เป็นคอนเสิร์ตที่หลายคนรอคอยมานานแสนนานเลยทีเดียว สำหรับคอนเสิร์ตใหญ่ของ Bodyslam ในคอนเสิร์ต "EveryBodyslam 2024 The Sunny Side Up Live At Impact Arena" จากวันนั้นจนวันนี้ผ่านมากว่า 10 วันแล้ว แต่คอนเสิร์ตในวันนั้นยังอยู่ในใจของใครหลายคน โดยเฉพาะแฟนเพลงของ Bodyslam
ล่าสุด ตูน บอดี้สแลม หรือ ตูน อาทิวราห์ คงมาลัย ได้ออกมาโพสต์เขียนเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนหน้าที่จะมีคอนเสิร์ตใหญ่ ซึ่งเป็นช่วงที่ทุกคนในวงได้หยุดพักเพื่อเตรียมร่างกายให้พร้อม และตัว พี่ตูน เองก็ใช้โอกาสนี้ในการซ่อมร่างกาย ด้วยการเข้ารับการผ่าตัดใหญ่ เปลี่ยนหมอนรองกระดูก 2 ข้อที่มีปัญหาออก แล้วเอาหมอนรองกระดูกเทียมมาใส่แทน ซึ่งการผ่าตัดนี้จะเสี่ยงกับเรื่องเส้นเสียง ที่อาจส่งผลให้เส้นเสียงแหบชั่วคราวและแบบถาวร แต่สุดท้ายการผ่าตัดก็ผ่านไปได้ด้วยดี ไม่มีปัญหาใดๆ
"ช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ได้หยุดพักจากการทัวร์คอนเสิร์ตเพื่อซ้อม และเตรียมตัวเตรียมร่างกายให้พร้อมที่สุดสำหรับคอนเสิร์ตใหญ่ ซึ่งเป็นการหยุดพักที่เกิดขึ้นเป็นปกติอยู่แล้วของพวกเรา ก่อนการขึ้นคอนเสิร์ตใหญ่ในทุกๆ ครั้ง ตลอดการเดินทาง 22 ปีของบอดี้สแลม
...
แต่นอกจากการหยุดเพื่อพักและซักซ้อมเตรียมตัวเพื่อโชว์ที่เราอยากทำออกมาให้ดีที่สุดแล้วนั้น ส่วนตัวผมเองก็ถือโอกาสในการ "ซ่อม" ร่างกายที่ใช้มาอย่างหนักหน่วงตลอดเวลาอันยาวนาน
หลายคนที่ไปดูคอนเสิร์ตใหญ่ คงสังเกตเห็นรอยแผลที่บริเวณคอด้านหน้าของผมที่เป็นรอยยาวสักประมาณนิ้วครึ่ง ใช่ครับ ผมเข้ารับการผ่าตัดอีกครั้ง
แต่ในครั้งนี้เป็นการผ่าตัดจากทางด้านหน้าลำคอ เพื่อเปลี่ยนหมอนรองกระดูกทั้งสองข้อที่มีปัญหาออก แล้วแทนที่ด้วยหมอนรองกระดูกเทียม แล้วยึดติดกระดูกทั้งสามข้อที่เกี่ยวข้องให้เป็นเหมือนกระดูกข้อเดียว ที่อาจมีการจำกัดองศาของการก้มและเงยของคอเมื่อผ่าตัดเสร็จ
สำหรับคนที่เคยมีประสบการณ์ต้องเปลี่ยนหมอนรองกระดูกแบบผม คงไม่คิดว่ามันเป็นการผ่าตัดที่ใหญ่และเสี่ยงอะไรมากมาย แต่สำหรับผมที่ชอบร้องเพลงและยังคงร้องเพลงเพื่อความสุขอยู่ในทุกเมื่อเชื่อวัน
การผ่าตัดลักษณะนี้จะมีความเสี่ยงกับเส้นเสียงบ้างไม่มากก็น้อย ที่อาจทำให้เกิดเสียงเปลี่ยนหรือเสียงแหบทั้งชั่วคราวและแบบถาวร ซึ่งเราก็ได้แต่หวังใจว่าเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดคงจะไม่เกิดขึ้นกับเรา
แต่สุดท้ายต้องขอบพระคุณคุณหมอและแพทย์ผู้ช่วย และพยาบาลทุกๆ ท่าน ที่ช่วยทำให้การผ่าตัดครั้งนี้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี และไม่เกิดภาวะแทรกซ้อนใดๆ ที่ทำให้ผมได้พร้อมที่สุดสำหรับคอนเสิร์ตใหญ่ที่จะเกิดขึ้น หลังจากผ่าตัดเสร็จประมาณเกือบสองเดือน
ตลอดเวลาการพักฟื้นและเตรียมตัว สิ่งที่ผมทำได้ก็คือการปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิต และเริ่มทำให้ตัวเองคุ้นชินกับการร้องเพลง กับอวัยวะเทียมที่อยู่ในลำคอ ที่ไม่มากก็น้อยในความรู้สึกของผมมันก็คือการ "ฝึก" การใช้เสียงและการร้องเพลงใหม่นั่นเอง
ทุกครั้งที่เปล่งเสียงออกมา ผมจะรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงทางกายภาพในลำคอของผม ที่ไม่เหมือนเดิมที่เคยใช้เสียงมาตลอดหลายปี
ในใจก็คิดกังวลต่างๆ นานา กลัวว่าจะทำหน้าที่ของตัวเองได้ไม่ดีในคอนเสิร์ตใหญ่ที่จะถึง ที่มีคนตั้งใจมาเชียร์หลายหมื่นคนตลอดทั้งสามรอบ แต่อีกใจก็ "สู้" และมั่นใจว่าตัวเองจะหายเป็นปกติและทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีที่สุดอีกครั้ง
ฉากจบของเรื่องราวนี้ หลายๆ คนคงได้อยู่เป็นประจักษ์กับสายตาตัวเอง เมื่อเกือบสิบวันที่ผ่านมาบนเวที ผ่านทางคอนเสิร์ตใหญ่ของพวกเราทั้งสามรอบ
...
ขอบคุณทุกๆ คนอีกครั้งที่ยังคงมาให้กำลังใจกันในทุกๆ ครั้ง ที่เรามีคอนเสิร์ตใหญ่ มาร่วมเขียนประสบการณ์พิเศษๆ ให้เกิดขึ้นและจดจำในหัวใจไปพร้อมๆ กัน หวังว่าครั้งนี้ทุกๆ คนคงจะพกความสุข พกรอยยิ้มและแรงบันดาลใจดีๆ กลับบ้านไปได้บ้างไม่มากก็น้อย
และส่วนตัวต้องขอบคุณสำหรับโอกาสที่ทุกคนมอบให้ผม ให้ได้ทำหน้าที่ "ร้องเพลง" บนเวทีตรงนั้นอีกครั้ง เพราะข้างบนนั้นมันคือที่ที่ผมมี "ความสุข" และมี "ความหมาย" ที่สุด ขอบคุณอีกครั้งที่ให้เกียรตินี้กับผมตลอดมานะครับ
จนกว่าจะพบกันใหม่ ใช้ชีวิตให้สนุกนะครับ ด้วยรัก , ตูน 2 ก.ค. 2567
ป.ล.สามารถติดตามไดอารี่เบื้องลึกเบื้องหลังของเรื่องราวนี้ได้ทางช่อง Youtube ของครอบครัวของเราที่ช่อง "KTTV Journey" เวลา 6 โมงเย็นวันนี้พร้อมๆ กันนะครับ
สุดท้ายนี้ ขอบพระคุณคุณหมอทีเจและทีมที่ช่วยวางแผนการผ่าตัดและทำการผ่าตัดให้ผมครั้งนี้ให้สำเร็จลงได้ด้วยดี โดยไม่มีอาการผิดปกติทางเส้นเสียงอย่างที่ผมกังวล
ขอบคุณสำหรับความใส่ใจในทุกรายละเอียดจริงๆ ครับ ขอขอบคุณครูเจ @jay13200 ที่ช่วยปรับแต่งจูนเสียงและสอนวิธีการใช้เสียงที่ถูกที่ควรให้ผม และทำให้ผมมีความมั่นใจในการขึ้นเวทีมากขึ้นในครั้งนี้ ช่วงเวลาสองสามวันกับครูเจมันมีความหมายกับผมมากจริงๆ ครับ รัก".
...
...