“ครัวซองต์” เป็นขนมอบเลื่องชื่อมีต้นกำเนิดที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย แต่ได้รับความนิยมแพร่หลายในฝรั่งเศส มักทานเป็นอาหารเช้า ต่อมาในปี 1920 “ครัวซองต์” ถูกยกให้เป็นขนมอบประจำชาติฝรั่งเศส ด้วยเอกลักษณ์โดดเด่นของครัวซองต์คือตัวแป้งกรอบนอกนุ่มใน ส่วนจะมีโพรงชั้นแป้งภายในครัวซองต์มากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับเทคนิคการพับแป้ง อย่างไรก็ดี หัวใจสำคัญของ “ครัวซองต์ชั้นดี” จะต้องใช้เนยฝรั่งเศส เกรดไขมันเนย 84% จึงจะได้ความหอมละมุนแบบต้นตำรับแท้ๆ
“คอลัมน์คุณชายตะลอนชิม” สัปดาห์นี้ “คุณชายแป๊ะ” ขอพาไปบุกโรงงานผลิตครัวซองต์เจ้าใหญ่ เป็นซัพพลายเออร์เจ้าแรกๆในเมืองไทยที่บุกเบิกตลาดครัวซองต์ สร้างกระแสนิยมไปทั่วบ้านทั่วเมืองภายใต้ชื่อ “บลองค์ พาทิซเซอร์รี่” (BLANC PATISSERIE) ปลุกปั้นโดย “เชฟนัท-สิทธา บุญโพธิ์อภิชาติ” และ “ค๊อป-วรณัฐ ศรีสมบุญ” ที่ร่วมกับกลุ่มเพื่อนเก่าโรงเรียนเซนต์คาเบรียลก่อร่างสร้างบริษัท บลองค์ พาทิซเซอร์รี่ ปักหลักอยู่ที่ซอยลาดพร้าว 130 เพื่อผลิตครัวซองต์คุณภาพดีให้ลูกค้าทั่วไป รวมทั้งเป็นซัพพลายเออร์ส่งให้ร้านคาเฟ่น้อยใหญ่ทั่วประเทศไทย
...
“ค๊อป-วรณัฐ” ออกมาต้อนรับผมที่หน้าประตูโรงงานด้วยท่าทางเป็นมิตร เชื้อเชิญให้เข้าไปชมการผลิตครัวซองต์ที่ชั้น 3 แค่เดินเข้ามาด้านในก็ได้กลิ่นหอมของเนยฝรั่งเศสหอมฟุ้งเชียว นี่ขนาดกลิ่นยังสัมผัสได้ถึงความหอมละมุนเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว แตกต่างจากร้านเบเกอรีทั่วไป
ด้าน “เชฟนัท-สิทธา” กำลังง่วนอยู่กับการสร้างสรรค์ครัวซองต์ในตำนาน ผมทันได้เห็นขั้นตอนการทาไข่แดงบนแป้งครัวซองต์ก่อนนำไปอบ แล้วค่อยเติมไส้หลากรสใส่เข้าไปในครัวซองต์ เครื่องรีดแป้งขนาดใหญ่มีความยาวเกือบ 3 เมตร เตาอบขนาดใหญ่หลายตัวกำลังทำงานส่งความร้อนอบครัวซองต์ให้ขึ้นรูปและสุกน่าทาน ทั้งห้องเตรียมแป้ง ห้องพักแป้ง ห้องอบ และบรรจุส่ง ได้มาตรฐานระดับโรงงาน
หันไปทางไหนก็เห็นครัวซองต์น่าทานเต็มไปหมด “ค๊อป-วรณัฐ” นำครัวซองต์ที่เพิ่งอบเสร็จร้อนๆออกจากเตามาให้ชิม แค่ได้กลิ่นของเนยก็แทบละลายแล้ว พอกัดแป้งครัวซองต์ที่เรียงซ้อนกอดรัดเป็นชั้นถี่ๆ สัมผัสได้เลยถึงความกรอบนอกนุ่มใน นี่เองคือความแตกต่างของครัวซองต์ที่ใช้วัตถุดิบเกรดพรีเมียม
“เชฟนัท” เล่าว่า “เทคนิคการทำครัวซองต์เริ่มจากหมักแป้งโดว์ที่นำเข้าจากต่างประเทศ หมักทิ้งไว้ 1 คืน ก่อนนำไปผสมกับแป้งของไทย เพื่อให้ได้คุณสมบัติของตัวแป้งดียิ่งขึ้น โดยตัดเป็นไซส์ตามขนาดที่ต้องการก่อนนำแป้งไปพักอีก 1 คืน เพื่อให้แป้งคลายตัวง่ายต่อการรีดแป้ง เข้าสู่วันที่ 3 ถึงจะนำเอาแป้งและเนยมารีดเป็นแผ่นเพื่อวางทับกัน เรียกขั้นตอนนี้ว่าการเข้าแป้ง สำหรับเทคนิคการพับครัวซองต์มี 3-5 แบบ เพื่อให้เกิดความหนาแน่นภายในครัวซองต์ จากนั้นพักแป้งทิ้งไว้อีก 8-10 ชั่วโมง เพื่อให้ครัวซองต์ที่ปูแผ่นเนยไว้ฟูขึ้นเต็มที่ ก่อนนำไปเข้าตู้อบใช้เวลา 10-15 นาที เมื่ออบเสร็จใช้มีดผ่าครัวซองต์ออกมาจะเห็นเนื้อแป้งด้านในเป็นโพรงเล็กๆถี่ๆ ซึ่งเกิดจากการพับเข้าแป้งหลายชั้น เมื่อโครงสร้างภายในดี จะทำให้ครัวซองต์ทรงตัวอยู่ได้นาน เบ็ดเสร็จกว่าจะได้ครัวซองต์ 1 ชิ้น ต้องใช้เวลานานถึง 4 วัน”
...
...
เชฟนัทลำดับความเป็นมาในเส้นทางเชฟเบเกอรีว่า หลังเรียนจบคณะวิศวะฯ ม.เกษตรฯ ได้ทำงานในโรงงานอยู่พักใหญ่ แต่รู้สึกว่าไม่ใช่ตัวเรา จึงเบนเข็มไปเรียนทำเบเกอรีที่ “เลอ กอร์ดอง เบลอ” ประเทศออสเตรเลีย ใช้เวลานาน 2 ปี เริ่มงานแรกที่ออสเตรเลีย ก่อนไปทำงานร้านอาหารในสิงคโปร์นาน 6 เดือน จากนั้นอาชีพเชฟเบเกอรีก็ติดลมบน มีโอกาสไปเป็นเชฟที่ร้านดังอย่าง “Amber” ในโรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล ฮ่องกง ซึ่งเป็นร้านแรกๆในเอเชียที่ติดท็อป 50 ในระดับโลก จากนั้นเก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่โรงแรมหรูระดับ 6 ดาว ที่นิวซีแลนด์ ก่อนไปเป็นเชฟที่ร้าน “Eleven Madison Park” ในนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ทำให้ได้ประสบการณ์การทำงานกับร้านอาหารอันดับหนึ่งของโลก ที่ถูกยกให้เป็น “Best of The Best”
“เมื่อกลับมาเมืองไทยนำเอาประสบการณ์ที่ได้พบเห็นจากร้านครัวซองต์ ในสหรัฐอเมริกา ชื่อร้าน “ซุปเปอร์มูน” มาบอกเล่าให้เพื่อนๆฟังพร้อมกับทำครัวซองต์ให้ชิม ทุกคนถึงกับทึ่งในความหอมและรสชาติ เพราะย้อนกลับไปช่วงก่อนโควิด-19 ระบาด ครัวซองต์ยังไม่เป็นที่นิยมมากนักในบ้านเรา “บลองค์” จึงถือเป็นเจ้าแรกๆที่เปิดตลาดครัวซองต์ เมื่อเริ่มทำครัวซองต์ขายผ่านทางไลน์ มุ่งไปกลุ่มลูกค้ารายย่อยก่อน ทั้งส่งในกรุงเทพฯ พร้อมกระจายสินค้าขายไปทั่วประเทศ เพราะครัวซองต์สามารถแช่แข็งได้ และสะดวกต่อการขนส่ง”
...
“หนุ่มค๊อป” เล่าเสริมว่า แบรนด์เราแจ้งเกิดได้เพราะงาน “Thailand Coffee Fest 2020” คนที่มาเดินในงานต่างเป็นผู้ประกอบการร้านกาแฟ ทำให้ครัวซองต์ของเราเข้าถึงลูกค้าอีกกลุ่มหนึ่ง ซึ่งต่อมากลายเป็นลูกค้ากลุ่มหลักของเรา จากจุดเริ่มต้นวันนั้นทำให้เรามุ่งทำการตลาดโดยที่ไม่มีหน้าร้าน เน้นเป็นซัพพลายเออร์ให้ร้านคาเฟ่ รวมถึงโรงแรมชื่อดังหลายแห่ง สร้างชื่อจากครัวซองต์ 5 รสชาติ จนถึงวันนี้พัฒนาครัวซองต์ออกมา 12 รสชาติ ได้แก่ ครัวซองต์เนย, ครัวซองต์ช็อกโกแลต, ครัวซองต์ไส้กรอก, ครัวซองต์แฮมชีส, ครัวซองต์ราสเบอร์รี, ครัวซองต์อัลมอนด์, ครัวซองต์ส้มยูสุ, ครัวซองต์เห็ดทรัฟเฟิล, ครัวซองต์อัลมอนด์, ครัวซองต์แอปเปิ้ล, ครัวซองต์ซินนาม่อน, ครัวซองต์บานอฟฟี่ และครัวซองต์ทีรามิสุ ไส้ทุกรสชาติเชฟนัทเป็นคนปรุงแต่งเอง โดยเน้นการใช้ผลไม้จริง นอกจากนี้ยังมีขนมเบเกอรีแช่แข็งเหมาะสำหรับนำส่งไปขายทั่วประเทศ เช่น มัฟฟิน, สโคน, บานาน่าเค้ก, ฟรุตเค้ก, บราวนี่ และทาร์ต ซึ่งล้วนเป็นเมนูพื้นฐานประจำร้านกาแฟ
สนนราคา ครัวซองต์เนย 75 บาท, ครัวซองต์ไส้กรอก 80 บาท, ครัวซองต์ช็อกโกแลต 90 บาท, ครัวซองต์อัลมอนด์ และบานอฟฟี่ (ครีมกล้วย) 120 บาท, ครัวซองต์แฮมชีส, ครัวซองต์ราสเบอร์รี, ครัวซองต์อัลมอนด์, ครัวซองต์ส้มยูสุ, ครัวซองต์เห็ดทรัฟเฟิล, ครัวซองต์แอปเปิ้ล, ครัวซองต์ซินนาม่อน, ครัวซองต์ทีรามิสุ และแป็ง ซุย-วิซ 130 บาท แนะนำให้สั่งล่วงหน้า 1 วัน ก่อนเวลา 16.00 น. สามารถสั่งผ่าน Line : @Blancbkk พร้อมจัดส่งวันถัดไป ภายในเวลา 12.00 น. มีจุดกระจายสินค้า 6 จุด ทั่วกรุงเทพฯ เพื่อให้ลูกค้าเสียค่าใช้จ่ายดีลิเวอรีไม่เกิน 100-120 บาท ได้แก่ซอยลาดพร้าว 130, เฉลิมพระเกียรติ ร.9 ซอย 40/1, ซอยสวนมะลิ 3, ซอยงามวงศ์วาน 43, จรัญสนิทวงศ์ 64 และซอยพหลโยธิน 12 ร้านนี้ยังมีบริการจัด “สแน็ก บ็อกซ์” ด้วย สำหรับลูกค้าที่ทำธุรกิจร้านคาเฟ่และร้านกาแฟ สามารถสั่งครัวซองต์ได้ในราคามิตรภาพ ผ่านช่องทาง Line : @Blanccafesupply โทรศัพท์ 09-4909-7777 หรือคลิกดูรายละเอียดที่เฟซบุ๊ก : Blancbkk และเว็บไซต์ www.blancbkk.com
คุณชายแป๊ะ