคูเก็บน้ำฝนไว้ใช้เพิ่ม ทีแรกแม่ไม่ยอม...โกรธกลัวน้ำจะมีไม่พอทำนา แต่พอเห็นอนาคตจากการปลูกต้นไม้ชนิดไม่ต้องพึ่งน้ำ ระบบนิเวศก็กลับคืนมา โดยไม่คิดหรอกว่านาโคกจะมีน้ำชุ่มฉ่ำจากต้นไม้และดักแด้ ขี้กะเดียน (ไส้เดือน) จิ้งหรีด ปูนา แย้ หอยโข่ง ก็พร้อมคืนกลับสู่ธรรมชาติ

พลันบอกอีกว่าพืชผักที่ยกแปลง เช่น มะเขือเปาะ ผักชีลาว สมบูรณ์โดยไร้สารเคมี ไม้ผลงอกงามดีทั้งมะม่วง มะพร้าว มะยงชิด ส้มโอ รวมๆแล้วไม่ต่ำกว่า 400-500 ต้น...เป็นนาโคกแห่งแรกของบ้านแท่นที่ปลูกพืชไร่ได้ และยังใช้เป็นวัตถุดิบทำอาหารในฟาร์มกับอีกส่วนหนึ่งพี่ชายเอาไปขายในร้านของชำ

พ่อกับแม่จึงชวนละลายพฤติกรรมย้ายจากบ้านมานอนเถียงนาเฝ้าไร่แทน นอกจากนี้แล้วที่นาส่วนที่เหลือยังทำเป็นทุ่งเลี้ยงสัตว์จำพวกเป็ด ไก่...เพื่อเอาไข่ วัว ควาย...ไว้ใช้งานนาแทนเครื่องจักรเพื่อป้องกันมลพิษทางอากาศ...กระทั่งเกิดเป็นฟาร์มสเตย์ขึ้นมาเมื่อ 5 ปีก่อนที่ผ่านมานี่เอง

ครานั้นเพื่อนมาเที่ยวชมทำให้ต้องจำลองเถียงนาเป็นเฮือนพัก 7 หลัง โดยอาศัยประสบการณ์จากคนชอบเที่ยวเป็นโมเดล แล้วดีไซน์บรรยากาศให้กลมกลืนสิ่งแวดล้อมที่ไม่มีภูเขาและลำธารสายน้ำ มีแต่สีสันนาไร่เป็นองค์ประกอบสำคัญอย่างลงตัวและไปกันได้ พร้อมตั้งชื่อภาษาถิ่นให้ว่า... “ฮักนาโคก”

ฟาร์มสเตย์สมบัติชาวนาโคกบ้านนาดี อ.บ้านแท่น จ.ชัยภูมิ แล้วก็ถึงคิวคุณชายจะได้ “จกข้าวเหนียวข้าวก่ำ” ให้มันม่วนตาแซ่บ เมนูแรกออนซอนด้วยตำนาโคกเสิร์ฟใส่ถาดแบบที่เห็นร้านตำบักหุ่งนิยมใช้เป็นจุดขายเชิงอันซีน แซ่บนัวกลิ่นปลาแดกต้มสุกได้อนามัย มีพริกจินดาแดงโขลกปนมาน่ากิน ชิมแล้วเผ็ดฮ้อนอีหลี! 

...

ถาดเดียวกันบรรจุผักสดลวกจิ้มจากริมรั้วเป็นเครื่องเคียง ได้ปูนาต้มเนื้อดูเต็มอิ่ม 3-4 ตัว เสริมกับหอยโข่งจุ๊บกินแนมด้วยข้าวปุ้น ไข่ต้ม ขาดไม่ได้คือปลาทอด...เป็นช่วงน้ำหลากอีสานจะมีปลาหลายชนิดให้จับกินเป็นอาหาร...อีกจาน “ลาบปลาดุกนา” จากหนองน้ำนาโคกนี่แหละการันตีไม่คาว หอมกลิ่นข้าวคั่วแตะจมูก

คลุกมากับสมุนไพรใบมะกรูด ตะไคร้หั่นฝอย มะนาวสดรสเปรี้ยวพองาม พริกป่นเรียกรสเผ็ด...จานนี้ยิ่งแซ่บนัวตรงได้ข้าวเหนียวปั้น...อื้อหือ! คักอีหลี

แล้วก็มาถึงเมนูพิเศษ “หอยโข่งนาลวกจิ้ม” ที่แม่นแล้วคือหอยโข่งจากฟาร์มนี้ เป็นต้นตำนานการกินพาข้าวฉบับอีสานแท้ โดยลวกหอยกับสมุนไพรใบตะโก ใส่ตะไคร้ทุบ ใบมะกรูด ข่า น้ำจิ้มซีฟู้ดชูรสออนซอนความสดหอมหวาน...ได้บรรยากาศทุ่งนาป่าไร่ดีนักแล “ไผสิว่าอีสานฮ่าง...หือ?”

อีกเมนูที่หาเปิบไม่ง่ายนัก...นั่นก็คือ “ป่นปูนา” แม่ครัวเลือกปูนาตัวที่เนื้อแน่นมาป่นโดยแกะกระดองต้มกับมันปู จากนั้นใช้หอม กระเทียม พริกจี่ เด็ดสุดตรงใช้ปลาแดกผสมสูตรลับเฉพาะครัวนี้ คุณชายชิมแล้วรู้ทันทีมีรสเค็มน้ำปลากับเปรี้ยวมะนาวเป็นตัวนำ

...

ตบท้ายด้วยเมนู “งึดหงาย (อัศจรรย์)” ยกนิ้วให้ “ปลากะพงลุยสวน” ปลาได้จากอ่างน้ำจืดบ้านเพชรภูเขียว ปรุงแบบไม่ยั้งมือตั้งแต่ถั่วลิสงคั่วแต่งรสด้วยตะไคร้ ข่า ขิง เสริมกลิ่นด้วยใบมะกรูดทอด เผ็ดพริกขี้หนูสวนกับน้ำพริกเผา โรยด้วยกลีบส้มโอบ้านแท่นหรือมะม่วงซอยใส่ตามฤดูกาล

วางมะนาวฝานกับใบสะระแหน่ไว้บนสุด ราดน้ำยำซีฟู้ดสูตรรากผักชี น้ำมะขามเปียก น้ำตาลโตนด...เครื่องปรุงกะเดี้ยกะด้อ (มากจริงๆ) เผ็ดฮ้อนอีหลี อื้อหือ! ลืมไปว่าที่นี่แม่นอีสาน

ครูจั๊บปิดจ๊อบจบมื้อนี้ด้วยส้มโอทองดีบ้านแท่น เคาะราคาค่าอาหารแบบบ้านจานเดียวอยู่ที่ 59-159 บาท กินเป็นกับข้าว 129 บาท...แนวจานด่วน 49-350 บาท แนวจิ้มแจ่ว 79-159 บาท แบบสมุนไพร 70-100 บาท ขนมหวานไทยๆ 59-100 บาท ส่วนที่พักเถียงนาไม่จำเป็นต้องพรีเมียมติดแอร์หัวละ 499-599 บาทเท่านั้นจ้า

...

ใครสนใจมาเยี่ยมมาเยือน “ฮักนาโคก” ฟาร์มสเตย์ อำเภอบ้านแท่น จังหวัดชัยภูมิ เปิดทุกวัน 08.00–18.00 น. โทร. 09–8709–3527...บ่ได้ “ขี้ตั๊วะ”...หากตรงวันหยุดธรรมดาหรือพิเศษ ดีสุดคือเผื่อใจไว้บ้างเพราะยอดวิวเพจนี้ทะลุหลักแสนแล้ว อิ! อิ!

คุณชาย 1

คลิกอ่านคอลัมน์ "คุณชาย ตะลอนชิม" เพิ่มเติม