หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ.....ยอดจำหน่ายมากที่สุดของประเทศ.....ฉบับประจำวันพุธที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ.2567
...
สงบสยบความเคลื่อนไหว .....มรสุมการเมือง ที่รุมถล่ม รัฐบาลนายกฯแพทองธาร ชินวัตร แทบจะตั้งรับไม่ทัน.....ส่อง โรดแม็ปโกอินเตอร์ ของ นายกฯแพทองธาร ในเดือนนี้....เข้าร่วมการประชุม ผู้นำแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจลุ่มแม่น้ำโขง ครั้งที่ 8 และการประชุม ผู้นำยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ อิรวดี–เจ้าพระยา–แม่โขง ครั้งที่ 10.....ที่ นครคุนหมิง สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 6-7 พ.ย.นี้...จากนั้นเตรียมเดินทางเยือน นครลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา ท่ามกลางบรรยากาศข้าวใหม่ปลามัน ประธานาธิบดีสหรัฐฯคนใหม่ และต่อด้วยการเข้าร่วมประชุม ผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ครั้งที่ 31 ที่ กรุงลิมา สาธารณรัฐเปรู ระหว่างวันที่ 10-18 พ.ย. .....หลบลมร้อนการเมืองไปได้พักใหญ่
ไม่ว่าการหารือของ นายกฯแพทองธาร กับ หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล ในการร่วมกันแก้ปัญหา กฎหมายประชามติเพื่อแก้รัฐธรรมนูญ กฎหมายนิรโทษกรรม หรือ ประเด็นร้อนล่าสุด MOU 2544....จะกี่รอบ กี่ขั้นตอน....ก็คงจะได้รับคำตอบเดิม คือไม่มีคำตอบ....การเมืองที่ไม่มีมิตรแท้และศัตรูที่ถาวร....กรรมใครก็กรรมมัน
...
โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ อัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ระบุ...การที่ พรรคเพื่อไทย เสนอแนวทางเพื่อให้เร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เร็วขึ้น...ที่รวม การลดทำประชามติเหลือ 2 ครั้ง....เป็นเรื่องที่ ต้องปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ....คือต้องทำประชามติ 3 ครั้ง....และหากจะแก้มาตราใด ต้องมีการทำประชามติ ด้วย....ดังนั้น รวมไทยสร้างชาติ จะต้องทำตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ......จบข่าว
...
กลายเป็น ปัญหาน้ำผึ้งหยดเดียว ไปแล้ว...ถึง นพดล ปัทมะ สส.เพื่อไทยและอดีต รมว.ต่างประเทศ จะออกมาแก้ต่าง การปั่นกระแสไทยจะเสียอธิปไตยดินแดนเกาะกูด ให้กับ กัมพูชา ตาม MOU 2544 และมีการพาดพิงให้เกิดความเข้าใจผิด เช่นเดียวกับ กรณีเขาพระวิหาร ที่ตนเองรับผิดชอบในฐานะ รมว.ต่างประเทศเมื่อปี 2551 ...เป็นการใส่ร้าย ว่าทำให้ไทยเสียปราสาทเขาพระวิหารให้กัมพูชา...ทั้งที่ ไทยยกปราสาทเขาพระวิหารให้กัมพูชาตามคำตัดสินของศาลโลก.... “ข้อเท็จจริงคือ ผมไม่ได้ขายชาติ แต่คือคนที่ปกป้องชาติ แต่คนบางกลุ่มยังไม่สำนึกว่าการจุดกระแสคลั่งชาติ ทำให้มีการปะทะตามแนวชายแดน และมีทหารเสียชีวิต”....เปิดแผล เข้าแผนฝ่ายตรงกันข้ามจนได้
...
ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ อดีตแกนนำเสื้อเหลือง ออกมาย้ำ ปัญหา MOU 2544 อยู่ที่พื้นที่อ้างสิทธิทับซ้อนมากเกินจริง โดย ฝ่ายกัมพูชาไม่ยึดถือ กฎหมายทางทะเล...ถ้า ไทยยอมรับก็เท่ากับปฏิเสธพระบรมราชโองการรัชกาลที่ 9 ประกาศเขตไหล่ทวีปของไทยปี 2516.....ไม่ใช่อ้างตาม MOU 2544.....สมชาย แสวงการ อดีต สว. โพสต์ข้อความ เรียกร้องให้รัฐบาล เสนอสภาให้เห็นชอบการยกเลิก MOU 2544 ในการอ้างสิทธิในไหล่ทวีปทับซ้อน เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.2544...และให้ รัฐบาลประกาศความชัดเจนผลประโยชน์ในพื้นที่ทับซ้อนที่มีมูลค่ารวม 10 ล้านล้าน ที่ต้องไปแบ่งให้กับชาติอื่น.....ยังมี กลุ่มปฏิรูปพลังงานเพื่อความยั่งยืน อาทิ ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ อดีต รมว.พลังงาน บรรยง พงษ์พานิช อดีตบอร์ดรัฐวิสาหกิจ มนู เลียวไพโรจน์ อดีตปลัดอุตสาหกรรม พรายพล คุ้มทรัพย์ อดีตคณบดีเศรษฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์ ทวารัฐ สูตะบุตร อดีตหัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงพลังงาน เทวินทร์ วงศ์วานิช อดีตซีอีโอ ปตท. ...นัดหารือ ประเด็นพื้นที่ทับซ้อนไทย–กัมพูชา อีกระลอก.....ถึง สวนดุสิตโพล จะเผยผลสำรวจ คะแนนนิยมดัชนีการเมือง นายกฯแพทองธาร ในเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา เพิ่มจาก 4.8 เป็น 5.1...คะแนนนิยมในฐานะ นักการเมืองฝ่ายรัฐบาล จะอยู่ที่ร้อยละ 52.81 เฉือนเอาชนะนักการเมืองฝ่ายค้าน ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ที่ได้ร้อยละ 37.80....แต่มรสุมการเมืองหนักหนากว่าที่คิด
เอ้า ไม่ว่าการสรรหา ประธานบอร์ดแบงก์ชาติ จะออกหัวออกก้อย.....แต่รายชื่อของ คณะ กรรมการสรรหาประธานบอร์ด และ กรรมการบอร์ดของแบงก์ชาติชุดใหม่ จะถูกบันทึกเอาไว้เป็นหลักฐาน ดังนี้ ......สถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ อดีตปลัดคลัง.....บุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อดีตปลัดพาณิชย์ วิฑูรย์ สิมะโชคดี อดีตปลัดอุตสาหกรรม วรวิทย์ จำปีรัตน์ อดีต ผอ.สำนักงบประมาณ....อัชพร จารุจินดา อดีตเลขาธิการสำนักคณะกรรมการกฤษฎีกา ปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา อดีตเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และ สุทธิพล ทวีชัยการ อดีตเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย.....แปะข้างฝาไว้เลย
สกัดจุดตาย....ไพศาล พืชมงคล โพสต์ระบุ ป.ป.ช. เตรียมแจ้งความจับ ผู้บริหารโรงพยาบาลตำรวจ ฐานฝ่าฝืนไม่ยอมส่งเวชระเบียน การรักษาคนไข้ที่ชั้น 14 โดยได้ขอไป 3 ครั้งแล้ว ไม่ยอมให้....แสดงเจตนาชัดเจนว่าต้องการปกปิดการกระทำผิด....ที่สำคัญได้มีการ ขอให้นายกฯมีคำสั่งให้ สตช. จัดการส่งเวชระเบียนแล้ว เมื่อไม่มีการปฏิบัติความรับผิดชอบจะไปตกกับนายกฯด้วย.....ว้าเหว่
ผู้บริหารกลุ่ม ปตท.นำโดย ดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. ลงนามความร่วมมือเพื่อขับเคลื่อนการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม กลุ่ม ปตท. อาทิ การดักจับใช้ประโยชน์ และกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ โมเดลการพัฒนา ยกระดับความร่วมมือการพัฒนาพลังงานไฮโดรเจนสู่เป้าหมาย Net Zero.....วันนี้ 09.00 น. นครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ เปิดการสัมมนาหลักนิติธรรมเพื่อประชาธิปไตย นธป.รุ่น 12 ที่ห้องพระศิวะ โรงแรมอัศวิน แกรนด์ คอนเวนชั่น
"อินทรีเหล็ก"
คลิกอ่านคอลัมน์ “บุคคลในข่าว” เพิ่มเติม