คาถาบูชาหลวงปู่ทวด เป็นคาถาบูชาที่มีความหมายเป็นมงคล เชื่อว่าสวดแล้วจะแคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง ส่วนคนที่ทำมาค้าขายก็นิยมสวดบูชาเป็นประจำ เชื่อว่าจะช่วยขจัดอุปสรรค ธุรกิจราบรื่น ได้กำไรปลดหนี้ปลดสินสำเร็จ ไทยรัฐออนไลน์นำคาถาบูชาหลวงปู่ทวด และคำแปลมาฝากกัน พร้อมพุทธคุณของการสวดคาถาบทนี้ที่เชื่อกันว่าศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก
ทำความรู้จัก "หลวงปู่ทวด" เกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งปักษ์ใต้
หลวงปู่ทวด คือ พระเกจิอาจารย์จากปักษ์ใต้ที่มีตัวตนจริงๆ ในประวัติศาสตร์ และได้รับพระราชทานสมณศักดิ์จากสมเด็จพระเอกาทศรถในยุคกรุงศรีอยุธยาว่า "สมเด็จพระราชมุนีสามีรามคุณูปมาจารย์"
คนไทยอาจจะเรียกแตกต่างกันออกไป เช่น "หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด" และ "หลวงปู่ทวดวัดช้างให้" คนไทยจำนวนมากให้ความเคารพศรัทธา เชื่อว่าหลวงปู่ทวดเป็นพระอริยสงฆ์ผู้ทรงอภิญญาที่น่าเลื่อมใส
ประวัติของหลวงปู่ทวด เชื่อว่าท่านเกิดในราวปี พ.ศ. 2125 ณ อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา มีชื่อเดิมว่า "ปู" โดยเป็นบุตรของนายหูและนางจันทร์ มีเรื่องเล่าว่าสมัยท่านยังเป็นทารก พ่อแม่กำลังเกี่ยวข้าวอยู่ในนา จึงผูกเปลลูกไว้กับต้นเม่า ปรากฏว่ามีงูจงอางตัวใหญ่เลื้อยมาพันรอบเปล พ่อแม่เห็นก็ตกใจมาก ได้แต่อธิษฐานขอให้งูไม่ทำร้ายลูก หลังจากนั้นงูคลายรัดเปลและได้คายเมือกทิ้งไว้บนตัวทารก พบว่าภายในเมือกนั้นคือลูกแก้วกลมใส (ปัจจุบันลูกแก้วอยู่ที่วัดพะโคะ จังหวัดสงขลา)
เมื่อท่านอายุราว 7 ขวบ ก็ได้เริ่มไปบวชเป็นสามเณร เมื่อโตขึ้นอีกก็เดินทางไปเรียนนักธรรมที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ก่อนจะเดินทางไปยังกรุงศรีอยุธยา โดยระหว่างการเดินทางนี้เอง มีเรื่องเล่าถึงอภินิหารของหลวงปู่ทวด เมื่อท่านโดยสารเรือสำเภาลำหนึ่ง แต่เกิดลมมรสุม ทำให้เรือสำเภาต้องแวะจอดพักที่เกาะแห่งหนึ่ง จนกระทั่งน้ำดื่มหมด ลูกเรือบางคนก็โทษพระภิกษุรูปนี้ว่าอาจเป็นต้นเหตุของเคราะห์ร้าย จึงคิดจะปล่อยทิ้งไว้
...
หลวงปู่ทวดได้จุ่มเท้าซ้ายลงในน้ำทะเล ปรากฏว่าน้ำบริเวณนั้นกลายเป็นน้ำจืดที่สามารถดื่มได้ ทุกคนจึงดื่มน้ำนั้นเพื่อประทังชีวิต เจ้าของเรือและลูกเรือจึงขอขมาโทษท่าน และนิมนต์เดินทางต่อไปยังกรุงศรีอยุธยา จึงเป็นที่มาของการ "หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด" นั่นเอง
"หลวงปู่ทวด วัดพะโคะ" และ "หลวงปู่ทวด วัดช้างให้" องค์เดียวกันไหม?
หลวงปู่ทวด ได้มาจำพรรษาที่วัดพะโคะ อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นบ้านเกิดของท่าน ชาวบ้านในพื้นที่บ้างก็เรียกท่านว่า "สมเด็จพะโคะ" หลังจากนั้นหลวงปู่ทวดได้ไปจำพรรษาและเป็นเจ้าอาวาสที่วัดช้างให้ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี
จึงสรุปได้ว่าทั้ง "หลวงปู่ทวด วัดช้างให้" และ "หลวงปู่ทวด วัดพะโคะ" เป็นองค์เดียวกัน เพียงแต่เรียกชื่อแตกต่างกันตามพื้นที่ที่ท่านอาศัยอยู่นั่นเอง
ปัจจุบันมีการสร้างรูปจำลองหลวงปู่ทวดเพื่อสักการะบูชาตามความเลื่อมใสศรัทธาในหลายจังหวัดของประเทศไทย สำหรับรูปปั้นที่องค์ใหญ่ที่สุดในโลก เรียกว่า "หลวงปู่ทวดวัดห้วยมงคล" ประดิษฐานกลางแจ้งที่วัดห้วยมงคล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีความสูง 11.5 เมตร หน้าตักกว้าง 9.9 เมตร
คาถาบูชาหลวงปู่ทวด วัดพะโคะ-วัดช้างให้ แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตราย
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุท ธัสสะ (3 จบ)
นะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา
นะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา
นะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา
คำแปลคาถาบูชาหลวงปู่ทวด วัดพะโคะ-วัดช้างให้
"ข้าพเจ้าขอนอบน้อมแด่เจ้าประคุณสมเด็จหลวงปู่ทวด ผู้เป็นพระโพธิสัตว์ เป็นผู้มีโชคซึ่งเข้ามาสถิตอยู่ในตัวของข้าพเจ้านี้"
อานิสงส์ของการสวดคาถาบูชาหลวงปู่ทวด มีพุทธคุณอย่างไร?
คาถาบูชาหลวงปู่ทวดเชื่อว่ามีพุทธคุณครอบจักรวาล มีความเป็นสิริมงคลและศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก โดยเฉพาะการป้องกันอันตรายจากสิ่งชั่วร้าย ชาวปักษ์ใต้จะนิยมนำองค์หลวงปู่ทวดองค์เล็กๆ ติดเข็มกลัดไว้กับเสื้อของทารกเพื่อป้องกันสิ่งอัปมงคล
ขณะเดียวกันเมื่อจะต้องเดินทางไปที่ใด ก็จะนิยมสวดคาถาบูชาหลวงปู่ทวด บ้างก็พกวัตถุมงคลรูปเหมือนหลวงปู่ทวดติดตัวไว้ เชื่อว่าจะป้องกันอุบัติเหตุ แคล้วคลาดปลอดภัย ส่วนผู้ที่ค้าขายหรือทำธุรกิจก็บูชาไว้เพื่อเสริมมงคล เชื่อว่าจะค้าขายดี ธุรกิจราบรื่น เป็นขวัญกำลังใจในการปลดหนี้สร้างทรัพย์
...
นอกจากนี้ ทางภาคใต้ยังมีความเชื่อ "ไอ้ไข่" กุมารเทพแห่งวัดเจดีย์ อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช ว่าเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่ทวดที่เดินทางติดตามท่านไปยังกรุงศรีอยุธยา แต่เสียชีวิตระหว่างทางในบริเวณวัดเจดีย์ ดวงวิญญาณจึงเฝ้าดูแลวัดแห่งนี้ ตามที่ได้รับปากกับหลวงปู่ทวดไว้นั่นเอง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม