เจ้าพ่อไวรัลวงการเบอร์เกอร์อย่างเบอร์เกอร์คิงขอเกาะกระแสอีกครั้ง นำเมนู Black & Pink (แบล็คแอนด์พิงค์) มาสร้างสีสันใหม่ จากที่เคยดังในโซเชียลเมื่อปี 2564 พร้อมย้ำว่าไม่เกี่ยวกับวง BLACKPINK จริงๆ นะ

เมนู Black & Pink Burger (แบล็คแอนด์พิงค์ เบอร์เกอร์) ที่เบอร์เกอร์คิงเปิดตัวจนเป็นกระแสไวรัลในโซเชียลครั้งแรกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2564 สร้างยอดขายไปได้กว่า 40,000 ชิ้น ภายในเวลาไม่ถึง 1 เดือน โดยเบอร์เกอร์สีดำ มาจากเมนู แบล็ค ดับเบิ้ล กริลล์ ออเนียน ที่มีเนื้อย่างราดด้วยซอสสูตรเฉพาะ และเบอร์เกอร์สีชมพู มาจากเมนู พิงค์ แซลมอน เบอร์เกอร์ ใช้เนื้อปลาแซลมอนทอด ราดซอสค็อกเทล 

สำหรับการกลับมาอีกครั้งของ Black & Pink Burger (แบล็คแอนด์พิงค์ เบอร์เกอร์) ในคราวนี้ เบอร์เกอร์คิง คาดว่าจะสร้างกระแสไวรัลในโซเชียลจากกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้อีกครั้ง แต่เปลี่ยนรสชาติเบอร์เกอร์ให้ถูกปากคนไทยมากขึ้น โดยเบอร์เกอร์สีดำ มาจากเมนู แบล็ก วอปเปอร์ จูเนียร์ ที่สามารถเลือกเป็นเนื้อหรือหมูก็ได้ พร้อมซอสพริกไทยดำเข้มข้น และเบอร์เกอร์สีชมพู มาจากเมนู พิงค์ฟิชเบอร์เกอร์ เบอร์เกอร์ปลาอลาสก้า พอลล็อค พร้อมชีส ราดด้วยซอสค็อกเทล 

...

นายเจริญชัย บำรุงวงศ์ทอง Marketing Director บริษัท เบอร์เกอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เผยว่าการกลับมาของโปรโมชัน Black & Pink Burger (แบล็คแอนด์พิงค์ เบอร์เกอร์) ในครั้งนี้เพิ่มระยะเวลาขายนานขึ้นเป็น 2 เดือน คือตั้งแต่วันที่ 14 ก.ย.-14 พ.ย. 2566 พร้อมตั้งเป้าว่าจะสามารถทำยอดขายได้ไม่ต่ำกว่า 20-25 เปอร์เซ็นต์ของยอดขายทั้งหมด

นอกจากนี้เขายังย้ำว่าโปรโมชัน Black & Pink เบอร์เกอร์นี้ ไม่ได้เกาะกระแส BLACKPINK วงเคป๊อปชื่อดังแต่อย่างใด แต่เป็นช่วงจังหวะเวลาที่ออกมาในช่วงคาบเกี่ยวกับฮาโลวีนพอดี ซึ่งเบอร์เกอร์คิงจะมี Festive Burger ที่ออกมารับเทศกาลอยู่แล้ว การออกโปรโมชันนี้จึงไม่ได้อ้างอิงกับวงดังกล่าวอย่างแน่นอน

นายเจริญชัย บำรุงวงศ์ทอง Marketing Director บริษัท เบอร์เกอร์ (ประเทศไทย) จำกัด
นายเจริญชัย บำรุงวงศ์ทอง Marketing Director บริษัท เบอร์เกอร์ (ประเทศไทย) จำกัด

ส่วนกระแสไวรัล Real Cheese Burger (เรียลชีส เบอร์เกอร์) เบอร์เกอร์ชีส 20 แผ่น ที่กลายเป็นที่ฮือฮาในโซเชียลเมื่อช่วงเดือนกรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมาก็ทำให้ชื่อของเบอร์เกอร์คิงประเทศไทยดังไกลถึงต่างประเทศ ด้วยความคิดสร้างสรรค์เมนูที่แปลกใหม่จนทำให้หลายคนอยากลอง และทำเป็นคอนเทนต์บนออนไลน์ ซึ่งทำยอดขายได้กว่าหมื่นชิ้นภายในเวลาแค่ 3 วันที่เปิดตัว

นอกจากนี้ ยังต่อยอดกระแสไปสู่เมนู Real Meat Buger (เรียลมีท เบอร์เกอร์) ที่มาจาก Insight ของผู้บริโภคที่อยากเห็นการเพิ่มชิ้นเนื้อแทนเพิ่มชีส จึงได้นำออกมาขายจริงตามคำเรียกร้อง โดยให้เลือกเพิ่มชิ้นเนื้อได้ตั้งแต่ 3 ชิ้นขึ้นไปจนถึง 100 ชิ้น ก็สร้างกระแสได้ดีเช่นกัน แม้ว่ายอดขายจะไม่ได้มากเท่ากับเมนูเรียลชีสเบอร์เกอร์ แต่ก็ทำให้เห็นความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น เพราะมีการต่อยอดไปยังเมนูเบอร์เกอร์อื่นๆ ของเบอร์เกอร์คิง ให้เพิ่มชิ้นเนื้อเป็น 3 ชิ้นมากขึ้นถึง 5 เท่า ในช่วงที่มีกระแสดังกล่าวเกิดขึ้น

ภาพ : เบอร์เกอร์คิง