กิเลน ประลองเชิง คอลัมน์ “ชักธงรบ” (2 ก.พ. 67) เขียนถึง นิทานเรื่อง “ปาฏิหาริย์เจ้าแม่กวนอิม” ในหนังสือเรื่องง่ายๆ ความหมายดีๆ (สำนักพิมพ์อินสไปร์ พ.ศ.2553) คุณสุริยเทพ ไชยมงคล ผู้เขียน ตั้งชื่อเรื่องว่า เป็นเศรษฐีได้ด้วยต้นหญ้า

...มีชายยากจนทนลำบากตรากตรำมาหลายปี แต่ฐานะไม่ดีขึ้น ทั้งยากจนลงกว่าเดิม วันที่กำลังหมดแรงใจที่จะสู้ชีวิตต่อ ชายหนุ่มนึกได้ มีศาลเจ้าแม่กวนอิมใกล้บ้าน เขาก็ไปกราบไหว้แล้วตั้งจิตอธิษฐาน...“ชีวิตนี้ขอเป็นเศรษฐีสักครั้งเถิด”

สิ้นคำอธิษฐานปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้นเหมือนในหนังจีน เรื่องไซอิ๋ว ตอนเจ้าแม่กวนอิม มักปรากฏร่างมาดัดสันดานดื้อเห้งเจีย เจ้าแม่บอกว่า การเป็นเศรษฐีนั้นง่ายๆ เมื่อชายหนุ่มออกจากศาลเจ้าให้ท่องคาถาสองข้อ...ข้อแรก รักษาทุกสิ่งที่เจอ ข้อสอง คิดถึงใจทุกคนที่เจอ

จู่ๆเจ้าแม่ก็แสดงปาฏิหาริย์มาโปรดตรงหน้า ชายหนุ่มสติกระเจิง เดินตัวปลิวลิ่วออกมาจากศาลเจ้า สะดุดก้อนอะไรก็ไม่รู้ ล้มโครม เคราะห์ดี มันเป็นพื้นหญ้า ตั้งสติได้ เขาก็รู้ว่า มือกำต้นหญ้าอยู่หนึ่งต้น อารามดีใจ เขาเดินกำต้นหญ้าติดมือไปด้วย

...

ครู่ใหญ่ เขาเจอแม่ลูกอ่อน กำลังอุ้มลูกน้อยที่ร้องไห้กระจองอแง เขาเดินเข้าไปหา เอาต้นหญ้าหยอกล้อเล่นกับเด็ก เด็กหยุดร้องไห้ แม่เด็กตอบแทนเขาด้วยส้มสามผล

ชายหนุ่มเดินต่อ เจอพ่อค้าขายของนั่งยองๆอยู่ริมทาง ท่าทีกระหายน้ำ ชายหนุ่มยื่นผลไม้ให้กินแทนน้ำ พ่อค้าตื้นตันใจเลือกผ้าพับหนึ่งที่เขาวางขายมอบให้ตอบแทน เส้นทางเดียวกันชายหนุ่มเดินต่อไปอีก...ไม่นานก็เจอคนเลี้ยงม้า มันป่วยเรื้อรัง ชายหนุ่มเสนอผ้าพับในมือแลกกับม้า เจ้าของม้าตกลง

ชายหนุ่มจูงม้าป่วยกลับมาฟื้นฟูดูแลที่บ้านจนม้าแข็งแรงดี ชายหนุ่มขี่ม้าไปถึงบ้านหลังใหญ่หลังหนึ่ง เจ้าของบ้านกำลังรีบร้อนจะเดินทางไกล...ชายหนุ่มเสนอให้ยืมม้า เจ้าของประทับใจ ออกปากให้เขาเข้าไปพักชั่วคราวในบ้าน

แต่ทว่า...นับแต่ชายหนุ่มเห็นเจ้าของบ้านขี่ม้าลับสายตาไป เขาก็ไม่กลับมาให้เห็นหน้าอีกเลย ชายหนุ่มได้เป็นเจ้าของบ้านหลังใหญ่ มีทรัพย์สินมีค่ามากมาย เขาเป็นเศรษฐีไปแล้วอย่างเต็มตัว

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ต้นหญ้าไร้ค่าเปลี่ยนฐานะชายยากจนได้ เพราะเขาเป็นคนมีน้ำใจ คิดถึงแต่คนอื่น...ความมีน้ำใจ คือคานงัดวิเศษรองรับสิ่งไร้ค่าอย่างต้นหญ้าเปลี่ยนเป็นทองคำหมื่นชั่ง

คาถาสองข้อของเจ้าแม่กวนอิม ที่จริงก็คือคำสอนเรียบง่ายที่หลายศาสดาสอนสืบทอดกันมาหลายพันปี ย่อมมีเหตุผลที่เรียบง่ายและแสดงปาฏิหาริย์ได้ทุกเมื่อ

O O O O

องค์พระโพธิสัตว์กวนอิมปางประทานพรประทับบนหลังพญามังกร ที่แกะสลักจาก “หยกขาวชิ้นเดียว” มือถือแจกันประทานน้ำอมฤต น้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ และกิ่งหลิวที่คอยชะล้าง ณ วิหาร “อี่ ทง เทียน ไท้”

เชื่อ...ศรัทธาเป็นอย่างยิ่งว่าช่วยขจัดปัดเป่าทุกข์โศกโรคภัย อีกทั้งการประทับยืนบนหลังพญามังกรเวียนว่ายกลางมหาสมุทร เปรียบได้กับความมั่งคั่งร่ำรวย

ส่วน “สายน้ำ” ก็เปรียบได้ถึงความลื่นไหล สำเร็จ ราบรื่น

องค์พระโพธิสัตว์กวนอิมองค์นี้มีขนาดความสูง 2.62 เมตร หนัก 2.8 ตัน เมื่อรวมความสูงของฐานดอกบัว ฐานมังกรและฐานแปดเหลี่ยมแล้ว จะมีความสูงรวมกันถึง 5 เมตร และมีน้ำหนักมากถึง 14.43 ตัน

พลิกแฟ้มประวัติความเป็นมา เริ่มจาก บุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์ รู้ว่า...มีผู้พบหยกขาวขนาดใหญ่จากเหมืองในป่าลึกของเมืองนับปีตรู ประเทศพม่า ได้ชักลากส่งให้กับช่างชาวจีนที่ปักกิ่ง แกะสลักเป็นองค์พระโพธิสัตว์กวนอิม จากนั้นได้มีคนติดต่อมาและมอบให้หลังแกะสลักเสร็จ

...

จนกระทั่งเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมาขึ้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2557 ทางมูลนิธิ ดร.เทียม โชควัฒนา ได้อัญเชิญไปประดิษฐานชั่วคราว ณ พรหมสถาน เครือสหพัฒน์กบินทร์บุรี

ด้วยความที่เป็นผู้เลื่อมใสและศรัทธาในองค์พระโพธิสัตว์กวนอิมอยู่แล้ว นับเนื่องจากการได้เดินทางไปประเทศจีน ได้รับแรงบันดาลใจจากความงดงามของหอบูชาฟ้าเทียนถาน หรือหอสักการะฟ้าเทียนถานในกรุงปักกิ่ง จึงทำให้มีแนวคิดที่จะสร้างวิหารที่จำลองรูปแบบมาจากวิหารเทียนถานขึ้นมาในปี พ.ศ. 2558

ตั้งมั่นปณิธานไว้ว่าจะใช้พื้นที่ด้านหน้าสวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์กบินทร์บุรีประมาณ 4 ไร่ ในการก่อสร้างวิหาร โดยการใช้เงินส่วนตัวรวมกับเงินบริจาคจากผู้ศรัทธาที่ร่วมแรงร่วมใจกันจนสร้างวิหาร สำเร็จลุล่วง และได้อัญเชิญองค์พระโพธิสัตว์กวนอิมเข้าประทับภายในวิหารแห่งนี้เมื่อเดือนตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา

O O O O

วิหาร “อี่ ทง เทียน ไท้” ใช้ระยะเวลาก่อสร้างราว 8 ปี นอกจากความเลื่อมใสและศรัทธาของผู้คนที่แวะเวียนผ่านไปเยี่ยมเยือนแล้ว สถานที่แห่งนี้ยังเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวสำคัญแห่งใหม่ของกบินทร์บุรี เพื่อใช้เป็นสถานที่พักผ่อน ทำสมาธิและยังเป็นที่ทำกิจกรรมต่างๆต่อไป

...

ลงลึกในรายละเอียดตัววิหารประกอบด้วยชั้นใต้ดินและชั้นโถงประดิษฐานองค์พระโพธิสัตว์กวนอิม ชั้นโถงของวิหารจะมีเสาทั้งหมด 24 ต้น เรียงรายรอบวิหาร แบ่งเป็นวงใน 12 ต้น...มีความหมายถึงเดือนทั้ง 12 เดือนและวงนอก 12 ต้น หมายถึงเวลา 12 ชั่วยาม...ภายในวิหารมีภาพวาดพระโพธิสัตว์กวนอิมปางต่างๆ เสริมความวิจิตรตระการตาด้วยภาพเขียนที่สื่อให้เห็นถึงแนวคิดเรื่อง...จักรวาล ภพภูมิ ความสมบูรณ์ และ มั่งมี

รวมถึงติดตั้งสายล่อฟ้า...ที่เปรียบเสมือนการรับพลังจากเบื้องบน

คนที่มากราบไหว้ขอพรจะมีสุขภาพดี มีโชคลาภ ซึ่งทุกๆองค์ประกอบของวิหาร “อี่ ทง เทียน ไท้” แห่งนี้นั้น ล้วนผ่านกระบวนการคิดและวางแผนไว้อย่างละเอียดถี่ถ้วน

ทั้งยังมีความเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า...จะเป็นโอกาสอันดีที่ลูกๆหลานๆทุกคนจะได้แสดงความรัก ความกตัญญูต่อญาติผู้ใหญ่ ด้วยการพาพวกท่านมาสักการะขอพรจาก “องค์พระโพธิสัตว์กวนอิม” ณ วิหาร “อี่ ทง เทียน ไท้” เพื่อขอพรให้ท่านมีสุขภาพแข็งแรงทั้งร่างกาย จิตใจ...รับความเป็นสิริมงคลกับชีวิต

“ศรัทธา”...นำมาซึ่งปาฏิหาริย์? เชื่อไม่เชื่อโปรดอย่าได้...“ลบหลู่”.

รัก-ยม

คลิกอ่านคอลัมน์ “เหนือฟ้าใต้บาดาล” เพิ่มเติม