• จัดอีเวนต์ไหน ก็เป็น ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ จนลูกค้าไทยและต่างชาติแน่นไอคอนสยามทุกครั้ง ล่าสุด สุพจน์ ชัยวัฒน์ศิริกุล บอสไอคอนสยาม กำลังสร้างสีสันแบบทำถึง ทำเกินอีกครั้ง กับงาน “ICONIC CRAFT COFFEE EXPO 2024” เพื่อยกระดับมหกรรมของคนรักกาแฟให้ยิ่งใหญ่ขึ้น ตอบโจทย์คอกาแฟชนิดที่ไม่ต้องไปที่ไหน เพราะมัดรวมมาไว้ในงานนี้ครบ ตั้งแต่กาแฟร้านเด็ด ร้านดังจากทุกภูมิภาค, กาแฟระดับแชมป์, เมล็ดกาแฟหลากหลายสายพันธุ์จากทั่วโลก, อุปกรณ์กาแฟครบวงจร, เสวนา พร้อมเวิร์กช็อป เอกซ์คลูซีฟจากบาริสต้าชื่อดัง ซึ่งบาริสต้าแชมป์ระดับโลกยกขบวนมาร่วมงานพรึ่บ เพื่อให้คนรักกาแฟได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ทุกเรื่องราวกาแฟแบบไม่มีค่าใช้จ่าย--ที่สำคัญ เป็นครั้งแรกกับการเฟ้นหา สุดยอดบาริสต้า ที่จะรังสรรค์เมนูสุดพิเศษเฉพาะในงานนี้ จัดเต็มจนหลายคนอยากรู้ว่าใหญ่กว่านี้มีอีกไหม คุณสุพจน์ จึงเชิญให้มาดูงานจริงด้วยตัวเอง เพราะที่ผ่านมา 4 ปี เป็นการรวมพลังพันธมิตรมากมายทั้งภาครัฐและเอกชน ผู้ประกอบการรายเล็ก รายย่อย เซเลบริตี้วงการกาแฟ แท็กทีมกันมาร่วมขับเคลื่อน จนเป็นงานที่ผู้บริโภคยอมรับความยิ่งใหญ่ที่สุดของเมืองไทย การันตีได้จากผู้ร่วมงานและพันธมิตรที่เพิ่มขึ้นๆ ปีนี้ คุณสุพจน์ จึงยกระดับงานให้เป็นสากลขึ้น โดยขยายพื้นที่ทั้งเจริญนคร ฮอลล์, วอล์คเวย์, ธารา ฮอลล์ ชั้น M ไอคอนสยาม และ ICS ชั้น M ให้เต็มอิ่มกับเรื่องราวกาแฟ กิจกรรม และรับกลิ่นกาแฟหอมๆทั่วงาน 10 วัน จนถึง 8 ก.ย.

...

  • นอกจากเป็นมหกรรมกาแฟใหญ่ที่สุด ที่สำคัญคือ “ICONIC CRAFT COFFEE EXPO 2024” ยังเป็น ไอคอนิค อีเวนต์ ที่ไอคอนสยามและไอคอน คราฟต์ ตั้งเป้าช่วยธุรกิจกาแฟให้มีโอกาสต่อยอด ตามนโยบายกระทรวงพาณิชย์ ที่ผลักดันให้ตลาดกาแฟไทยเติบโตตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ และยังช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย โดยเฉพาะบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยาของไอคอนสยาม ให้เป็นแลนด์มาร์กสำคัญเทียบเท่าเมืองใหญ่ของโลก--งานนี้จึงเป็นการสร้างทั้งคุณค่าและมูลค่าในรูปแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน เพื่อให้คนรักกาแฟที่ไปสัมผัสงานนี้ ต้องใจฟู.

  • พอกลับจากอิตาลี อย่างแคล้วคลาดไม่พลาดท่าโจร ดร.ธนศักดิ์ วหาวิศาล ก็ขอกินอาหารไทย และเพื่อรักษาความเป็นกูรูเรื่องกิน ซึ่งเลือกร้านในอิตาลีได้เด็ดๆทุกมื้อ คุณตี่–ธนศักดิ์ จึงเลือกร้าน เจ๊ไฝ แต่เพราะรู้ว่าคิวยาวจองยาก คุณตี่ จึงใช้วิธีทางลัด โดยลาก พี่ชาลี–ชุลิตา อารีย์พิพัฒน์กุล เจ้าแม่ “พลอยแกมเพชร” ไปด้วย เพราะ พี่ชาลี สนิทกับ เจ๊ไฝ มาหลายสิบปี ตั้งแต่ยังไม่ได้มิชลินและดังระดับโลก แต่เพราะร้านนี้ เสิร์ฟแต่จานใหญ่ๆยักษ์ๆ คุณปิ๋ม–การะเกด วหาวิศาล จึงให้ ดุจ เกษมสุวรรณ หาเพื่อนกินเพิ่มอีก 2 คน ทำให้ คุณดุจ มึนมาก เพราะพอนัดได้ เจ๊ไฝ ก็ปิดร้าน พอเปิดร้าน คุณตี่ เจ้ามือก็ติดงาน พอร้านเปิดเจ้ามือว่าง เพื่อนกิน ดร.ธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ ก็ไม่ว่าง คุณดุจ จึงเปลี่ยนวันนัด 5-6 ครั้ง จนลงตัว แต่สุดท้าย ลืมคอนเฟิร์มเพื่อน จนต้องขอร้อง คุณชัย เลื่อนนัดที่อื่น ไม่งั้นตัวเองถูกเจ้ามือตื้บแน่--พอถึงร้าน พี่ชาลี ก็สั่งอาหารจานเด็ดแบบไม่ต้องดูเมนู ทั้งไข่เจียวปู ราดหน้า ต้มยำกุ้ง กุ้งผัดพริกเผา ปูผงกะหรี่ ผัดหมี่กรอบ ฯลฯ เพราะเวลาพรรคพวกอยากกิน ก็จะเอาตัว พี่ชาลี ไปด้วย ไม่งั้นรอคิวนานจนลืมไปได้เลย พี่ชาลี ซึ่งกินบ่อยกว่าใครในประเทศไทย จึงเรียกตัวเองว่า ตัวประกัน

    พออิ่มหนำกันแบบต้องห่อกลับ พี่ชาลี ก็ชวน เจ๊ไฝ มานั่งพักและถ่ายรูปกับแก๊ง ทำให้ร้านโกลาหล เพราะลูกค้าโต๊ะอื่น ทั้งคนไทยคนต่างชาติ มารุมขอถ่ายด้วย ซึ่ง เจ๊ไฝ วัย 82 ก็ยิ้มแย้มยินดี และบอกว่าดีแล้ว ที่มากินช่วงนี้ เพราะอีกเดือนอาจจะต้องไปเกาหลีอีก เพื่อโปรโมตอาหารเกาหลีและอาหารไทย 10 วัน พอถามว่าลูกค้าก็แน่นอยู่แล้ว ไปเหนื่อยทำไม เจ๊ไฝ ตอบว่า ไปสร้างชื่อเสียงให้เมืองไทย และไปเอาเงิน--เพราะค่าตัวเจ๊ 10 วัน คือ 4 ล้านบาท.

โสมชบา

คลิกอ่านคอลัมน์ “ของว่างวันอาทิตย์” เพิ่มเติม