พระสมเด็จ วัดระฆัง พระองค์ครู ครบเครื่อง ไร้ตำหนิ ราคาเปิดหลายสิบล้าน

สวัสดีท่านผู้ชม วันนี้ พอเข้าสนามพระ ก็ได้ยินเสียงบ่นงึมงำว่าพระแพงขึ้น ก็แปลกใจ เพราะตอนนี้ใครๆก็บอกว่าพระกำลังราคาดีน่าซื้อ เพราะถูกลง ถามไปถามมา ที่แพงขึ้นไม่ใช่พระ แต่แพงเพราะทอง เพราะพอได้พระแล้ว ทุกคนก็อยากจัดกุฏิทองคำให้ท่านจำวัด จึงได้ความรู้ใหม่ว่า สมัยนี้เวลาขายพระ จะขายแต่พระเปล่าๆ ไม่มีตลับทองให้แบบแต่ก่อน เพราะให้ไม่ไหว

ไปดูพระกัน องค์แรกวันนี้ เป็น พระหน้าใหม่ ระดับ พระสมเด็จ พิมพ์ใหญ่ วัดระฆังฯ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) กรุงเทพฯ สภาพงดงาม เพอร์เฟกต์ทั้งฟอร์มทรงที่ลงตัว พิมพ์พระก็ชัดแจ่ม คมลึกเสมอกันทั่วองค์ ผิวเนื้อมีแสงเงาจากในเนื้อ บอกอายุถึงยุค จุดตำหนิ ทุกหลายแหล่ก็ครบเครื่อง ริ้วรอยตัดขอบข้าง รอยปริ รอยปาด

รวมทั้งคราบไขการเลี่ยมใช้ด้านหลัง บอกถึงความเป็น พระวัดระฆังฯขนานแท้ ฝั่งเดียว ไม่มีข้ามวัดข้ามคลอง เทียบชั้นได้กับ “พระองค์ครู” ในตำรา เจ้าของ เสี่ยนิว เมืองชล จึงปลื้มมาก เพราะทุกอณู เป็นพระซื้อ สบายตา ขายสบายใจ ในราคาหลายสิบล้าน ซึ่งตอนนี้ต้อง “จ่ายสด” งดรับ “เช็ค”

ต่อด้วย พระกริ่งเขมรน้อย ที่ สมเด็จพระสังฆราช (แพ ) วัดสุทัศน์ กรุงเทพฯ สร้างไว้สมัยสมณศักดิ์ที่ “พระพรหมมุนี” ระหว่างปี พ.ศ.๒๔๕๕-๕๘ โดยใช้ พระกริ่งเขมร เป็นต้นแบบถอดพิมพ์สร้างเทหล่อด้วยเนื้อนวโลหะ ได้องค์พระออกมามีขนาดเล็กชะลูดกว่าต้นแบบมาก เมื่อพิจารณาองค์พระแล้ว จึงรับสั่งว่า พระนี้มีขนาดเล็ก เป็น “พระเขมรน้อย”

เมื่อเทหล่อสำเร็จ ได้องค์พระครบจำนวน ๒ ขนาด ต่างกันไม่มาก นักนิยมพระแยกเล่นเป็น พิมพ์เล็ก พิมพ์ใหญ่ อย่างองค์นี้ ของ “เสี่ยกบ” ฐิการ ศุภวิรัชบัญชา เป็นพระแท้ “องค์ครู” ดูง่าย สบายตาสบายใจ เนื้อนวโลหะ ที่กลับดำสนิท การตกแต่งรายละเอียดบอกชัดเป็น ฝีมือ พระครูปลัดจิ๋ว ที่ถือเป็นมาตรฐานปรมาจารย์ การแต่งกริ่ง แห่งยุคนั้น

ตามมาด้วย พระพุทโธ พิมพ์จัมโบ้ เนื้อใบลาน แม่ชีบุญเรือน วัดอาวุธฯ เขตบาง พลัด กรุงเทพฯ สร้างออกเมื่อปี พ.ศ.๒๔๙๔ โดยถอดพิมพ์พระกริ่ง เป็นแม่พิมพ์ สร้างเป็นพระเนื้อผง พุทธคุณ ผสมมวลสารศักดิ์สิทธิ์ ผงพระกรุพระเก่า หลายชนิด หลายเนื้อ

แยกพิมพ์พระได้เป็น ๑.พิมพ์จัมโบ้ นิยมสุด ๒.พิมพ์ใหญ่ ๓.พิมพ์กลาง ๔.พิมพ์เล็ก องค์นี้ ของ “เสี่ยเพชร” อิทธิ ชวลิตธำรง ที่รื้อพระเจ๋งๆ ออกมาให้พวกเราดูกันแบบไม่มีวันหมดกรุ องค์นี้ เป็นพระพิมพ์จัมโบ้ ที่ได้รับความนิยมสูงสุด โดยเฉพาะชนิด เนื้อพิเศษแบบนี้ สร้างน้อยหายากสุดๆ สภาพงามสมบูรณ์เดิมๆระดับนี้ราคาว่ากันหลักแสนกลาง

ต่อไปเป็น เหรียญหล่อ พิมพ์จอบเล็ก (แข้งติด) หลวงพ่อเงิน พุทธโชติ วัดบางคลาน พิจิตร เหรียญหล่อเนื้อโลหะผสม สร้างออกเป็นรุ่นแรก พร้อม รูปเหมือน พิมพ์ขี้ตา ด้วยฝีมือช่างชาวบ้าน

ประกอบพิธีเททองปลุกเสกที่วัด โดย หลวงพ่อเงิน เป็นประธาน และให้ชาวบ้าน ร่วมนำโลหะ ทองคำ เงิน นาก มาร่วมหลอม เป็น “เนื้อโลหะผสม” เทหล่อได้องค์พระออกมา แต่จำนวนไม่พอความต้องการ และขาดความงดงาม จึงสั่งสร้าง พระรูปเหมือน พิมพ์นิยม กับ เหรียญจอบใหญ่ จากโรงงานในกรุงเทพฯมาเพิ่มเติม ได้รับความนิยมเล่นหาเป็นพระรุ่นแรก เหมือนกับเหรียญนี้

แยกพิมพ์ เป็น ๑.พิมพ์แข้งตรง ๒.พิมพ์แข้งติด แบบองค์นี้ ของ เสี่ยจั้ม สิงห์บุรี--สภาพสมบูรณ์สวยเดิมแบบนี้ราคาปัจจุบันซื้อเข้าหลักแสนกลาง-ปลาย ขายออกหลักล้าน

ต่อด้วย เหรียญหล่อ พระเจ้า ๕ พระองค์ เนื้อตะกั่ว หลวงพ่อเนียม วัดน้อย สุพรรณบุรี พระพิมพ์เอกลักษณ์ รูปทรงสี่เหลี่ยมขนาด ๒.๕ เซนติเมตร ยกขอบสูง เนื้อตะกั่ว เทหล่อโบราณ

ด้านหน้าเป็นองค์พระพุทธ นั่งปางสมาธิ ๕ องค์ มีแม่พิมพ์เดียว ด้านหลังมี ๒ แบบ ยันต์ใหญ่ กับยันต์เล็ก อย่างองค์นี้ ของ เสี่ยพจน์ (เป้) เที่ยงพูนวงศ์ เป็นพิมพ์นิยมพบน้อย ซึ่งก็ต้องหายากแน่ สภาพงามสมบูรณ์เดิมๆแบบนี้ ว่ากันที่หลักแสนกลางๆ

ต่อไปเป็นเครื่องรางของขลัง ที่ไม่ได้มาเยือนเรากันนาน คือ หนุมาน เนื้องาแกะรุ่นแรก พ.ศ.๒๕๕๙ ฉลองอายุวัฒนมงคล ๖๕ ปี พระนันทวิริยาภรณ์ (หลวงพ่ออ่าง สิริจฺนโท) วัดใหญ่สว่างอารมณ์ ต.หอมเกร็ด จ.นนทบุรี พระเกจิอาจารย์ที่รวบรวมตำรับวิชาพุทธาคมที่มีชื่อเสียงของ จ.นนทบุรี ไว้ครบถ้วน

ท่านกำเนิดในสกุล “นุ่มโพธิ์” เมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๔ บิดามารดาเป็นชาวสวน บวชเณรอายุ ๑๙ ปี เป็นศิษย์หลวงพ่อกุหลาบ เจ้า อาวาสวัดสว่างอารมณ์ ถึงปี พ.ศ. ๒๕๑๕ จึงอุปสมบท โดยหลวงพ่อกุหลาบเป็นพระอุปัชฌาย์

อยู่เรียนอักขระเลขยันต์ สำเร็จอ่านออกเขียนได้ในพรรษาแรกและได้ศึกษาวิชาอาคมของหลวงพ่อกุหลาบไว้จบสิ้น จึงได้รับมอบตำรับวิชาทำ ผงพุทธคุณโสฬสมหามงคลของหลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง ที่สืบทอดมาจากหลวงปู่ กลิ่น และ ตำราสร้างหนุมาน หลวงพ่อสุ่น วัดศาลากุน มาศึกษาอย่างแตกฉาน

และยังออกแสวงหาอาจารย์ทางวิชาอาคมใน จ.นนทบุรี เรียนวิชา จึงเป็นพระเกจิฯผู้มีวิชาอาคมเข้มขลังแถวหน้าของเมืองนนท์ในปัจจุบัน

เมื่อปี พ.ศ.๒๕๕๙ ได้สร้างเครื่องราง หนุมาน ออกเป็นรุ่นแรก ในวาระฉลองปีอายุวัฒนมงคล ๖๕ ปี มีทั้งชนิด เนื้อผงพุทธคุณ เนื้องาแกะ อย่างองค์นี้ ของ เสี่ยกำธร แซ่ตั้ง (ธร วัดใหญ่)

มีจำนวนสร้างน้อย ส่วนใหญ่มอบศิษย์ใกล้ชิด ปัจจุบันมีผู้แสวงหามาก เพราะมั่นใจในวิชาที่ท่านรับสืบทอด เชื่อมั่นว่าใช้บูชาพึ่งพาอานุภาพ แทน หนุมาน หลวงพ่อสุ่น ได้--ราคาค่ายังหลักหมื่นต้นๆ ใครชอบก็รีบจับมา

มาถึงเรื่องปิดท้าย ของ เถ้าแก่นนท์ อดีตเจ้าของโรงสีหลายแห่งในลุ่มน้ำเจ้าพระยา มีลูกชายคนเดียว ซึ่งหลังจบปริญญาโทจากอเมริกา ก็กลับมาอยู่เมืองไทย จนอายุย่างเข้าหลักสี่ ก็ยังไม่ยอมมีเมีย พ่อแนะนำลูกสาวเพื่อน สวยๆ โปรไฟล์ดีๆ หลายคนให้ก็ไม่เอา สนใจแต่ทำงานกับศึกษาสะสมพระเครื่อง กับกลุ่มเพื่อน อย่างจริงจัง แต่ก็ใช้แค่เงินเดือน ซื้อได้แค่พระราคาหลักหมื่น ไม่กล้าซื้อพระแพงๆ

เถ้าแก่นนท์ กับภรรยาสังเกตดูลูกชายไม่สนใจมีแฟนจริงๆก็กลุ้มใจ เพราะกลัวไม่ได้อุ้มหลาน จึงร่วมกันคิดหาวิธี จนปิ๊งไอเดียเด็ด ตัดสินใจว่าต้องลงทุนเท่าไหร่ก็ยอม เพราะสมบัติเงินทองทรัพย์สินทั้งหมดก็ต้องยกเป็นมรดกของลูกชายอยู่แล้ว

จึงเรียกลูกชายมาถามว่า ที่ชอบสะสมพระน่ะ อยากได้พระอะไรมากที่สุด ลูกชายยิ้มกว้าง ตอบทันทีว่า “พระชุดเบญจภาคี” เถ้าแก่นนท์ ถามว่า ถ้าพ่อหาพระชุดเบญจภาคีให้ได้ ลูกจะยอมแต่งงานกับสาวที่พ่อหาให้ไหม

พอฟังข้อเสนอ ลูกชายก็ยิ้มแฉ่ง แต่ตอบด้วยน้ำเสียงเกรงใจว่า ไม่ต้องทั้งชุดหรอกครับพ่อ แพงมาก ขอแค่พระสมเด็จวัดระฆังฯองค์เดียว ผมก็ยอมแต่งงานแล้ว

และบอกแบบเสียดายว่า ถ้าพ่อถามผมตั้งแต่กลับจากเมืองนอกใหม่ๆ ตอนนั้นพระก็ยังไม่แพง และป่านนี้พ่อแม่ก็ได้บวชหลานไปแล้วล่ะ อามิตตพุทธ.

สีกาอ่าง

คลิกอ่านคอลัมน์ "สนามพระ" เพิ่มเติม