ปีนี้เป็นมะโรง ธาตุไม้ พลังหยาง เป็นไท้ส่วยเอี๊ยองค์ลำดับที่ 41 ขอเรียกง่ายๆว่า “มะโรงไม้ใหญ่” มีหลายความรู้ที่อยากบอกเล่าและอยากบอกวิธีแก้อาถรรพณ์ที่มากับน้ำและโคลนให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วมนะคะ นี่คือคำบอกเล่าจาก “นักสะสมความรู้เรื่องจีน” จิตรา ก่อนันทเกียรติ
ความรู้เรื่องไท้ส่วยเอี๊ยพยากรณ์มีสองชุดมีการแต่งตั้งเจ้ามาประจำต่างกัน ชุดที่มีภาพให้ชมเป็นชุดที่ศาลเจ้าส่วนใหญ่ที่ตั้งครบ 60 องค์ชอบตั้งกัน จึงอยากให้ดูรูปไท้ส่วยเอี๊ยว่า...มือที่ถือดาบกระบี่คือความดุที่คนรวยแต่คดโกงถูกจับติดคุกให้เห็นชัดเจน อีกมือถือผ้าน่าจะชัดเจนเช่นกันว่าเหนื่อยเช็ดเหงื่อที่หมวกขุนนางผูกผ้าแดงคือสัญลักษณ์การเดินทาง ไม่ได้อยู่ราชสำนักหรือออฟฟิศ สบายๆ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ปีนี้น้ำท่วมใหญ่
...ต้องระดมกันออกไปช่วยชาวบ้านที่ต่างจังหวัดอย่างอาบเหงื่อต่างน้ำ
ความรู้ที่ 2 จากซินแสฮ่องกงเคยสอนว่าทุกครั้งที่เป็นปีมะโรงซึ่งชงปีจอ จะเกิดเป็นคลังไฟใหญ่ขึ้นมา หมายถึงการจะมีไฟไหม้ที่ผิดปกติ จิตราก็อ๋อเลยว่า มิน่า...ปี 2555 เป็นปีมะโรง แล้วเกิดกรณีระเบิดพลุงานตรุษจีนที่สุพรรณที่มีคนตายมากมาย ปีนี้ก็มีกรณีเครื่องบินที่ญี่ปุ่นชนกันแล้วเกิดไฟไหม้
...
ซึ่งแม้จะเกิดก่อนตรุษจีน แต่จากประสบการณ์ตรงคือตั้งแต่มีภาวะโลกร้อนก็เหมือนมีการชงเร็วขึ้น ในไทยที่เจอคือไฟไหม้ใหญ่เยาวราชกับมีย่อยๆอีก 1–2 ครั้ง ไฟไหม้โรงงานที่ระยอง และล่าสุดกรณีรถบัสนักเรียน 23 ศพกับไฟไหม้โรงพยาบาลที่ไต้หวัน 8 ศพ...เมื่อไม่กี่วันก่อน
ความรู้ที่ 3 คือนักษัตรหมวดที่เป็นแนวเดียวกับมะโรงชงจอจะมีอีก 2 นักษัตรคือ ฉลูกับมะแม ทั้ง 4 นักษัตรคือ ฉลู-มะโรง-มะแม-จอ จะเป็นนักษัตรธาตุดิน เป็นดินที่แข็งเหมือนหิน 2 ก้อนกระทบกันแล้วเกิดเป็นไฟ
เมื่อมองย้อนหลังในปีที่เกิดเคส 14 ตุลาฯ 2516 ปีนั้นเป็นปีฉลู... เคส 6 ตุลาฯ 2519 เป็นปีมะโรง...รัฐประหารปี 2549 เป็นปีจอ ส่วนรัฐประหารปี 2553 เป็นปีมะเมีย ซึ่งนักษัตรมะเมียเป็นธาตุไฟ แต่ทั้งนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าทางการเมืองในปีนี้จะต้องไปถึงจุดน่ากลัว เพราะนักษัตรยังมีอีกตำราที่เป็นชุด 12 ขุนนางสวรรค์ที่ประจำข้างองค์เง็กเซียนฮ่องเต้
ณ ตรงนี้เทพนักษัตรมะโรงจะมีเนื้องานเป็นเทพ “ลักฮะ” เทพแห่งความสามัคคีปรองดอง
ก็ต้องดูกันว่า พลังของนักษัตรแบบใดจะฤทธิ์แรงกว่ากัน อีกทั้งนักการเมืองก็มีไม่น้อยที่สายมู ระดับนี้แล้วคงมีการไปมูที่ดีๆเริ่ดๆแพงๆที่คนทั่วไปอย่างเราไม่รู้จัก
ความรู้ที่ 4 คือ นักษัตรจะไม่ได้ประจำแค่ปี แต่ประจำที่ทั้งปี...เดือน...วันและเวลา ขณะนี้เราอยู่เดือนตุลาเป็นเดือน 9 จีนเป็นเดือนจอ ซึ่งจะมีเคสที่เฮลิคอปเตอร์ตก 27 ต.ค.2561 เวลา 2 ทุ่มกว่าๆนี่คือ...เวลาจอ
ทั้งหมดคือปี 2561 เป็นปีจอ เดือน ต.ค.เป็นเดือนจอ วันที่ 13 ต.ค.เป็นวันมะโรงชงจอ เวลา 19.00–21.00 น. เป็นเวลาจอ เหมือนประตู 4 บานเปิดตรงกันแล้วเกิดอุบัติเหตุ
ซึ่งซินแสฮ่องกงเช่นกันที่ให้ความรู้ว่า ใครที่มีวันเดือนปีเวลาเกิดเป็นนักษัตรในหมวดฉลู-มะโรง-มะแม-จอ คือมี 2-3 ตัวในปีที่เป็นปีชงก็อาจมีอันตราย ให้ไหว้เยอะๆ ที่ผ่านมาจิตราก็แค่ฟังๆ ไม่คิดว่าจะจริงเมื่อลองกดกูเกิลดูน้องคนหนึ่งที่เพิ่งบังเอิญได้รู้จักในปี 2566 พบว่า น้องเกิดอุบัติเหตุขับรถชนรถบรรทุก 6 ล้อ
...
เมื่อมาไล่ดูก็ประมาณว่าน้องเกิดปีฉลู–เดือนมะแม, วันจอ กรณีเฮลิคอปเตอร์ตกก็ใช่เช่นกันคือ แม้จะมี 2 วันเกิด แต่มีวันเกิดหนึ่งคือ 5 มิ.ย.2501 ปี 2501 คือปีจอ ถ้าวันเกิดคือ 5 มิ.ย.จะเป็นวันฉลู
หมวดฉลู-มะโรง-มะแม-จอนี้ หากใครมีทั้งสี่ตัวครบในวันเดือนปีเกิด โหราศาสตร์เรียกว่ามี “4ไช้โข่ว” แปลง่ายๆคือ 4 ขุมทรัพย์...โชคทำให้ในปีนี้ที่เป็นปีมะโรง ขณะนี้เป็นเดือนจอ จึงมีบางคนคิดว่าถ้าไหว้ในวันที่ 16 ต.ค.ซึ่งเป็นวันฉลู ในเวลามะแมเวลา 13.00-14.59 น.น่าจะเป็นฤกษ์ยามที่จะได้เปิดขุมทรัพย์รับโชค
...ก็ปรากฏว่าเคยมีคนทำมาก่อนแล้วกลายเป็นเรือหายเพราะไฟไหม้ออฟฟิศ บางสำนักจึงให้ความรู้ว่าฤกษ์แบบนี้คนดวงไม่ดีทำแล้วอาจยิ่งแย่ ก็เป็นธรรมดาที่โหราศาสตร์ทั้งไทยและจีนมีหลายสำนัก ทุกสำนักล้วนมีองค์ความรู้ที่เหมือนกันบ้างต่างกันบ้างและแต่ละคนอาจรู้ลึกรู้ตื้นต่างกัน
ซึ่ง “มะโรง” นั้นแม้จะเป็นธาตุดินแต่เป็นดินในกลุ่มน้ำ ในบางดวงของบางคนอาจกลายเป็นธาตุน้ำ และมะโรงเองเป็นสัตว์เทพที่มาพร้อมน้ำมากมายเสมอ ปีนี้น้ำจึงท่วมได้น่ากลัวมาก
...
สุดท้ายนี้ เพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อประเทศและสังคม ซินแสฮ่องกงได้สอนไว้ตั้งแต่ปี 2554 ที่น้ำท่วมกรุงเทพฯ ซินแสบอกว่าน้ำที่ท่วมขึ้นมาจากด้านล่างคือการดันเอาสิ่งไม่ดีพวกซากศพที่มีทั้งคน...สัตว์อยู่ใต้ดินขึ้นมากับน้ำ แต่ละบ้านที่ถูกน้ำท่วมเมื่อทำความสะอาดบ้านแล้ว ก็ยังควรต้องล้างสิ่งไม่ดีออก
ด้วยการใช้กระดาษทองที่เรียกว่า “ตั่วกิม” มาจุดไฟแล้วปาดเพื่อเอาควันรมสิ่งไม่ดีให้สลายไป ซึ่งจากประสบการณ์คิดว่าคนไทยส่วนใหญ่น่าจะทำกันไม่เป็น เผลอๆกลายเป็นทำไฟไหม้บ้านขึ้นมาก็ยิ่งไปกันใหญ่ เคสนี้จิตราอาจต้องทำคลิปสอนหรือออกรายการทีวีเพื่อสอน โดยอยากใช้กระดาษตั่วกิมที่ศาลเจ้าทางใต้ที่เป็นจีนฮกเกี้ยนนิยมใช้มีแบบแผ่นใหญ่ อยากเลือกแบบตามภาพที่ลงให้ดูและเวลาจะทำการปัด ควรมีถังติดตัว เวลาไฟใกล้ลามถึงมือจะได้ทิ้งลงถังป้องกันลมที่จะทำให้ไฟลาม กันการเลยเถิดของไฟไปไหม้สิ่งอื่นในบ้าน
แต่...ทางเหนือก็มีน้ำส้มป่อยที่น่าจะใช้ล้างสิ่งไม่ดีออกได้ คิดว่าน่าจะใช้ได้ทั้งสองแบบ
...
จิตรา ก่อนันทเกียรติ บอกว่า เหล่านี้เป็นความรู้ที่คนเรียนโหราศาสตร์จีนจะรู้กันทั้งนั้น เธอแค่จับประเด็นที่เกี่ยวข้องกับบ้านเมืองมาจัดระเบียบให้เข้าใจง่าย และขอทิ้งท้ายว่า คนจีนที่มาตั้งรกรากในไทยอย่างคุณพ่อจะถือเรื่องกตัญญูที่ละเอียด ไม่ใช่แค่กตัญญูกับพ่อแม่ กับครู โรงเรียน แต่ต้องกตัญญูต่อแผ่นดินไทยและพระมหากษัตริย์ กตัญญูต่อผู้มีพระคุณทั้งในชีวิตและงาน ซึ่งคนรุ่นใหม่อาจไม่มีใครบอก
“จึงขอถือโอกาสนี้ชี้แนะ เหมือนอย่างที่มาบอกเรื่องการต้องล้างสิ่งสกปรกก็เพื่อเป็นกตเวทิตาต่อแผ่นดิน ไม่จำเป็นต้องเชื่อ แต่ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรงก็อยากให้ทำ เพราะสิ่งไม่ดีที่มากับโคลนที่เหม็นมากนี้ อาจทำให้เกิดเรื่องไม่ดีที่ใหญ่ร้ายในวันข้างหน้าได้ คนเราไม่มีเรื่องดีกว่ามีเรื่องค่ะ”.
คลิกอ่านคอลัมน์ “สกู๊ปหน้า 1” เพิ่มเติม