“อิซเซ่ มิยาเกะ” (Issey Miyake) ดีไซเนอร์ชาวญี่ปุ่น ชื่อดังก้องโลก ซึ่งมีผลงานแบรนด์ดัง PLEATS PLEASE ISSEY MIYAKE เสียชีวิตในวัย 84 ปี ด้วยโรคมะเร็งตับ
สำนักข่าวต่างประเทศหลายแห่ง ได้รายงานว่า “อิซเซ่ มิยาเกะ” (Issey Miyake) ดีไซเนอร์ชาวญี่ปุ่น ที่มีผลงานแฟชั่น และแบรนด์น้ำหอมที่โด่งดังไปทั่วโลกได้เสียชีวิตลง เมื่อเย็นวันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา และเพิ่งเปิดเผยวันนี้ (9 ส.ค.) โดยบริษัทของ Issey Miyake ที่โตเกียว ญี่ปุ่น ได้ประกาศข่าวเศร้านี้ ซึ่งพิธีศพของเขาได้จัดไปเรียบร้อยแล้ว โดยมีรายงานว่าสำหรับสาเหตุที่ “อิซเซ่ มิยาเกะ” (Issey Miyake) เสียชีวิต เพราะโรคมะเร็งตับ
ประวัติและผลงานของ “อิซเซ่ มิยาเกะ” (Issey Miyake)
...
“อิซเซ่ มิยาเกะ” (Issey Miyake) เกิดวันที่ 22 เมษายน 2481 ที่เมืองฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่น ขณะที่อายุ 7 ขวบ เขารอดพ้นจากเหตุการณ์ทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ที่ฮิโรชิมามาได้อย่างหวุดหวิด เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2488 เขาได้เรียนจบด้านการออกแบบกราฟิกจากมหาวิทยาลัยทามะ อาร์ต ยูนิเวอร์ซิตี้ กรุงโตเกียว พร้อมกับทำวิทยานิพนธ์ในหัวข้อ “บทโคลงกลอนแห่งวัตถุและก้อนหิน” ซึ่งถือเป็นคอลเลกชันแรกในชีวิตก็ว่าได้
- ปี 2507 หลังสำเร็จการศึกษา เขาเดินทางไปยังกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เพื่อศึกษาต่อที่สถาบันออกแบบตัดเย็บเสื้อผ้าชั้นสูง “Chambre Syndicale dela Couture Parisience” จากนั้นเขาก็ได้เข้าสู่วงการแฟชั่นอย่างเต็มตัวด้วยการเริ่มทำงานเป็นผู้ช่วยดีไซเนอร์ที่ห้องเสื้อกีลาโรช
- ปี 2511 ย้ายไปอยู่กับ Givenchy และเดินทางกลับมาโตเกียวในปี 2513
- ปี 2514 เปิดตัวคอลเลกชันแรกในนิวยอร์ก และเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงานปารีสแฟชั่นวีก
- ปี 2516 เขาได้แสดงแนวคิดอันแปลกใหม่ว่าเสื้อผ้าเป็นเสมือน “A Piece of Cloth” ทำให้เขาได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางไปทั่วโลกตั้งแต่แรกเริ่ม พร้อมทั้งเปิดมุมมองใหม่ๆ ในการสร้างสรรค์เสื้อผ้า ผ่านงานค้นคว้าวิจัย ทดลอง และพัฒนา ในขณะเดียวกันก็ศึกษา และตีความความสัมพันธ์ระหว่างร่างกายมนุษย์กับเครื่องแต่งกายอย่างล้ำจินตนาการ
- ปี 2532 เขาพลิกโฉมวงการแฟชั่นด้วยเสื้อผ้าจับพลีตที่ไม่ซ้ำใครจนเกิดเป็นแบรนด์ “PLEATS PLEASE ISSEY MIYAKE” ที่กลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกจนถึงปัจจุบัน
- ปี 2536 เสื้อผ้าชิ้นแรกของ “Pleats Please” ก็ถือกำเนิดขึ้นในโลกแฟชั่น โดยเขาตัดเย็บชุดด้วยเทคนิคจับพลีตแหวกแนวให้คณะแสดง “Ballett Frankfurt” ภายใต้คอนเซปต์ “the Loss of Small Detail” นอกจากนี้ เขายังซี้ปึ้กกับ “สตีฟ จ็อบส์” ผู้ให้กำเนิด Apple โดยเป็นคนออกแบบ เสื้อสีดำคอเต่า ที่กลายเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวจ็อบส์
- ปี 2542 เขาขอวางมือจากการดีไซน์เสื้อผ้าผู้ชายและผู้หญิง โดยส่งไม้ต่อให้ “นาโอกิ ทากิซาวา” เพื่อที่เขาจะได้กลับไปมุ่งมั่นทุ่มเทเวลาให้กับงานค้นคว้าทดลองอย่างเต็มที่ เพื่อสร้างนวัตกรรมแปลกใหม่ให้วงการแฟชั่น
- ปี 2550 “นาโอกิ” ลาออกมาเปิดแบรนด์ของตัวเอง ทำให้อิซเซ่ มิยาเกะ กรุ๊ป เปลี่ยนครีเอทีฟ ไดเรคเตอร์ใหม่เป็น “ไดอิ ฟูจิวาระ” กระทั่งปี 2555 จึงแต่งตั้ง “โยชิยูกิ มิยาเมะ” เข้ากุมบังเหียนแทนจนถึงปัจจุบัน
ตลอดชีวิตของ “อิซเซ่ มิยาเกะ” (Issey Miyake) ให้ความสำคัญในการฟูมฟักทรัพยากรมนุษย์อันหลากหลาย และเทคโนโลยีที่นำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ สู่วงการแฟชั่น ตั้งแต่เมื่อเริ่มก่อตั้งแบรนด์ จิตวิญญาณในการสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ของเขาได้ถูกส่งต่อ มายังดีไซเนอร์เจเนอเรชันใหม่รุ่นแล้วรุ่นเล่า พร้อมๆ กับการเดินหน้ารับมือกับความท้าทายต่างๆ ที่ถาโถมเข้ามา ด้วยมุมมองและไอเดียสดใหม่ ขณะเดียวกันก็ได้ผสมผสานเทคนิคดั้งเดิมของญี่ปุ่นเข้ากับเทคโนโลยีใหม่ได้อย่างลงตัวน่าทึ่ง ผู้สมกับที่เป็นเจ้าของแนวคิด “งานดีไซน์ไม่ใช่ปรัชญาชั้นสูง แต่งานดีไซน์คือชีวิต”
...