หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ.....ยอดจำหน่ายมากที่สุดของประเทศ.....ตรงกับ วันเข้าพรรษา ฉบับประจำวันพฤหัสบดีที่ 14 กรกฎาคม 2565
- ประเทศไทยในยามวิกฤติพลังงาน น้ำมันแพง คุยกับแฟนก็ต้องดับไฟ....ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นอีกต่อไป.....สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) อยู่ในระหว่าง การพิจารณาทบทวน และปรับขึ้นค่าไฟฟ้าผันแปร หรือ ค่าเอฟที งวดเดือน ก.ย.–ธ.ค. ที่มีแนวโน้มจะสูงขึ้นถึง 90-100 สตางค์ต่อหน่วย...และบวกนั่นบวกนี่แล้ว จะทำให้ค่าไฟฟ้าสูงขึ้น 5 บาทต่อหน่วย (เวลานี้ค่าไฟฟ้าก็แพงหูฉี่อยู่แล้ว) อย่างน้อยก็ยาวไปจนถึงสิ้นปี.....โดยให้เหตุผลว่า ต้นทุนค่าเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติเหลว หรือ แอลเอ็นจี นำเข้ามาทดแทน ก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทย มีแนวโน้มราคาแพงอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ในระดับ 30 กว่าดอลลาร์ต่อล้านบีทียู... จากเดิมอยู่ที่ระดับ 20 กว่าดอลลาร์ต่อล้านบีทียู...ค่าเฉลี่ยของ อัตราแลกเปลี่ยน ณ ปัจจุบันอยู่ที่ 34.40 บาทต่อดอลลาร์...การแบกรับภาระค่าเอฟทีของ กฟผ. ก็ไม่ต่างจาก กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ที่ติดลบเป็นแสนล้าน.....เวลานี้ กฟผ. ต้องขออนุมัติ กู้เงินมาเพื่อเสริมสภาพคล่องจำนวน 25,000 ล้านบาทแล้ว...คาดว่าหาก กฟผ.ต้องรับภาระค่าเอฟที ไปอย่างนี้เรื่อยๆ....จะต้องแบกรับภาระถึง 1 แสนล้านภายในสิ้นปีนี้ เช่นกัน
...
- โดยเฉพาะ ค่าเงินบาท ที่มีแนวโน้มอ่อนค่าไปถึง 36 บาทต่อดอลลาร์ นั่นหมายความว่า เราจะต้องจ่ายเงินซื้อก๊าซและน้ำมัน ในราคาที่แพงขึ้น....พูดภาษาชาวบ้าน ค่าไฟแพง น้ำมันแพง เงินบาทอ่อน รายได้หด รายจ่ายเพิ่ม ประกอบกับ เงินเฟ้อ สูงกว่า กรอบที่ธนาคารแห่งประเทศไทย กำหนดเอาไว้แล้ว......ตามที่ เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย สรุปเอาไว้ชัดเจน.....เงินเฟ้อ พุ่งขึ้นมาอย่างมีนัยสำคัญ เฉพาะเมื่อเดือน มิ.ย. เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.6 สูงกว่าที่ กรอบเงินเฟ้อของ ธปท. กำหนดไว้ ร้อยละ 1.3...ใน ภาคใต้ เงินเฟ้อสูงถึงร้อยละ 8.6 สูงกว่ากรอบของแบงก์ชาติ ร้อยละ 1.7....มีผลกระทบ ต่อครัวเรือน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ที่ เป็นคนไทยส่วนใหญ่ของประเทศ......และโดยหลักการของ ธนาคารกลางทั่วโลก ต้องหามาตรการที่จะทำให้ เงินเฟ้อไม่หลุดจากกรอบไปมาก....เพราะถ้าปล่อยไปก็จะดึงกลับยาก และมีผลกระทบกับเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ
- วิธีที่เหมาะสมคือ การขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพื่อสกัดเงินเฟ้ออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ต้องหาทางดูแลกลุ่มเปราะบางไม่ให้ได้รับผลกระทบมากไปกว่านี้.....ที่สำคัญคือเงินเฟ้อเพิ่ม ค่าครองชีพเพิ่ม จะกระทบหนักกว่า การขึ้นอัตราดอกเบี้ย และ ภาระหนี้สิน ที่เพิ่มขึ้น.....สรุปแล้วประเทศไทยกำลังตกอยู่ในที่นั่งลำบาก.....แก้ปัญหาเงินเฟ้อ ก็มีผลกระทบกับ ปากท้องของชาวบ้าน....ไม่แก้ก็มีผลกระทบกับเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ.....ที่หนักกว่านั้น ภาวะเงินเฟ้อไม่ได้เกิดจาก การใช้จ่ายอย่างไม่ระมัดระวัง....แต่เป็นเพราะปัจจัยที่ ไม่สามารถควบคุม อาทิ โรคระบาด สงครามรัสเซีย–ยูเครน.....เป็น ภาวะเงินเฟ้อ ในสภาวะที่เงินไม่มีในกระเป๋า.....ภาวะวิกฤติเศรษฐกิจที่ซึมลึกไปเรื่อยๆ ถึงเวลาไม่ตายก็เลี้ยงไม่โตของจริง
...
- มีคำตอบจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้นำประเทศ เมื่อถูกผู้สื่อข่าวถามถึง การจะขึ้นค่าไฟฟ้าเป็น 5 บาทต่อหน่วย....ให้ไปถาม โฆษกรัฐบาล เป็นคำตอบสุดท้าย....บรรทัดนี้ “อินทรีเหล็ก” แนะให้จับตา การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นรายบุคคล....โดยเฉพาะในช่วงที่ รัฐบาลอยู่ในช่วงขาลง....จะออกหัวออกก้อย....เมื่อ สวนดุสิตโพล สำรวจความเห็นชาวบ้าน....อยากให้มีการอภิปราย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มากที่สุด และ อยากให้อภิปรายเรื่องปัญหาเศรษฐกิจข้าวของแพงมากที่สุด....บวกกับที่ อีสานโพล ศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจภาคอีสาน มหาวิทยาลัยขอนแก่น เผยผลสำรวจ ความนิยมของผู้นำประเทศ....คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ุ ประธานพรรคไทยสร้างไทย นำร้อยละ 25.8 ตามด้วย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลที่ ร้อยละ 20.1 แพทองธาร ชินวัตรหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยร้อยละ 19.8 และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ร้อยละ 14.4...แนวโน้มการเลือกตั้งครั้งต่อไป จะเลือก เพื่อไทย ที่ร้อยละ 36.1 ก้าวไกล ที่ร้อยละ 19.5 พลังประชารัฐ ร้อยละ 14 ภูมิใจไทย ร้อยละ 12.5 ไทยสร้างไทย ร้อยละ 12.1 ประชาธิปัตย์ ร้อยละ 3 และ เสรีรวมไทย ร้อยละ 2.....คงไม่ต้องอภิปรายอะไรให้เมื่อยตุ้ม.....ขาลงไม่มีปลอม
- ไหนๆก็ไหนๆ กรณีที่ พรรคเพื่อไทย รีบประกาศ รายชื่อผู้สมัคร ส.ส.กทม.ของพรรค ที่มี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคแถลง เปิดตัว ผู้สมัครจำนวน 21 เขตจาก 33 เขต นอกจากตั้งใจจะตีเหล็กกำลังร้อนแล้ว ...เหตุผลลึกๆคือต้องการ บีบให้ ส.ส. ที่กำลังจะตัดสินใจออกจากพรรค ได้แสดงท่าทีที่ชัดเจนออกมา..... โดยเฉพาะ การุณ โหสกุล ส.ส.เขตดอนเมืองและ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.เขตสายไหม....แกนนำคนสำคัญที่เตรียมไปเปิดตัวในนาม พรรคไทยสร้างไทย ที่มี คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เป็นประธานพรรค.....หลังจากสร้างผลงานในการเลือกตั้ง ส.ก.ให้กับไทยสร้างไทย มาแล้ว........ยุบสภาเมื่อไหร่ ชัดเจนเมื่อนั้น จบข่าว
...
...
- เปิดเซฟประธาน กสทช. นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์...รวยที่ 137 ล้าน โดยเฉพาะบ้านที่สหรัฐฯ มูลค่า 12 ล้าน บ้านลาดพร้าว 38 ล้าน นาฬิกา ทองคำ มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท....ส่วน พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง อดีตผู้ว่าฯ กทม. มีทรัพย์สินที่ 11.5 ล้านไม่มีหนี้สิน.....ที่ดินมูลค่า 5 ล้าน ทองคำ 10 บาท รถยนต์ 1 คัน.....ที่น่าสนใจที่ผ่านมา พล.ต.อ.อัศวิน มีรายได้เดือนละกว่า 2 ล้านบาท...เงินเดือน 8.6 แสน เงินบำนาญ 6.4 แสน เงินเพิ่มข้าราชการการเมือง อีก 4.9 แสน....ไม่บอกก็ไม่รู้....ห้องอาหารเปรมประชากร โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น ชวนชิมอาหารบุฟเฟต์นานาชาติมื้อกลางวัน 450 บาท มื้อค่ำ 550 บาท สอบถามได้ที่ 0-2575-5599
- ศพ สุรชัย จันทราภรณ์ บิดา ต้องหทัย เพชรชาติ อยู่วัดชลประทานรังสฤษดิ์ ฌาปนกิจวันที่ 15 ก.ค. เวลา 16.30 น.
“อินทรีเหล็ก”