ก่อนอ่านเข้าเนื้อหา ขอแนะให้ดูภาพพระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่องค์ในคอลัมน์วันนี้ให้เต็มตาทั้งด้านหน้าด้านหลัง

และถ้าได้อ่านในไทยรัฐออนไลน์ ก็จะเห็นทรวดทรงองค์พระเนื้อขาววาววามประกายสีไข่มุก ตัดกับพื้นผนังที่ยังเหลือรักน้ำเกลี้ยง สีน้ำตาลปนแดงสดใส

และเมื่อดูด้านหลัง รอยสึกลึกเข้าใปในเนื้อ ที่เกิดจากการเลี่ยมใช้หลายสิบปี เห็นเป็นภาพใบโพธิ์

ทุกปรากฏตรงหน้า ล้วนมีเหตุปัจจัย ค่อยๆไล่เลียง ทำความเข้าใจไปทีละเรื่อง

เรื่องแรก ทำไมองค์นี้เนื้อพระถูกใช้จนช้ำแล้ว ผิวจึงยังคงความขาวเอาไว้ ไม่ปรากฏสีเหลืองอ่อน เหลืองเข้ม เหมือนหลายองค์ที่เคยเห็น

คำเฉลย เอากันง่ายๆ ส่วนผสมเนื้อองค์พระ (ที่ใช้แล้ว) สมมติให้ลงตัวพอดีๆ ระหว่างปูนเปลือกหอย (ส่วนผสมหลัก) กับน้ำมันตังอิ้ว...ก็เห็นเป็นสีขาว

ส่วนองค์ที่สัดส่วนเนื้อปูนน้อย น้ำมันตังอิ้วมาก ตอนกดพิมพ์ออกมาใหม่ๆ ผิวปูนหรือที่เรียกผิวแป้งโรยพิมพ์ยังปกคลุม ก็เห็นเป็นสีขาว ต่อเมื่อพระถูกสัมผัสช้ำ ผสมไอร้อนและคราบเหงื่อไคล สีเนื้อเหลืองจึงปรากฏ

จะเหลืองแก่ เหลืองอ่อน หรือแปรเปลี่ยนเป็นสีอะไร ตามปัจจัยแวดล้อม ก็ว่ากันไป

หากใช้เกณฑ์นี้ พระสมเด็จหลายองค์ ที่แย่งกันตั้งชื่อท่านว่า “ช้างเผือก” นั้น ท่านขาวแค่ผิวปูน หรือขาวเข้าเนื้อใน ประเด็นพิจารณาข้อนี้ไม่หนักหนา เอาเป็นว่าเห็นเป็นขาว ก็เรียกท่านช้างเผือกได้ ขอให้เป็นพระแท้ก็แล้วกัน

เรื่องที่สอง...พื้นผนังที่ยังปกคลุมด้วยเนื้อรักสีน้ำตาลแกมแดง...สังเกตให้ดีๆ สภาพพระองค์นี้ถูกเลี่ยมแบบโบราณ เปิดทั้งหน้าทั้งยังปิดหลังฉลุเป็นรูปใบโพธิ์

ร่องรอยการสึกหรอ ส่วนที่เป็นผิวปูนหลุดร่อย เหลือแต่เนื้อในสีขาวล้วนๆ สภาพแวดล้อมเดียวกัน ก็ทำให้ผิวรักเดิมๆ ลอกล่อนออกไปไม่สม่ำเสมอ จนเห็นเป็นขุยกลมๆ สีรักส่วนที่เหลือบางๆ มักเห็นเป็นสีแดง

...

เจ้าของพระก็รัก ที่จะรักษาสภาพเดิมๆ ตามธรรมชาติเอาไว้

เราจึงเห็นพระสมเด็จเนื้อขาวประกายงามเหมือนน้ำไข่มุก เด่นขึ้นมากับฉากพื้นผนังสีแดงสดใส ราวกับภาพที่จิตรกรฝีมือตั้งใจเขียน

เรื่องที่สาม หลังใบโพธิ์ คนรักพระสมเด็จรุ่นตำนานคงผ่านตาพระสมเด็จหลังใบโพธิ์หลายองค์ องค์ดัง ราวยี่สิบปีที่แล้ว วงการเรียก “องค์คุณอนุทิน” (คุ้นๆนะครับ ชื่อใคร?) ราคาปีนั้น ว่ากันว่า 14 ล้าน

ใครมีหนังสือภาพพระสมเด็จวัดระฆังองค์ดังของวงการใกล้มือ หยิบมาเปิดดูเทียบ...ก็ได้ องค์คุณอนุทินกับองค์นี้ หลังสึกลึกเป็นใบโพธิ์ระดับใกล้เคียงกัน

ลองหลับตามโนเอา กว่าจะสึกลึกได้ขนาดนี้ แขวนติดคอใช้กี่ปี สิบปีน้อยไป ยี่สิบปีค่อยพอเข้าเค้า

เห็นหลังใบโพธิ์แล้ว ก็อย่าเพิ่งเออ! ออ! ได้พระสมเด็จวัดระฆังแท้..

โปรดตั้งสติ..หลังใบโพธิ์ปลอม เขาทำกันมานาน ทั้งแบบใช้ของมีคมแซะ และ ทั้งใช้กรดกัด...แต่ของปลอม เนื้อหาและธรรมชาติยังไกล คนเป็นพระแค่เห็นก็วาง ไม่เข้าแว่นให้เสียสายตา

นานๆจะเจอพระ ที่ดูปราดสวยเหมือนภาพวาดสักองค์...เนื้อท่านขาวประกายผิวไข่มุก อยู่กับพื้นผนังเป็นฉากเนื้อรักสีแดง สีแดงเหมือนพลอยทับทิม ที่อยู่ในกลุ่มที่เรียกว่ามณี เจ้าของพระจึงลงตัวที่จะตั้งฉายาว่า “องค์มุกมณี

องค์นี้เป็นของรักของหวง แขวนติดคอ อนุญาตให้ดูได้แค่ภาพ แต่ขอสงวนชื่อ เพราะเจ้าของรำคาญที่จะคุยกับคนที่ทาบ ทามถามราคาเต็มที.

พลายชุมพล

คลิกอ่านคอลัมน์ “ปาฏิหาริย์จากหิ้งพระ” เพิ่มเติม