@อรดา เกิดหงษ์ จากเซ็นทรัลเวิลด์ ร่วมลงนามความร่วมมือในโครงการอากาศสะอาดเขตปทุมวัน โดยมี มาศวัลย์ ปิ่นสุวรรณ, ชาตรี วัฒนเขจร, ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม และรศ.ดร.เสถียร ธัญญศรีรัตน์ มาร่วมลงนามด้วย ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร วันก่อน.@
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ.....ยอดจำหน่ายมากที่สุดของประเทศ......ฉบับประจำวันจันทร์ที่ 24 มกราคม 2565
ยุคการเมืองเหลิงอำนาจ .....ต่อรองชิงอำนาจ รักษาอำนาจ ขาดวิสัยทัศน์ ขาดเสถียรภาพทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย .....การดันทุรังรักษาอำนาจ เพราะ แยกไม่ออกระหว่างส่วนตัวกับส่วนรวม.....ประเทศ ประชาชนตาดำๆ ต้องรับกรรมไปตามระเบียบ......เพราะฉะนั้น บริบทที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ยอมให้ถูกขับออกจาก พลังประชารัฐ ไปซบพรรคใหม่ เศรษฐกิจไทย.....จึงเป็นแค่การฉายหนังตัวอย่าง ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น......ถ้าเงื่อนปมการเมือง จะเกิดจากความขัดแย้งส่วนตัว....ต้องการเอา ร.อ.ธรรมนัสออกจากเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ให้ได้.......เพราะแค้นว่า คิดจะโค่นอำนาจ ก็เท่ากับการฆ่าตัวตายทางการเมือง......นับถอยหลังอายุ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เลย......รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ จนถึงรัฐบาล เสียงข้างน้อย ก็ไม่ต่างจากรัฐบาล เป็ดง่อย......เพราะฉะนั้น การที่จะแก้เกมโดยการให้ สมศักดิ์ พันธ์เกษม ส.ส.โคราชเขต 1....1 ใน 21 ส.ส.ที่ถูกขับออกจากพรรค ออกมาทำหนังสือร้องเรียนถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ....ให้ทบทวนมติพรรค....อ้างว่าตัวเองไม่เกี่ยวข้องกับการปรับโครงสร้างพรรค....และอ้างว่ามติขับออกจากพรรค ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ เพราะมีคะแนนไม่ถึง 3 ใน 4 ของจำนวนผู้ร่วมประชุม.......เป็นแค่การเอาสีข้างเข้าถู......เมื่อสมศักดิ์ ก็นั่งอยู่ในที่ประชุมพรรค และมี กกต. ชี้แจง ข้อกฎหมายละเอียดยิบ....ทำไมไม่ลุกขึ้นคัดค้าน....ยกมือเห็นด้วยเป็นเรื่องเป็นราว...พยานในที่ประชุม พิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ......ยืนยัน หัวหน้าพรรค ก็ได้มีการอ่านรายชื่อ คนที่จะถูกขับออกจากพรรค....ไม่เห็นมีใครทักท้วง.....มติพรรคเป็นไปตามที่ ไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค ได้ออกมาแถลงในนามของพรรคอย่างครบถ้วน...และ มีผลทางกฎหมาย เปิดเผยชัดเจน......งานนี้ “อินทรีเหล็ก” มองว่า หมากเกม หักเหลี่ยมเฉือนคม จะทำให้ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อายุสั้นกว่าที่คิด
...
และถ้างานนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ประกาศปรับ ครม. .....โดยมี พรรคเศรษฐกิจไทย ที่มี 21 ส.ส.ข้าง ร.อ.ธรรมนัส เข้าสังกัด เป็นพรรคร่วมรัฐบาล ด้วย......ไม่ใช่แค่ เสียงรัฐบาล จะลดไปแค่ 21 เสียงเท่านั้น.....แต่ เสียงรัฐบาลจะลดลงมาอีกไม่ต่ำกว่า 10 เสียง .....แปลว่า รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะกลายเป็นรัฐบาล เสียงข้างน้อยทันที ใช่ไม่ใช่
...
เพราะฉะนั้น การที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ผู้นำฝ่ายค้านในสภา ยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป แบบไม่ลงมติ ตามมาตรา 152....ประเด็น ของแพง ค่าแรงถูก ทั้งแผ่นดิน......โรคระบาดโควิด-19 และอหิวาต์แอฟริกาในสุกร....วิกฤติทางด้านการเมือง.....ความล้มเหลวการบริหารราชการแผ่นดิน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทุจริต ยาเสพติด ภาวะฝุ่นละอองพิษ PM 2.5......เป็นแค่การเผาหลอก.....การยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ในการเปิดประชุมสภาสมัยแรกของปีนี้ ในเดือน พ.ค. ......จะเป็นการเผาจริง เชื่อไม่เชื่อ
...
ดังนั้นการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไปจับเข่าคุยกับพี่ใหญ่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในบ้านป่ารอยต่อ.....พร้อมกับออกมาเปิดเพลง อย่ายอมแพ้ ในที่ประชุม คณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19...ที่จะแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน พร้อมประกาศในที่ประชุมว่า “ผมไม่ยอมแพ้อยู่แล้ว”.....จะสื่อความหมายถึงใคร อย่างไร ก็แล้วแต่.....จะสมควรที่จะเอามาระบายในที่ประชุมส่วนราชการนโยบายระดับประเทศหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่อง.....ก็ไม่มีประโยชน์ใดๆ มันจบแล้วครับนาย....เชื่อขนมได้ว่า การเมืองจะไม่ใช่เรื่องดราม่าอีกต่อไป
...
ก็ต้องโฟกัสไปที่ กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และพรรคการเมือง....ที่รองนายกฯ วิษณุ เครืองาม แจงว่าจะเสนอ เข้าที่ประชุม ครม. ในวันนี้.....ก่อนที่จะเสนอเข้าที่ ประชุมร่วมของสภา......และรับประกันซ่อมฟรีว่า กฎหมายลูก จะเรียบร้อย ภายในเดือน ก.ค. นี้แน่นอน .....ไทม์ไลน์ระหว่าง กฎหมายลูก กับ เสถียรภาพของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จะสมดุลกันหรือไม่......ห้ามกะพริบตา
ไหนๆก็ไหนๆ การเปิดตัวพรรคใหม่ ของ อุตตม สาวนายน กับ สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ภายใต้ชื่อ สร้างอนาคตไทย.....จะตอบโจทย์ชาวบ้านแค่ไหน เป็นอีกเรื่อง .....แต่การออกมา ปฏิเสธ ไม่เสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ.....เป็นการตีความสองแง่สองง่าม.....ไม่เสนอในนามของพรรค เพราะเตรียมเสนอชื่อ ส. เป็นแคนดิเดต นายกฯอยู่แล้ว.....แต่ไม่ปฏิเสธถ้าพรรคอื่นจะเสนอ.....หรือ ปฏิเสธที่จะร่วมรัฐบาล กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา การเมือง เหล้าเก่าในขวดใหม่ อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น
อ้า มาตรการผ่อนคลายการป้องกันโควิด-19....ที่เผยแพร่ในราชกิจจานุเบกษา ...ให้ พื้นที่สีเหลือง-สีฟ้า สามารถดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้จนถึงเวลา 5 ทุ่ม....จะมีผลบังคับใช้ในวันนี้...ยกเว้นสถานบันเทิง ผับ บาร์ ยังห้ามเปิด .....นอกจากจะปรับรูปแบบเป็นร้านอาหาร.....ขณะเดียวกัน มาตรการเดินทางเข้าประเทศ ที่ ธานี แสงรัตน์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจง....การปรับมาตรการเดินทางเข้าประเทศ กลับมาเป็น Test&Go จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ก.พ.นี้ ตั้งแต่เวลา 09.00 น.เป็นต้นไป.......อย่างไรก็ตาม สถานการณ์โควิด-19 ในไทย ตามที่ นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ยืนยันพบเชื้อโควิด สายพันธุ์ โอมิครอน ครบทุกจังหวัดของประเทศไทย...เป็นจำนวนกว่า 1 หมื่นรายแล้ว....โดยเฉพาะ ที่เดินทางเข้ามาจากต่างประเทศ ถึงร้อยละ 96.9.......และสายพันธุ์ โอมิครอน จะระบาดในไทยถึงร้อยละ 97-98.....จบข่าว
รศ.ดร.ชลัท ศานติ วรางคณา ผอ.สถาบันโภชนาการ ม.มหิดล และ ดร.บุรณิน รัตนสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่นวัตกรรมและธุรกิจใหม่ ปตท.ลงนามร่วมมือพัฒนาหลักสูตรและกรรมวิธีผลิตอาหารปั่นผสม UHT สำหรับผู้สูงอายุและผู้ป่วย ต่อยอดผู้นำทางด้านอาหารเพื่อสุขภาพแบบครบวงจร
“อินทรีเหล็ก”