เจอเหตุการณ์สุดระทึกจากกรณีที่พายุเข้าดูไบ สำหรับ เจมส์ เรืองศักดิ์ ที่ล่าสุดเจ้าตัวได้โพสต์ลงอินสตาแกรมส่วนตัวว่าได้พบเจอกับเหตุระทึกตอนขึ้นครื่องบินอีกครั้ง หลังจากบินกลับมาจากยุโรป โดยเจ้าตัวเล่าว่า
"รอดหวุดหวิดติดที่สนามบินดูไบ ทีมเราบินกลับจากยุโรปมาต่อเครื่องที่นี่ วันที่ 16 เม.ย. ฝนตกหนักมากที่สนามบินดูไบ ไฟลต์ประกาศดีเลย์ เนื่องจากทีมเราอยู่อาคารสนามบินจึงไม่รู้สึกอะไรมาก แต่ส่วนตัวผมสังเกตน้ำที่ไหลลงกระจกอาคารดูไม่มีวี่แววจะหยุดสักที แสดงว่าฝนเทหนัก
จังหวะเดินขึ้นเครื่องสังเกตตรงประตูขึ้นเครื่อง ฝนคงตกหนักมากจริงๆ ขอบของงวงช้างที่ให้คนเดิน น้ำไหลทะลักเปียกชุ่มฉ่ำกันบริเวณทางเดินเข้าเครื่องบิน พนักงานต้อนรับช่วยกันเช็ดน้ำกันอย่างทุลักทุเลเล็กน้อย
เมื่อเข้าไปในเครื่องแล้ว ผ่านไปหลายนาทีเครื่องก็ยังไม่ออก กัปตันประกาศเสียงตามสายว่าฝนตกหนัก เครื่องบินบนฟ้าหลายลำยังต้องบินวนรอ ลำของเราจึงไม่สามารถนำเครื่องขึ้นได้ ลูกกับเมียนอนกินขนมกันอย่างมีความสุขสบายใจเฉิบ ผมก็ไม่ได้อัปเดตอะไรให้ฟังมาก กลัวจะวิตกกัน
ผ่านไป ชม.กว่าๆ เครื่องถึงได้ออกบิน มองไปนอกหน้าต่างเห็นเลยว่า ลำที่ออกบินก่อนเรา เวลาเร่งเครื่องขึ้น มีน้ำบานตรงรันเวย์ (ดูแล้วยังไม่มากครับ น่าจะยังอยู่ในมาตรฐานความปลอดภัยที่สนามบินได้ประเมินแล้ว)
...
เครื่องขึ้นบนฟ้าได้ ลูกเมีย และคุณพ่อคุณแม่ชิลมากๆ นอนหลับกันปุ๋ย แต่ผู้ไม่หลับคือนายเรืองศักดิ์ คงไม่ต้องอธิบายนะว่าทำไม… ลำที่นั่งคือ Airbus A 380-800 ลำใหญ่ยักษ์ สองชั้น ลำใหญ่ขนาดนี้ยังรับรู้ได้ถึงความสะเทือนบนท้องฟ้า สัมผัสได้เลยว่าผ่านเมฆฝนที่ไม่ธรรมดาแน่นอน และสั่นอยู่ค่อนข้างนาน แรงบ้าง เบาบ้าง เป็นระยะ กินเวลาประมาณ 20-30 นาทีได้ตื่นเต้น (แต่ไม่รู้สึกอันตรายอะไรนะครับ ยังรู้สึกปลอดภัยดี) สักพักเมฆก็ค่อยๆ กลายเป็นฟ้าหลังฝน บินนิ่มไปจนถึงสุวรรณภูมิอย่างปลอดภัย
ลงเครื่องปั๊บ เห็นข่าวน้ำท่วมสนามบินดูไบ เห็นข่าวน้ำท่วมใหญ่ มีดาราติดเป็นผู้ประสบภัย เลยรู้สึกว่าทีมเราน่าจะเป็นไฟลต์ท้ายๆ ก่อนเกิดเหตุเลย หวุดหวิดจริงๆ ครับ ขอให้ทุกคนที่ประสบประสบเหตุ จงมีแต่ความปลอดภัยนะครับ ดูไบเป็นที่ๆ มีเทคโนโลยีทันสมัยมาก เชื่อว่าเรื่องแค่นี้ เค้าน่าจะแก้แป๊บเดียวจบ
หมายเหตุ เออ.. เพิ่งสังเกตตัวเอง นี่เราหายจากอาการแพนิคจากการเคยผ่านอุบัติเหตุเครื่องบินแบบ 100% แล้วหรือนี่ เยี่ยมมากเรืองศักดิ์".