เรื่องการแต่งหน้าแต่งตัวสาวไทยเราไม่แพ้ใครในโลก เรียกว่าเกาะติดเทรนด์แฟชั่นแบบนั่งฟรอนต์โรว์เลยทีเดียว เพื่อให้สาวๆสวยอินเทรนด์ในแบบของตัวเอง ป้อม-วินิจ บุญชัยศรี เมกอัพอาร์ติสต์ชื่อดังของไทย เจ้าแม่แฟชั่นคิ้วอุยพ่วงตำแหน่ง พรีเซนเตอร์และ Creative Director ที่ร่วมพัฒนาเครื่องสำอางแบรนด์ไทยที่โด่งดังไปทั่วอย่าง RAN Cosmetic ได้มาแนะการแต่งหน้ามาแรงในปีนี้ คุณป้อม แนะว่าการแต่งหน้าในปีนี้น่าจะเป็นผลต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา ด้วยกระแสเทรนด์เกาหลีค่อนข้างมาแรงมาก เพราะมีศิลปินนักร้องดังๆอย่างลิซ่า แบล็คพิงค์ ทำให้เทรนด์การแต่งหน้าสายเกา! หรือเกาหลียังคงมาแรง และอีกเทรนด์ที่มาควบคู่กันคือ เทรนด์สายฝอ! หรือสายฝรั่ง ที่จะมาแรงสูสีพอๆกัน แต่ถ้าให้เจ้าแม่ในวงการเมกอัพคนนี้แนะนำสำหรับสาวไทย คุณป้อมขอเคาะไปที่ “สายเกา” จะดีกว่า เพราะเป็นสไตล์ที่จะทำให้ผู้หญิงดูอ่อนเยาว์ ดูสวยแบบธรรมชาติมากที่สุดเหมาะกับสาวไทยมากกว่า
...
สำหรับวิธีการแต่งหน้าสไตล์เกาหลี เริ่มจากงานผิว หรือ สกิน คือการเตรียมผิวก่อนแต่งหน้า จะเป็นการบำรุงโดยการเน้นเติมน้ำให้กับผิวหน้า เน้นความชุ่มชื้นให้กับผิว และเลือกลงรองพื้นที่ช่วยปรับโทนสีผิวให้ดูสว่างมากยิ่งขึ้น ถ้าผิวขาวอยู่แล้ว ก็อาจจะใช้ตัวรองพื้นสีสว่างค่อนข้างมากไปเลย หรือถ้าหากมีผิวสองสี ขอแนะนำให้ปรับอันเดอร์โทนให้สว่างขึ้นกว่าผิวจริงไปอีกหนึ่งสเต็ป และไม่ควรแต่งออกมาให้ดูดิวอี้ (Dewy) มีประกายแบบฉ่ำมากเกินไป ให้แต่งในลักษณะกึ่ง Matt หลังจากนั้นค่อยใช้ Finisher ที่ทำให้ดูออกมาเป็นงานผิว เช่น Shimmer หรือ บาล์ม ที่มาช่วยให้ผิวดูดิวอี้เป็นงานผิวมากยิ่งขึ้นแบบพอเหมาะ
และสิ่งที่ “คุณป้อม” อยากแนะนำคือให้เลือกตัวรองพื้นที่สามารถควบคุมปริมาณความมันบนใบหน้าได้ค่อนข้างดีสักนิดนึง เนื่องจากตัวสกินแคร์ที่เราลงไปก่อนหน้านั้นเราเน้นไปที่งานผิว อาจจะมีตัวใดที่มีส่วนผสมของน้ำมัน ฉะนั้น รองพื้นและแป้งฝุ่นที่ช่วยควบคุมความมันได้ก็จะช่วยควบคุมน้ำมันบนใบหน้าได้เป็นอย่างดี และยังคงเป็นงานผิวที่สวย ดูชุ่มชื้นอยู่ สรุปคือจะเป็นการปรับผิวให้ดูสว่างกว่าผิวจริงไป 1-2 สเต็ป เมื่อลงรองพื้นเสร็จแล้ว ให้ลองถอยออกมาสัก 2 ก้าวจากหน้ากระจก แล้วให้ดูองค์รวมว่าหน้ามันลอยจนเกินไปไหม
ส่วนการแต่งตาในปีนี้จะค่อนข้างเบามากๆ ขนตาจะเป็นการนำขนตาที่ใช้แล้วดูเป็นธรรมชาติเข้ามา หรือการติดขนตาแบบเฉพาะจุด เช่นการตัดเสียบขนตา หมดสมัยขนตางอนแบบสะพรึงไปแล้ว และที่มาแรงชัดเจนแน่นอนก็คือ เส้นอายไลเนอร์ที่มาช่วยเน้นให้ดวงตาดูยาวรีขึ้น ส่วนใหญ่จะแตะไปที่บริเวณเกือบๆจะหางตาแล้วลากออก องศาของเส้นอายไลเนอร์เกือบจะยาวตรง อาจจะงอนเชิดขึ้นสักนิดนึงในกรณีที่สาวๆบางคนแตะแล้วลากออกยาวตรง แล้วทำให้ดวงตาดูซึมเศร้า เราก็จะยกหางตาขึ้นมาช่วย ในการยกระดับจะเป็นการยกแบบขนานกับเส้นตาเรา ไม่ใช่การยกตั้งกระดกเหมือนตาแมวแบบที่ผ่านๆมา แต่ถ้าจะเขียนอายไลเนอร์ ทั้งรูปตา ควรจะเขียนให้เป็นเส้นที่บางและเล็กมากๆ ในส่วนของสีแก้ม สีที่มาแรงคือสีออกชมพูอมพีช หรืออาจจะมีสีอมม่วงมาผสมได้ในบางจุด จะลงบลัชออน ในสีที่ค่อนข้างเบา หรือสีพาสเทล จะช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนหวาน ละมุนขึ้น เพื่อให้ไปล้อกับเส้นตาที่ดูเปรี้ยวคม ขณะที่ริมฝีปาก ในปี 2566 นี้ลิปไลเนอร์! มาแรงอย่างแน่นอน เส้นเอาต์ไลน์ (Out Line) รอบ ริมฝีปากจะช่วยขยายรูปปากให้ดูเอิบอิ่มมากยิ่งขึ้น
...
โดยรวมแล้วเทรนด์การแต่งหน้าในปี 2566 นี้ ดวงตาจะดูเบาขึ้น รองพื้นการทำผิวจะเป็นการแต่งแล้ว ดูสบายตามากขึ้น ริมฝีปากแม้จะเน้นสีแต่เทกเจอร์จริงของ ริมฝีปากก็ยังต้องเห็นอยู่ ไม่ว่าจะมาในรูปแบบกลอส หรือแบบแมท การเฉดสีก็จะน้อยลง เป็นผิวที่ดูสว่าง ดูนวลเนียน เน้นการแต่งผิวจะช่วยลดในเรื่องของการเฉดดิ้ง ทำให้เรามีรูปหน้าที่สวย หน้ากลม หน้ายาวก็สวยได้ ถ้าเรารู้จักการเลือกใช้รองพื้นให้สวยเนียน สว่างอย่างดูเป็นธรรมชาติ สามารถแก้ไขปกปิดจุดบกพร่อง หรือปัญหาต่างๆของสาวๆได้ และขอย้ำในเรื่องของโปรดักส์ที่จะนำมาแต่งงานผิวควรจะมีส่วนผสมของตัวบำรุงผิวค่อนข้างมากและไม่ทำร้ายผิวเป็นสิ่งสำคัญ.