“เกลือ” นับแต่โบร่ำโบราณเชื่อกันว่าเกลือนั้นสามารถขจัดสิ่งอัปมงคล สิ่งชั่วร้ายออกไปจากบ้านได้...สมัยโบราณหากมีการไปงานศพเมื่อกลับถึงบ้านก่อนเข้าบ้านก็จะโรยเกลือที่ทางเข้าบ้านก่อนที่จะก้าวเท้าเข้าบ้าน
อีกทั้งในยุคนี้ก็มีคนไม่น้อยที่เชื่อว่า...ยามใดที่บ้านไหนมีปัญหารุมเร้าเข้ามามากๆ เรียกว่ามีแต่เรื่องร้ายๆทำให้ชีวิตวุ่นวายร้อนใจ หรือแม้กระทั่งเมื่อเราไปซื้อบ้านมือสอง รถยนต์มือสอง ถ้าต้องการล้างอาถรรพณ์ สิ่งไม่ดีต่างๆก็ให้เอาเกลือเม็ดราวๆหนึ่งกำมือมาผสมกับเหรียญเศษสตางค์ตามสมควร
แล้วก็นำไปโปรยให้ทั่วบ้าน ทั่วรถยนต์ทิ้งค้างไว้หนึ่งคืน แล้วก็เก็บกวาดให้สะอาดรวบรวมนำไปห่อด้วยผ้าขาวแล้วเอาไปไว้ที่วัดหรือโคนต้นไม้ใหญ่...หลายคนอาจจะเคยได้ยินเรื่องเอา “เกลือไล่ผี” อาจจะกล่าวได้ว่าความเชื่อที่ว่านี้มาจากชาวญี่ปุ่นสมัยก่อนที่เชื่อกันว่าเกลือเป็นสิ่งบริสุทธิ์ที่สามารถขับไล่สิ่งชั่วร้ายออกไปได้
“องเมียว” นักพลังจิตสมัยเฮอัน มักจะใช้เกลือในพิธีไล่วิญญาณ ด้วยว่าเกลือที่มีสีขาวบริสุทธิ์ มีฤทธิ์ปัดเป่าปิศาจร้ายออกไปนั่นเอง
...
ให้รู้ไว้อีกว่าในการแข่งขันซูโม่ก่อนแข่งก็จะมีการเอาเกลือมาโรยรอบๆสนามเป็นวงกลมเพื่อเป็นการชำระล้างจิตใจ...ร่างกายก่อนลงสนามนอกจากนี้แล้วเกลือที่โรยเอาไว้ยังทำให้ง่ายต่อการตัดสินเพราะใครที่ถูกดันจนออกนอกวง เกลือก็จะติดเท้าไปด้วย ถ้าไปญี่ปุ่นหากสังเกตให้ดีๆอาจจะเห็นร้านรวงต่างๆวางเกลือไว้ที่หน้าร้าน เพราะมีความเชื่อในเรื่อง...การโรยเกลือเพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งชั่วร้ายเข้ามาในร้านได้ อีกส่วนหนึ่งว่ากันว่าสมัยก่อนยุคที่ใช้วัวเดินทางสัญจร ร้านค้าต่างๆก็จะนำเกลือมาวางเอาไว้ให้วัวที่แวะเวียนผ่านมาได้หยุดกินที่หน้าร้าน
ประหนึ่งเมื่อวัวหยุด เจ้าของวัวก็ต้องหยุดแวะที่ร้านนั้นๆเลือกซื้อของไปในตัว
การใช้เกลือทางความเชื่อเป็นเช่นนี้ กระนั้นแล้วกับเรื่องราวลี้ลับ ปาฏิหาริย์...จะได้ผลจริงมากน้อยอย่างไรก็คงขึ้นอยู่กับความเชื่อศรัทธาของแต่ละคน...ในแต่ละยุคสมัย
นอกจากนี้แล้วยังมีความเชื่อเกี่ยวกับ “เกลือ” ในทางมงคลอีกด้วยว่า เกลือเป็นสิ่งที่ดึงดูดทรัพย์ โชคลาภ สิ่งดีๆให้เข้ามาถึงชานเรือน ทั้งยังใช้แก้ฮวงจุ้ยไม่ดีได้อีกด้วย เคล็ดลับวิธีการที่บอกเล่าต่อๆกันมาก็ อาทิ ห้องน้ำฮวงจุ้ยไม่ดีก็ให้นำชามใส่เกลือวางไว้ในห้องน้ำ หรือ...ห้องครัวก็ควรที่จะมีเกลือติดครัวเอาไว้เสมอ
“เกลือ” เหล่านี้จะช่วยดูดซับเชื้อโรค...ความชื้น ช่วยให้คนในบ้านแข็งแรง ไม่ค่อยเจ็บไข้ได้ป่วย
@@@@@@
“บ่อเกลือพันปี” บ้านบ่อโพธิ์ ต.บ่อโพธิ์ อ.นครไทย จ.พิษณุโลก แหล่งเกลือสินเธาว์ธรรมชาติที่มีมาแต่เก่าก่อน ทุกต้นปีราวเดือนมกราคม ชาว บ้านที่ศรัทธามีความเชื่อว่าดินแดนแห่งนี้มีตำนานเล่าขาน โดยเฉพาะ “เจ้าปู่” ที่คอยปกปักคุ้มครองรักษาดูแล
เมื่อถึงเวลาเปิดบ่อเกลือ ชาวบ้านจะทำพิธีบวงสรวงเจ้าปู่บ่อเกลือ เพื่อบอกกล่าวว่าจะทำการเปิดบ่อ ซึ่งเป็นเหมือนการส่งสัญญาณว่า...ฤดูกาลแห่งการทำเกลือกำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว
ชาวบ้านจะใช้วิธีการตักน้ำเกลือออกมาเท่านั้น จะไม่มีการใช้เครื่องสูบ โดยทำการหาบครั้งละถัง...สองถัง คนโบราณเชื่อว่า...หากผู้ใดฝ่าฝืนอาจมีอันเป็นไป
วันเวลาผ่านมาถึงวันนี้ “ชาวบ่อโพธิ์” ก็ยังคงปฏิบัติตามข้อห้ามที่ว่านี้อย่างเคร่งครัด อาจกล่าวได้ว่านี่คือกลอุบายของคนสมัยก่อนที่อยากให้มีน้ำเกลือใช้ตลอดไปไม่มีวันหมด
...
กรณีศึกษาเรื่องเล่าที่เกี่ยวข้องกับบ่อเกลือพันปี ในบ้านบ่อโพธิ์ วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ปีที่ 8 : ม.ค.-มิ.ย.63 สะท้อนเรื่องเล่าจากผู้ใหญ่บ้านที่ว่า ยุคที่มีทหารของพ่อขุนบางกลางท่าวสังเกตว่าบ่อน้ำนี้เหตุใดจึงมีน้ำใสๆจึงแตะชิม ปรากฏ...น้ำในบ่อได้มีรสเค็มจึงตักไปถวาย
เมื่อท่านได้ชิมจึงสั่งให้ทหารนำน้ำมาเคี่ยวในกระทะ พอน้ำเกลือตกผลึกเป็นเม็ดเกลือ จึงให้ทหารนำมาเป็นเสบียง เพื่อส่งให้กับกรุงสุโขทัยในศึกต่างๆจนได้ชัยชนะ...ยกทัพกลับกรุงสุโขทัย
“พิธีบุญปราสาทผึ้ง”...อีกประเพณีที่สำคัญเพื่อเป็นการขอบคุณที่ให้น้ำเกลือ ในเดือนเจ็ด...ชาวบ้านจะนำขี้ผึ้งแท้มาใส่ขันแล้วตั้งกระทะขึ้นมาแล้วเอาขันลงไปวางไว้ในน้ำเดือดๆ แล้วนำลูกมะละกอเล็กๆมาปอกแล้วหาไม้โค้งนำมะละกอมาเสียบ ชุบขี้ผึ้งจนกลายเป็นดอกผึ้งติดปราสาทผึ้ง
ถือว่า...พิธีนี้เป็นการขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ให้น้ำเกลือแก่ชาวบ้าน ทำให้ชาวบ้านมีอาชีพ มีรายได้ อีกทั้งยังเป็นการขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ปกปักรักษาคนในหมู่บ้านด้วย
@@@@@@
...
“บ่อเกลือ” อ.บ่อเกลือ จ.น่าน เป็นอีกตำนานและสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ มีตำนานการค้นพบที่เล่าสืบต่อกันมาน่าสนใจว่า...มีนายพรานผู้หนึ่งมาล่าสัตว์ เห็นว่าสัตว์ทั้งหลายมักจะมากินน้ำที่นี่เป็นประจำ เมื่อลองชิมดูจึงรู้ว่ามีรสเค็ม กระทั่งข่าวนี้ล่วงรู้ไปถึง “เจ้าหลวงภูคา” และ “เจ้าบ่อหลวง” จึงมาดูน้ำเกลือ
ทั้งสองพระองค์ขึ้นไปอยู่ที่ยอดดอยภูจั่นเพื่อแข่งขันพุ่งหอก เจ้าหลวงภูคาพุ่งหอกไปทางทิศตะวันตกของลำน้ำมาง ตรงที่ตั้งหอนอก... ปัจจุบันเป็นที่ทรงเจ้าของชาวบ้านบ่อหลวง
ส่วนเจ้าบ่อหลวงพุ่งหอกไปตกทางตะวันออกของลำน้ำมางข้ามมาตกที่ตั้งหอเจ้าบ่อหลวงในปัจจุบัน...ซึ่งอยู่ข้างบ่อเกลือใหญ่หรือบ่อเกลือเหนือ ผู้คนที่มาดูได้นำหินมาก่อเป็นที่สังเกต แล้วตั้งโรงหอทำเป็นพิธีระลึกถึงบุญคุณเจ้าพ่อทั้งสองพระองค์ทุกปี
ภายหลังได้จัดตั้งชุมชนขึ้นโดยนำคนจากเชียงแสนเข้ามาอยู่ในพื้นที่และทำเกลืออยู่ในบริเวณนี้ ผ่านมาถึงวันนี้ก็คือบรรพบุรุษของ “คนบ่อหลวง” ตามประวัติเล่าขานมากว่าพันปี
...
ดินแดนแห่งนี้ยังคงมีร่องรอยทางประวัติ ศาสตร์และพิธีกรรมโบราณ ชาวบ้านบ่อหลวงจะไม่ผลิตเกลือในช่วงเข้าพรรษา อีกทั้งสืบต่อพิธีกรรมที่สำคัญมาโดยตลอด
อย่าง...วันแรม 8 ค่ำ เดือน 5 หมู่บ้านบ่อหลวงจะปิดไม่ให้คนนอกขับรถเข้ามาเป็นเวลา 3 วัน...แต่เดินเท้าเข้ามาได้ ด้วยว่าช่วงนี้จะมีการทำพิธีบวงสรวงเจ้าบ่อหลวง...มีการเลี้ยงเจ้า เลี้ยงผี เพื่อขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ปกป้อง คุ้มครองและให้เกลือเป็นทรัพยากรที่นำมาใช้เลี้ยงชีพตลอดช่วงปีที่ผ่านมา
“ศรัทธา” นำมาซึ่ง “ปาฏิหาริย์” เชื่อไม่เชื่ออย่างไรโปรดอย่าได้ “ลบหลู่”.
รัก-ยม