เห็นในจอก็แทบไม่เชื่อว่านี่คนอายุ 60 แล้วจริงหรือ! พอมาเจอตัวจริง...ยิ่งต้องยกนิ้วให้ความเป็นหนุ่มตลอดกาลของพระเอกตลอดกาล “หลี่เหลียงเหว่ย” ผู้รับบท “ติงลี่” เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ ตราตรึงใจชาวไทยและชาวเอเชียนานกว่า 30 ปี คราวนี้เป็นพรีเซ็นเตอร์ “แบรนด์รังนก” คู่กับ “ญาญ่า-อุรัสยา สเปอร์บันด์” เป็นปีที่ 2 ยิ่งดูหนุ่มขึ้นไปอีก!! เลยได้โอกาสพูดคุย เคล็ดลับเด็ดทั้งภายนอกและภายใน รวมทั้งความผูกพันกับคนไทยที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้!!

“รู้สึกดีใจมากครับที่ได้กลับมาเป็นพรีเซ็นเตอร์แบรนด์อีกครั้งเป็นปีที่ 2 ผมได้ยินว่าการตอบรับจากโฆษณาปีแรกดีมาก เลยรู้สึกภูมิใจที่ได้ร่วมงานกับทีมงานเดิมและได้ร่วมงานกับญาญ่าอีกครั้ง ทำงานง่ายขึ้นครับ ญาญ่าน่ารักเหมือนเดิม การแสดงต่างๆแบบมืออาชีพมาก”

รู้สึกยังไงที่ใครๆก็บอกว่า ยิ่งคุณอายุมากขึ้น ก็ยิ่งดูหนุ่มขึ้นเรื่อยๆ? “(หัวเราะ) รู้สึกดีใจครับที่ทุกคนชม เคล็ดลับที่ดูหนุ่มขึ้นทุกครั้งที่เจอ ก็คงเพราะผมออกกำลังกายบ่อย ไม่ว่าจะว่ายน้ำ ขี่ม้า ไอซ์สเกต อย่างเรื่องการควบคุมอาหาร ผมชอบทานผัก ผลไม้ และไม่ค่อยทานเนื้อสัตว์เท่าไหร่ และก็ต้องดูแลแบบต่อเนื่องไม่ใช่แค่วันสองวัน”

พอทุกคนมอบคำว่า “ยังหนุ่ม” ให้ตลอดทำให้ยิ่งกดดันว่าต้องดูแลตัวเองมากขึ้นมั้ย? “ไม่ได้รู้สึกกดดัน อย่างเรื่องการออกกำลังกาย ก็เป็นเรื่องที่ผมชอบอยู่แล้ว อายุไม่ใช่ปัญหา อยู่ที่ใจเราอายุเท่าไหร่มากกว่า มันขึ้นอยู่กับว่าเรามีแนวคิดยังไง คิดแบบวัยรุ่นมั้ย ผมชอบเล่นกีฬาใหม่ๆท้าทายตัวเอง เราต้องคิดอะไรแบบเป็นวัยรุ่นเสมอ เราก็ดูอายุน้อยลงเสมอ”

...

มาเมืองไทยแต่ละครั้งมีอะไรที่ต้องทำเป็นพิเศษบ้างมั้ย? “ผมมาเมืองไทย 3-4 ครั้ง ที่ต้องทำทุกครั้งคือไปไหว้พระพรหม ไปกินอาหารไทยอร่อยๆ ไปว่ายน้ำ อาบแดด”

คุณผูกพันกับคนไทยมายาวนานมาก ประทับใจอะไรเมืองไทยและคนไทย เป็นพิเศษ? “ผมชอบคนไทย เพราะคนไทยส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ ผมเองก็นับถือศาสนาพุทธเหมือนกัน เวลาเจอคนไทยก็เหมือนเจอญาติพี่น้อง รู้สึกได้ถึงความเป็นกันเอง คนไทยมารยาทดี ใจดี”

เคยได้เห็นคลิปที่คุณมาร่วมงานฉลองสิริราชสมบัติ 50 ปีของในหลวง รัชกาลที่ 9 เมื่อ 20 ปีก่อน ทำให้คนไทยประทับใจมากที่ได้เห็นคุณพูดภาษาไทยว่ารักในหลวงมาก? “ผมยังจำได้ครับ ความรู้สึกตอนนั้นผมก็รักในหลวงของคนไทยจริงๆ และรู้สึกผูกพัน เพราะพระองค์ท่านดูแลราษฎรอย่างดีมาก ผมก็รับรู้และรู้สึกได้จากคนไทยที่รักในหลวง ทุกวันนี้ผมเองก็ยังระลึกถึงพระองค์ท่านเสมอ”

ปีที่แล้วเคยบอกว่ากำลังเริ่มเขียนบทเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ และอยากชวนญาญ่าไปร่วมด้วย คืบหน้าไปถึงไหนแล้ว? “ผมมองว่าปัจจุบันผู้ชมในเมืองจีนจะชอบเรื่องราวใหม่ๆมากกว่า ตอนนี้เลยพยายามใส่อะไรใหม่ๆ ตอนนี้ต้องเริ่มเขียนบทใหม่ทั้งหมด แต่คิดว่าถ้าผมมีแพลนถ่ายทำเมื่อไหร่ ญาญ่า ก็จะเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่อยากเชิญไปร่วมแสดงด้วยครับ”

ยังมีงานอะไรอีกมั้ยที่อยากทำ? “งานท้าทายนึงที่ผมเพิ่งรับไปเมื่อ 6-7 เดือนที่แล้ว คือการเล่นละครเวทีมิวสิคัลเรื่อง ฟงหวิน ซึ่งผมไม่เคยร้องเพลงแสดงสด และไม่เคยเรียนรู้มาก่อน เลยต้องมาฝึกใหม่ทุกอย่าง เป็นการท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของผมในปีนี้เลย เพิ่งแสดงจบไป คนทั่วไปมักจะรู้จักผมในฐานะนักแสดง แต่ไม่ค่อยมีใครรู้ว่าผมก็ร้องเพลงได้ด้วย ผมต้องฝึกร้องเพลงและแอ็กติ้งเพื่อละครเวที เดือนหน้าผมมีงานจัดแกลเลอรี่แสดงภาพวาดที่ผมวาดเอง และที่ฮ่องกงมีภาพถ่ายของผมได้รับการประมูลไปด้วยราคา 1 ล้านเหรียญ โดยนำเงินบริจาคการกุศลที่ฮ่องกง โดยปีนี้มีแพลนจัดแกลเลอรี่ 4 ที่ ทั้งที่ เวนิส ปักกิ่ง อาบูดาบี และฮ่องกง”

อยากให้ฝากอะไรถึงคนที่ทำอาชีพเดิมมายาวนานอาจจะมีความเหนื่อยหรือท้อ แต่คุณยังท้าทายกับงานใหม่ๆ เสมอ? “อย่างแรกเลยเราต้องเปลี่ยนค่านิยมความคิดตัวเอง ต้องคิดให้เหมือนคนหนุ่มสาว ไม่ใช่คิดว่าเราต้องทำแต่เรื่องเดิมๆ จากนั้นก็คือต้อง รักอาชีพที่ตัวเองทำ รักครอบครัวของเรา รักโลกนี้ พอเราปรับวิธีคิด เราจะพบว่าเรามีอะไรใหม่ๆทำ และท้าทายเราเสมอแม้ในอาชีพ เดิม ที่สำคัญคือ เราต้องดูแลสุขภาพของเราให้แข็งแรงก่อน พอเราแข็งแรงเราถึงจะมีแรงมีกำลังไปทำสิ่งที่เราอยากทำต่อไปและอยู่กับความสุขที่จะได้รับ มหาวิทยาลัยต่างๆทั้งที่มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด เคยเชิญไปพูดเรื่องการแบ่งปันกับวัยหนุ่มสาวว่าทำยังไงถึงจะแข็งแรงสุขภาพดี ดูวัยรุ่นขึ้นทุกวัน เพราะสำหรับผมสุขภาพเป็นเรื่องสำคัญอันดับหนึ่ง บางคนคิดว่าต้องทำงานให้ ก้าวหน้า หรือมีความ รัก ความสุขสมบูรณ์ แต่ลืมดูแลตัวเอง”

สุดท้ายอยากบอก อะไรแฟนชาวไทยหลากหลาย รุ่นที่รักคุณตั้งแต่สมัยก่อน จนมาถึงปัจจุบัน? “อยากขอบคุณ แฟนๆ ที่ชื่นชอบและสนับสนุนผมมาโดยตลอด ผมอยากให้ทุกคนมีสุขภาพดีและแข็งแรงครับ”.