หนึ่งในคนรุ่นใหม่ที่สร้างฝันของตัวเองให้เป็นจริง ปวริศา พรหมชาติ ที่ได้ก้าวออกมาจากเซฟโซนมาสู่การสร้างธุรกิจของตัวเองด้วยความภูมิใจ
คุณอาย-ปวริศา พรหมชาติ เจ้าของร้าน BEYOU.FOODBAR ร้านเบอร์เกอร์ที่มาจากความรักที่ชื่นชอบเมนูแฮมเบอร์เกอร์ของเธอและพาร์ตเนอร์ “เชฟภู” ซึ่งเริ่มต้นจากรถ Food Truck ที่ขับไปเสิร์ฟอาหารปรุงสดใหม่ตามสถานที่ต่างๆ จนไปสู่การมีหน้าร้านถึง 2 สาขา Crystal Design Center (เอกมัย-รามอินทรา) และสาขา Panya Market (ปัญญารามอินทรา) พร้อมทั้งมีจุดจอดรถ Food Truck ที่ Central Village สุวรรณภูมิ และ Siam Premium Outlet กว่าจะมาถึงวันนี้ คุณอายเล่าว่า ธุรกิจนี้เริ่มตั้งแต่ตอนเรียนอยู่ปี 3 คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ เป็นช่วงโควิดพอดี อยู่บ้านเฉยๆเลยอยากลองหาอะไรทำ แล้วช่วงนั้นทุกอย่างปิดล็อกจึงนึก ถึงว่าธุรกิจอาหารฟู้ด ทรัค ที่สามารถทำอาหารบนรถและขับออกไปไหนได้ แล้วแฟนของอายเป็นเชฟเลยรู้สึกว่าเรามีโอกาสตรงนี้ “เชฟภู” จึงพัฒนาสูตรเมนูทานง่ายๆอย่างเบอร์เกอร์ สเต๊ก และออกไปกับฟู้ดทรัค ตอนแรกอายไม่ได้มองว่าเราจะออกไปขายเพื่อหาเงิน ตอนนั้นอยากจะไปช่วยผู้ที่อยู่ในศูนย์พักคอย หรือบุคลากรทางการแพทย์ เราอยากทำไปเสิร์ฟตรงนั้น โดยเป็นเมนูเบอร์เกอร์ สเต๊ก ต้องรับประทานร้อนๆ ฟู้ดทรัคจึงตอบโจทย์
...
“ตอนนั้นเสียงตอบรับดีมาก มีคนสนใจว่าเป็นไอเดียที่ดีมาก เลยมีคนติดต่อทางเราให้เราไปเปิดฟู้ดทรัคมอบให้บุคลากรทางการแพทย์หรือผู้กักตัวทุกคนพอได้รับประทานแล้วรู้สึกว่าอร่อย บอกไม่เคยเจอเบอร์เกอร์รสนี้ในราคานี้ เราเลยทำต่อมาเรื่อยๆจนอายเรียนจบแล้วทำงานประจำอยู่ 1 ปี มองเห็นว่ารถก็จอดอยู่เฉยๆ มาวัดความรู้สึกว่า เราทำงานธุรกิจอาหารมีความสุขกว่า ถ้าพูดภาษาสวยๆก็เหมือนกับเราได้ส่งความสุขให้คนอื่น เวลาที่คนมากินเบอร์เกอร์เรา และเขาแฮปปี้ เรามีความสุขมากกว่าไปนั่งทำงานออฟฟิศ เลยลาออกมาทำธุรกิจนี้อย่างจริงจัง เมื่อ 2 ปีที่แล้วค่ะ ซึ่งตอนนี้นอกจากจะมีหน้าร้านและฟู้ด ทรัคแล้ว เราก็รับงานอีเวนต์ ติดต่อได้ที่ 08-1171-1745 Line : @beyou.foodbar FB/IG/Tiktok: @beyou. foodbar ค่ะ”
กว่าจะมาถึงวันนี้ คุณอาย เล่าว่า เราก้าวมาจากศูนย์จริงๆ ที่บ้านก็ไม่ได้ทำธุรกิจ เราเหมือนเรียนรู้ล้มแล้วล้มอีก ทำแล้วก็พลาดเราเริ่มล้มลุกคลุกคลานมาตั้งแต่แรก ไปยืนขายเองตั้งแต่แรก ไม่มีเด็กไม่มีใครช่วย ยืนขายคนเดียวก็ทำมาแล้ว บางวันก็ขายไม่ได้ บางช่วงอย่างหน้าฝนพอออกไปข้างนอก ก็ขายไม่ได้ ก็มีความรู้สึกท้อ แต่เมื่อฟังคุณแม่ที่บอกว่าถ้าเราทำงานเต็มที่จริงๆแล้ว เราขายของมีคุณภาพ ราคาไม่แรง ถ้าเราเต็มที่แล้วเราก็ไม่มีอะไรต้องเสียใจ
“ในการทำธุรกิจ อายอันดับแรกต้องกล้าที่จะออกจากเซฟโซนของเรา รู้สึกว่าการที่ทำธุรกิจได้ มันต้องกล้าลุยกล้าเสี่ยง และอีกอย่างหนึ่งคือใจเราต้องนิ่ง! เพราะว่าต้องมีวันที่ไม่ได้ดั่งใจเราซึ่งจะเยอะกว่าวันที่เราประสบความสำเร็จ ในช่วงแรกๆ มันต้องมีวันที่เป็นแบบนั้น ใจเราต้องนิ่ง และเตรียมตัวให้พร้อม เพื่อรอวันที่มันประสบความสำเร็จค่ะ”...คติสอนใจของนักธุรกิจรุ่นใหม่ไฟแรงคนนี้.
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่