ยังคงสร้างความเสียหายให้กับประชาชนจำนวนมากชนิดไม่หยุดหย่อน สำหรับขบวนการคอลเซ็นเตอร์ หลอกต้มตุ๋นดูดเงินจากบัญชีผู้บริสุทธิ์!!

หลายคนไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมทุจริตชนพวกนี้ ถึงขนาดหมดเนื้อหมดตัวในพริบตา จากเงินที่หามาได้จากน้ำพักน้ำแรงมาทั้งชีวิต

บางคนเจ็บช้ำทรมานใจสุดๆ ถึงขั้นฆ่าตัวตายก็มีให้เห็นให้เป็นข่าวสะเทือนใจมาแล้ว

ผู้มีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ...ทั้งกระทรวงดิจิทัลฯ ตำรวจไซเบอร์ หรือแม้แต่โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็ออกมาเตือนภัยบ่อยๆ แต่มันไม่เพียงพอและไร้ผล!!

การเตือนเชิงรุกดูไม่ก้าวหน้าก็เพราะภาครัฐใช้ “สื่อ” น้อยเกินไป ทั้งด้านความถี่และจำนวนสื่อ

สื่อที่น่าจะสัมฤทธิผลมากที่สุด น่าจะเป็น “สื่อโทรทัศน์” ทำสปอตสั้นๆยิงตรงทุกช่อง หลายๆคาบเวลาต่อวัน

ใช้มืออาชีพผลิตคอนเทนต์ให้น่าสนใจ ชวนติดตาม เสนอแนะวิธีการเอาตัวรอด ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อแก๊งคอลฯ กรอกหูกรอกตาซ้ำๆบ่อยๆ มันต้องได้ผลบ้างแหละ

เรื่องนี้รัฐบาลต้องลงทุนเอง ทั้งซื้อโฆษณาและขอความร่วมมือจากทีวีเอกชน ก็คงไม่มีช่องไหนปฏิเสธ ส่วนทีวีของรัฐก็ระดมกันเต็มที่ไปเลย

ภัยร้ายโจรไซเบอร์มันต้องควรเป็นปัญหาระดับชาติเสียที ไม่ใช่ปล่อยให้ประชาชนระแวดระวังตัวกันเอง บางคนรู้เท่าทันก็รอดไป แต่ก็ไม่รู้ว่าวันไหนจะเจอกับตัวเองบ้าง

การเตือนภัยผ่านจอโทรทัศน์ จึงเป็นอีกช่องทางที่รัฐบาลทำได้เลยทันที แม้จะสกัดกั้นขบวนการดูดเงินประชาชนได้ไม่หมด แต่อย่างน้อยก็ผ่อนหนักเป็นเบาได้

เริ่มเลยวันนี้...ยังไม่สายเกินไป!!

‘‘แจ๋วริมจอ’’
jaewrimjor@gmail.com

...

คลิกอ่านคอลัมน์ “ทีวีบันเทิง” เพิ่มเติม