ประเด็น “หน้าตา” ในพระสมเด็จวัดระฆัง..ยังเป็นเรื่อง “เหนือจินตนาการ” ของวงการพระเครื่อง

นับแต่สมเด็จวัดระฆัง เกศบัวตูม พิมพ์ฐานสิงห์แคบ ที่วงการเปลี่ยนมือซื้อขายกันเมื่อกว่ายี่สิบปีที่แล้ว ตามด้วยพิมพ์เดียวกัน แต่เป็นกรุบางขุนพรหมเป็นองค์ที่สอง

ปฏิกิริยาจากวงการก็คงแค่การรับรู้ว่า พระสมเด็จพิมพ์ที่ติดหน้าตามีจริง? เท่านั้น

ย้อนไปถึงสมเด็จวัดระฆัง...โดยเฉพาะพิมพ์ใหญ่ ดูจากจำนวนพระหน้าเก่าจะเรียกพระพันตา หรือองค์ครูก็ตามใจ วนเวียนเปลี่ยนมือ เพิ่มราคากันไป เท่าที่ตีพิมพ์ในสื่อ...นับรวมองค์ที่เจ้าของหวง...รวมๆกัน ยังไม่เกินพันองค์

องค์สวยคมสมบูรณ์สุด บริเวณอกก็แค่ติดร่องแบ่งเส้นสังฆาฏิ และส่วนพระเพลา แยกท่อนขาซ้ายเห็นเป็นปลีน่อง ไปถึงเรียวขาจรดปลายเท้า

เรื่องตา จมูก ปาก ไม่พูดถึงกัน พูดกันแค่ข้อสังเกต หูซ้ายมักติดแผ่วๆที่ต้นหูเป็นปม หรืออย่างดีก็แค่ติดหูซ้ายห้อยระย้า...หูเดียว...สิทธิการิยะ ส่วนหูขวา เซียนท่านว่า ถ้ามี...ไม่น่าจะดี

มาถึงวันนี้การสื่อสารทางโซเชียลช่วยให้เห็นพระสมเด็จรูปแบบที่แปลก แปร่งตา..มากมาย

ในนิตยสารผู้จัดการฉบับสุดสัปดาห์ที่แล้ว อาจารย์รังสรรค์ ต่อสุวรรณ มีวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ องค์มีหน้าตาให้รุ่นน้องได้ฮือฮากัน นับเป็นความก้าวหน้า จากรุ่นครูที่รุ่นน้องจะได้เรียนรู้ตาม

เพราะความจริงแล้ว สมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ ครูตรียัมปวาย ท่านว่า ในจำนวน 6 พิมพ์ เขื่อง โปร่ง ชะลูด ป้อม สันทัด ย่อม... ท่านพบหน้าตาในพิมพ์ใหญ่แบบย่อม มากกว่าในพิมพ์ใหญ่แบบอื่น

ภาพขาวดำ ทั้งขนาดก็เล็กเท่าองค์จริง ในปริอรรถาธิบายแห่งพระเครื่อง เล่มพระสมเด็จ... (พิมพ์ครั้งที่ 6 พ.ศ.2520) พยายามดูเท่าไหร่ ก็ไม่เห็น ต้องใช้วิชา “มโน” ช่วย

...

ใช้หลักครู คอลัมน์ ปาฏิหาริย์จากหิ้งพระ นี่ละ กล้านิมนต์ พิมพ์ใหญ่ องค์มีหน้ามีตา เขียนไปแล้วหลายองค์ องค์ในคอลัมน์วันนี้... ถ้าเป็นแฟนพันธุ์แท้...องค์ที่น่าจะกดจากแม่พิมพ์เดียวกัน คงเคยผ่านตาไปบ้าง

ดูให้เต็มตา...องค์นี้ตาขวานูนขวาง ตาซ้ายชี้ขึ้นบน เชื่อมต่อสันจมูก มาถึงปาก ชัดเจนมาก

หลับตามโน...พระสมเด็จองค์ที่ติดพิมพ์ลึก จนเห็นหน้าตา ส่วนอื่นอย่างอก ก็ควรลึก ระนาบเดียวกัน

ขอกระซิบ ส่วนอกที่เห็นเป็นแนวเนินถูกจับต้องขาวนั้นเป็นเนินสูง นึกถึงนางพญาวัดนางพญา พิมพ์อกนูนใหญ่ หรืออกนูนเล็ก เทียบก็ได้...คล้ายกัน ถ้าไม่ได้จับองค์จริง...ไม่รู้หรอก!

มาถึงแม่พิมพ์โดยองค์รวม...ตัดระดับความคมลึกออก ทุกเส้นสายลายพิมพ์ มโนเทียบได้กับพิมพ์เขื่อง หรือพิมพ์เสี่ยดม

มาถึงเรื่องเนื้อหา...ดูจากภาพไม่เท่ากับเข้าแว่นสิบเท่า...จุดเด่นอยู่ที่องค์นี้มีก้อนขาว หลวมๆหลายก้อน รวมกับหลุมร่อง ที่เกิดจากเม็ดขาวหลุด สลับด้วยกากดำบ้าง แต่ที่สะดุดตา

ด้านหน้าปรากฏเกสรเขียว กลางปมประสานมือ และที่ฐานล่างมากถึงสี่แห่ง พลิกหลังเจออีกหนึ่งแห่ง

เจอทั้งก้อนขาว ชิ้นเขียว กากดำ รวมฝ้ารักน้ำเกลี้ยงหนาหนักเบา มองผ่านๆ แล้วจึงเข้าใจ ทำไมครูท่านจึงจำแนกเนื้อพระสภาพนี้ว่า เนื้อกระยาสารท...เนื้อท่านเหมือนกระยาสารทจริงๆ

แต่พอดูด้านหลัง ผิวปูนนุ่ม (แป้งโรยพิมพ์) ยังปกคลุมริ้วรอยธรรมชาติ หลุมบ่อ รอยยุบแยกสมเด็จวัดระฆังเอาไว้เต็มๆ จึงไม่เหลือเค้ากระยาสารทด้านหน้าเอาไว้เลย

และนี่คือสมเด็จวัดระฆัง แบบที่คนเป็นพระดูแท้ตาเปล่าได้อีกองค์หนึ่ง

เจอแล้วก็พยายามดูให้ติดตา...โอกาสวาสนามีมากกว่า เพราะพระสภาพนี้เซียนน้อยเซียนใหญ่มักเมิน.

พลายชุมพล

คลิกอ่านคอลัมน์ “ปาฏิหาริย์จากหิ้งพระ” เพิ่มเติม