วันตรุษจีน 2567 (Chinese New Year 2024) ตรงกับวันเสาร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ ถือเป็นหนึ่งในวันสำคัญของผู้ที่มีเชื้อสายจีนทั่วโลก เนื่องจากเป็นวันขึ้นปีใหม่จีนที่จะมีการเฉลิมฉลองกันอย่างยาวนาน ไทยรัฐออนไลน์ชวนทำความรู้จักประวัติวันตรุษจีน กิจกรรมที่นิยมปฏิบัติ และเรื่องน่ารู้ในวันตรุษจีน

ประวัติวันตรุษจีนสั้นๆ มีที่มาอย่างไร

วันตรุษจีนไม่มีบันทึกแน่ชัดว่าเริ่มต้นตั้งแต่ช่วงใด แต่มีการสันนิษฐานว่ามีมาตั้งแต่โบราณ ซึ่งจะจัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลฤดูใบไม้ผลิ หลังจากที่ช่วงเวลาก่อนหน้านี้ต้องเผชิญกับหิมะและความหนาวเหน็บ จนไม่สามารถเพาะปลูกหรือทำการเกษตรได้ วันแรกของฤดูใบไม้ผลิจึงเป็นเสมือนวันปีใหม่ ที่จะได้กลับมาทำการเกษตรอย่างอุดมสมบูรณ์ โดยชาวจีนจะเฉลิมฉลองยาวนานถึง 15 วัน มีการรวมญาติ กินอาหารร่วมกัน รวมถึงไหว้เทพเจ้า บรรพบุรุษ เพื่อขอพร เสริมสิริมงคลให้กับตนเองและครอบครัวตลอดทั้งปีอีกด้วย

การเฉลิมฉลองวันตรุษจีน (Chinese New Year) ทั้ง 3 วันในไทย

ตามธรรมเนียมปฏิบัติที่ยึดถือกันมาเป็นเวลานานจะมีการเฉลิมฉลองตรุษจีนยาวนานถึง 15 วัน แต่จะมีวันสำคัญที่ยึดถือปฏิบัติเป็นหลัก ดังนี้

วันจ่ายตรุษจีน

วันจ่ายตรุษจีน คือ วันสิ้นปีก่อนถึงปีใหม่ ปีนี้ตรงกับวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ชาวไทยเชื้อสายจีนจะต้องออกไปจับจ่ายซื้อของไหว้ตรุษจีน เพื่อเตรียมนำมาทำพิธี เช่น อาหารมงคลทั้งคาวและหวาน หรือผลไม้ 

วันไหว้ตรุษจีน

วันไหว้ตรุษจีน 2567 ตรงกับวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ในช่วงเช้ามืดจะมีการทำพิธีไหว้ป้ายเล่าเอี๊ย หรือไหว้เทพเจ้า ในช่วงสายจะทำพิธีไหว้ป้ายแป๋บ้อ หรือไหว้บรรพบุรุษ ส่วนในช่วงบ่ายจะมีการทำพิธีไหว้ป้ายฮ่อเฮียตี๋ หรือไหว้ผีพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้ว

...

วันเที่ยวตรุษจีน

วันเที่ยว หรือวันปีใหม่ ตรงกับวันที่ 10 กุมภาพันธ์ กิจกรรมที่ถือปฏิบัติสืบต่อกันมาในวันนี้คือ การขอพรและไหว้ผู้ใหญ่ ไปเที่ยว หรือกินอาหารร่วมกับคนในครอบครัว

ของไหว้ตรุษจีนมีอะไรบ้าง มีความหมายอย่างไร

ของไหว้ตรุษจีน จะประกอบด้วยเนื้อสัตว์ 3 หรือ 5 อย่าง อาหารแห้ง อาหารเจ ผลไม้ ขนมมงคล ซึ่งของไหว้ที่นิยมนำมาไหว้มีดังนี้

  • ไก่ หมายถึง ความสง่างาม และเกียรติยศ 
  • เป็ด หมายถึง ความสามารถที่หลากหลาย
  • ปลา หมายถึง ความอุดมสมบูรณ์
  • หมู หมายถึง ความอุดมสมบูรณ์
  • หมึก หมายถึง ความอุดมสมบูรณ์
  • ถั่วตัด หมายถึง เงิน
  • ขนมเข่ง ขนมเทียน หมายถึง ความหวานชื่น
  • ขนมไข่ หมายถึง ความเจริญ
  • ขนมถ้วยฟู หรือขนมสาลี่ หมายถึง ความรุ่งเรือง เฟื่องฟู
  • ซาลาเปา หรือหมั่นโถว หมายถึง การห่อโชค
  • ขนมจันอับ หมายถึง ความสุขตลอดไป
  • บะหมี่ หมายถึง อายุยืนยาว
  • เม็ดบัว หมายถึง การมีลูกชายจำนวนมาก
  • สาหร่ายทะเลสีดำ หมายถึง ความมั่งคั่ง
  • หน่อไม้ หมายถึง การอวยพรให้ผาสุก
  • ส้ม หมายถึง ความเป็นสิริมงคล
  • ลูกพลับ หมายถึง ผ่านพ้นอุปสรรคได้อย่างราบรื่น
  • แอปเปิล หมายถึง ความสุขสงบ
  • สับปะรด หมายถึง ความโชคดี
  • แก้วมังกร หมายถึง อำนาจ ความอุดมสมบูรณ์

กิจกรรมที่นิยมปฏิบัติในวันตรุษจีนมีอะไรบ้าง

กิจกรรมที่นิยมปฏิบัติและสืบต่อกันมารุ่นต่อรุ่นในช่วงเทศกาลตรุษจีนมีดังนี้

  • การไหว้เจ้าและบรรพบุรุษ
  • การนัดวันรวมญาติในคืนวันไหว้ และกินเกี๊ยวร่วมกัน เนื่องจากเกี๊ยวมีลักษณะคล้ายกับเงิน ชาวจีนเชื่อว่าสื่อถึงโชคลาภ และเงินทอง
  • การพูดแต่สิ่งดีๆ และยิ้มแย้มตลอดวัน เพราะเชื่อว่าจะช่วยเสริมให้พบเจอสิ่งที่ดี
  • การทำพิธีรับเทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ยในคืนวันไหว้ เพราะเชื่อว่าจะเปรียบเสมือนการรับโชคลาภเข้ามาในชีวิต
  • การสวมใส่เสื้อผ้าสีสันสดใส หรือเสื้อผ้าตัวใหม่ โดยนิยมใส่เสื้อสีมงคลในวันตรุษจีน
  • กินเจในมื้อแรกของวันตรุษจีนหรือวันขึ้นปีใหม่
  • ลูกหลานจะได้รับอั่งเปาจากผู้ใหญ่ โดยจะต้องกล่าว "ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดใช้" เพื่ออวยพรกลับ
  • การอวยพรผู้ใหญ่ด้วยส้ม 4 ผล
  • การติดตุ๊ยเลี้ยง หรือคำอวยพรปีใหม่ที่มีความหมายมงคล
  • การประดับตกแต่งด้วยของตกแต่งสีแดง 

...

10 ข้อห้ามวันตรุษจีน 2567 ห้ามทำอะไรบ้าง

เนื่องจากวันตรุษจีนเป็นวันปีใหม่ที่มีความสำคัญและเป็นวันมงคล ดังนั้น จึงมีความเชื่อเกี่ยวกับการหลีกเลี่ยง 10 ข้อห้ามวันตรุษจีน เพื่อเสริมสิริมงคลและโชคดีตลอดทั้งปีร่วมด้วย ดังนี้

  • ห้ามทำความสะอาดบ้าน
  • ห้ามพูดคำหยาบหรือมีปากเสียงกับผู้อื่น
  • ห้ามสระผมหรือตัดผม
  • ห้ามให้อั่งเปาเป็นเลขคี่
  • ห้ามกินโจ๊ก
  • ห้ามใช้ของมีคม
  • ห้ามใส่ชุดสีขาวหรือสีดำ
  • ห้ามซักผ้า
  • ห้ามให้ยืมเงิน
  • ห้ามทำของแตก
  • ห้ามซื้อรองเท้าคู่ใหม่
  • ห้ามร้องไห้

ตามประวัติวันตรุษจีน แม้จะไม่มีการระบุถึงจุดเริ่มต้นที่แน่ชัด แต่วันตรุษจีนก็ถือเป็นวันสำคัญ ที่นอกจากจะปฏิบัติตามธรรมเนียมที่ยึดถือสืบต่อกันมา ยังมีการหลีกเลี่ยงข้อห้าม เพื่อเสริมสิริมงคลให้กับชีวิตด้วยเช่นกัน

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง