น้องเล็กของสามสาวในครอบครัว สุขะหุต “มทินา” ที่จับมือกับพี่สาวสร้าง “สเรทซิส (Sretsis)” แบรนด์แฟชั่นไทยแถวหน้า ติดลมบนมากว่า 20 ปี ได้เติมเต็มความฝันของตัวเองด้วยการสร้างอาณาจักรแห่งความสุขในโลกวัยเยาว์ด้วยความทุ่มเทและมุ่งมั่น
คุณแอ้-มทินา สุขะหุต หนึ่งในเสาหลักของแบรนด์ “สเรทซิส” ที่ตั้งขึ้นด้วยความรักในงานแฟชั่นและดีไซน์ของพี่น้องสามสาว ปัจจุบัน คุณแอ้ นั่งคุมงานในตำแหน่งครีเอทีฟ ไดเรกเตอร์ ของแบรนด์ Sretsis Parlour and Little Sister อยู่ในเครือของ Sretsis คุณแอ้ เล่าถึงงานที่ร่วมปลุกปั้นกับพี่สาวว่า สเรทซิส ปีนี้เข้าสู่ปีที่ 22 นอกจากทำเสื้อผ้าผู้หญิงแล้ว เราแตกไลน์มาเป็น Sretsis Parlour เป็นไลฟ์สไตล์ โฮมแวร์ และ Little Sister แบรนด์เสื้อผ้าเด็กที่แอ้ ดูแลภายใต้แบรนด์สเรทซิส พี่อิ๊บ-คล้ายเดือน เป็น Managing Director ดูแลทุกอย่างทั้งงานบริหารและมาร์เก็ตติ้งและงานพีอาร์ ส่วน พี่เอ๋ย-พิมพ์ดาว จะโฟกัสอยู่ที่การออกแบบแบรนด์สเรทซิส และครีเอทีฟทั้งหมดของเสื้อผ้า ส่วนแอ้ ดูรอบๆของสเรทซิส ไม่ว่าจะเป็นทีรูม หรือว่าป๊อปอัปต่างๆ อย่างเช่น ที่ทำกับ After You และล่าสุด การทำทีรูมกับเดอะ สแตนดาร์ด รวมทั้งของตกแต่งบ้าน ไม่ว่าจะเป็นวอลล์เปเปอร์ หรือของจัดโต๊ะอาหาร จานชาม ผ้าปูโต๊ะ เป็นโปรดักส์สำหรับแต่งบ้าน ฯลฯ
...
“ก้าวต่อไปของสเรทซิสเราพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา โดยที่เราไม่ลืมว่าเราคือใคร แบรนด์สเรทซิส มี Identity ที่ชัดเจน นอกจากนี้เรายังมีโปรเจกต์ใหม่ๆ อย่างปีนี้ก็น่าจะเป็นตัวร้านแฟล็กชิป รวมถึงการเดินหน้าในตลาดต่างประเทศ หลังจากที่หยุดไปช่วงโควิด เราทำทุกอย่างด้วยใจรักเสมอ มันเหมือนกับว่าประตูนี้ปิด ประตูใหม่ก็จะเปิดโอกาสต่อไป นอกจากนี้เรายังจะสานต่อการทำงานในเรื่อง sustainability มันอยู่ในวิถีการทำงานของพวกเรา มาตั้งนานแล้วด้วยค่ะ”
นอกจากงานแฟชั่นที่รักแล้ว คุณแอ้ ยังได้เติมเต็มความฝันของตัวเองด้วยการสร้างหมู่บ้านสายรุ้ง มูลามาติ เกาะสมุย (MULAMATI Rainbow Village) อาณาจักรความสุขของเด็กๆ บนพื้นที่ 2 ไร่ครึ่ง บริเวณทางใต้ของเกาะสมุย คุณแอ้ เล่าว่า งานนี้เป็นไอเดียที่มีมานานแล้ว หมู่บ้านสายรุ้งเป็นพื้นที่สันทนาการสำหรับเด็ก เป็นดินแดนของเด็กและความเป็นเด็กในตัวเราทุกคน แอ้อยากให้มันเป็นที่ของครอบครัวมาใช้เวลาร่วมกัน ที่นี่จะมีคลาส มีเวิร์กช็อปต่างๆเป็นคอมมูนิตี้ที่ให้คนได้มาเรียนรู้อะไรร่วมกัน มีร้านอาหาร ซึ่งแอ้อยากที่จะสนับสนุนการท่องเที่ยวท้องถิ่นด้วย เหมือนเอาภูมิปัญญาของชาวเกาะมาแบ่งปันความรู้กัน โดยจะมีกิจกรรมทุกวัน ยกเว้นวันจันทร์ที่ปิด สามารถเข้ามาได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ยกเว้นการร่วมกิจกรรมเวิร์กช็อป ติดตามได้ที่เฟซ บุ๊กและไอจี MULAMATI Rainbow Village
“แอ้ใช้เวลาก่อสร้างกว่า 2 ปี ทำคนเดียวตั้งแต่มาดูพื้นที่ โครงการนี้มันเติมเต็มความสุขของแอ้ แต่ก็เหนื่อยมาก แอ้เป็นคนทำงานที่ใช้ใจพาไป แค่รู้สึกว่าอยากทำ แอ้ก็ทำ โดยที่ไม่ได้คิดไปถึงข้างหน้าว่าเราจะทำไหวไหม แล้วเราจะทำยังไงบ้าง ซึ่งตอนนี้ก็เป็นแบบสเต็ป บาย สเต็ป การที่ได้เห็นเด็กๆมาเล่นในศาลาที่เรานั่งปั้นนั่งทำ มันก็ดีใจมาก รู้สึกว่าสถานที่นี้มีค่า มีความหมายขึ้นมาเมื่อมีเด็กๆ เดินเข้ามา และสร้างรอยยิ้มให้กับเขา การทำงานนี้เหมือนรู้สึกว่าเราได้ก้าวมาอีกหนึ่งก้าว ทำให้เรารู้สึกว่าเราทำอะไรได้บ้าง”....ความสุขในการทำงานของสาวเก่งคนนี้.
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่