ถือเป็นอีกหนึ่งปีทองของแบรนด์ “SIRIVANNAVARI” ที่เดินหน้าปักหมุดตอกย้ำความสำเร็จบนเวทีแฟชั่นระดับโลกมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ “มิลาน แฟชั่น วีก” มาจนถึง “ปารีส แฟชั่น วีก” ล่าสุด ถึงเวลาที่ “สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา” ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ จะนำเสนอผลงานการออกแบบคอลเลกชันเสื้อผ้าและเครื่องประดับ สำหรับสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษ ซีซัน “Autumn/Winter 2024” สู่สายตาแฟชั่นนิสต้าเมืองไทย ผ่านแฟชั่นโชว์ใหญ่ส่งท้ายปี “Women in Art” ณ หอศิลป์แห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม ท่ามกลางบรรยากาศของอาร์ตแกลเลอรีขนาดใหญ่ ที่จัดแสดงงานศิลปะภาพวาดฝีพระหัตถ์ขององค์ดีไซเนอร์ และแรงบันดาลใจจากศิลปะแนวคิวบิสม์ (Cubism Art) ซึ่งถูกนำมาผสมผสานกับโครงชุดที่มีความคมชัด และเทคนิคการจับเดรปอันละเอียดอ่อน เพื่อถ่ายทอดเอกลักษณ์ของแบรนด์ที่เชิดชูสรีระความงามของสุภาพสตรี ประหนึ่งงานศิลปะชิ้นเอก
“การสร้างสรรค์เสื้อผ้าที่ปรับไปตามสรีระของผู้สวมใส่ดั่งที่เห็นในคอล เลกชัน “Women in Art” เราได้ค้นพบว่าการจับเดรปนั้นมีคุณค่าทั้งในแง่เทคนิคและความงาม นำมาซึ่งประโยชน์ใช้สอย และมีความหรูหราในคราเดียวกัน มีความดรามาติกในแบบเสื้อผ้าบนรันเวย์ ทว่าสวมใส่ได้จริงในชีวิตประจำวัน และนี่คือวิธีคิดของคอลเลกชันนี้ ผู้หญิงมีชีวิตสองด้าน พวกเธอทำงานและโปรยเสน่ห์”...“สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา” ตรัสถึงจุดเริ่มต้นแห่งการสร้างสรรค์
...
ช่างฝีมือแห่งแบรนด์ “SIRIVANNAVARI” ได้เผยให้เห็นถึงความสามารถในด้านการปักเป็นลวดลายดอกไม้ที่ต่อยอดมาจากภาพฝีพระหัตถ์ขององค์ดีไซเนอร์ ผสมผสานกลิ่นอายของวัฒนธรรมไทย เนรมิตให้ดอกไม้มีสามมิติจากเส้นด้ายอันบอบบาง, ลูกปัด, คริสตัล และวัสดุเปล่งประกายดั่งงานศิลปะนูนต่ำ ที่ถูกชุบชีวิตขึ้นจากงานหัตถศิลป์อันประณีต ในอีกแง่มุมหนึ่งนั้น คอลเลกชันนี้ผสมผสานความงามสง่าอันเป็นอมตะเข้ากับความทันสมัย ผ่านเทคนิคการจับเดรปตามขนบและเสน่ห์แห่งงานร่วมสมัย จีบผ้าที่ลดหลั่นลงมาล้วนได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นอย่างวิจิตรบรรจงด้วยการใช้วัสดุนานาชนิด เช่น หนัง, ผ้าวูล, ผ้าซาติน และผ้าเดนิม ในโทนสีที่เสริมรับกัน ทั้งสีเบอร์กันดี, สีเทา, สีดำ และสีน้ำเงิน
...
สำหรับชิ้นงานในกลุ่มเรดี้ทูแวร์ เช่น กางเกงขายาว, แจ็กเกตหนัง และแขนเสื้อ ล้วนมีวอลุ่มและแฝงด้วยเสน่ห์ ผ่านคอปกตั้งและคอกลม เผยให้เห็นแรงบันดาลใจจากทศวรรษ 1950 เอกลักษณ์ของแบรนด์อย่าง “ไอริส แจ็กเกต” สวมกับกระโปรงทรงดินสอและกางเกงทรงขาม้า ถ่ายทอดให้เห็นถึงภาพสเกตช์จากฝีพระหัตถ์ขององค์ดีไซเนอร์ วัสดุอย่างหนัง,
ผ้าวูล, ผ้าซาติน และผ้าเดนิม ได้รับการสร้างสรรค์อย่างพิถีพิถัน เพื่อเสริมให้ทรวดทรงของสุภาพสตรีดูโดดเด่นด้วยรายละเอียดอันประณีต
...
คอลเลกชันเครื่องประดับที่ได้แรงบันดาลใจจากศิลปะแนวคิวบิสม์ นำมาสู่ชิ้นงานน่าปรารถนา ไม่ว่าจะเป็นสร้อยคอ, สร้อยข้อมือ และแหวนสีทอง โดดเด่นด้วยงานเซรามิกสีขาว พร้อมลูกเล่นของใบหน้า เช่น ปากและดวงตาในสไตล์งานศิลปะคิวบิสม์ ขาดไม่ได้คือดอกไม้ไทยอันอ่อนช้อย ที่เป็นเครื่องประดับคู่ใจแห่งฤดูกาล ขณะที่กระเป๋าหนังทรงคลาสสิก ถูกตกแต่งด้วยอะไหล่สีทอง มีรูปทรงคมชัดและประณีต มาพร้อมเฉดสีประจำฤดูกาล มีให้เลือก 3 รูปทรง ได้แก่ ทรงบักเก็ต (Bucket) พร้อมสายหนังปรับความยาวได้, ทรงเกือกม้า (Satchel-Saddle) พร้อมสายโซ่โลหะ ที่ใช้พันประดับข้อมือได้ และกระเป๋าสะพายไหล่จับเดรปหนัง มาพร้อมกระเป๋าลูกใส่แว่นตา แมตช์กับเสื้อผ้าได้ทุกโอกาส
...
นอกจากจะบ่งบอกถึงเอกลักษณ์ในงานออกแบบขององค์ดีไซเนอร์ยังเผยถึงพระอัจฉริยภาพในด้านความคิดสร้างสรรค์ในการต่อยอดและพัฒนาชิ้นงาน แต่ละองค์ประกอบในงานออกแบบต่างเติมเต็มซึ่งกันและกัน คลี่คลายวัฒนธรรมแฟชั่นได้อย่างเหนือชั้น.
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่