ทำไมไม่เป็นอย่างนั้น ทำไมไม่เป็นอย่างนี้ นี่คือวลีติดเทรนด์ ที่ถูกเอ่ยถึงในสื่อโซเชียล

ความรู้สึกส่วนตัวนำหน้าพยาน เหตุผล และนานาตรรกะ ไม่ว่าจะพยานบุคคลหรือหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ถูกเก็บพับไว้

ผู้พิพากษาอุปโลกน์ทางสื่อออนไลน์ ขึ้นนั่งบัลลังก์หน้าคีย์บอร์ด ตัดสินอรรถคดีด้วยอารมณ์ รัก เกลียด กลัว หลง เต็มไปด้วยอคติล้วนๆ จำเลยทางสื่อออนไลน์ อย่าหาญสู้!!

ต่อให้มีเหตุมีผล อธิบายได้แค่ไหน แต่ถ้าผู้พิพากษาอุปโลกน์เหล่านั้นได้พิพากษาแล้ว อย่าริหาญต่อปากต่อคำ

จะถูกหาว่าแถ มีทัวร์ลง มีขบวน การล่าแม่มดเกิดขึ้นในบัดดล?

ยิ่งถ้าไม่อยากต่อปากต่อคำ หรือเปลี่ยนชื่อเฟซชื่อไลน์ ก็โดนหาว่าปิดโปรไฟล์หนี จำนนต่อคำกล่าวหาซะงั้น...

เราเดินมาถึง “ขบวนการอยุติธรรม” แบบนี้บนสื่อออนไลน์ ตั้งแต่เมื่อไหร่ และจะทนอยู่กันแบบนี้ ไปอีกนานเท่าใด?

ตุลาการอุปโลกน์เยี่ยงนี้ มิใช่มีแค่ในสื่อออนไลน์ หากแต่เชื้อได้กลายพันธุ์ เข้าสู่พิธีกรหลักในรายการดังทางทีวี หลายต่อหลายรายการ

ทั้งชี้นำ ทั้งชี้แนะ ทั้งสรุปสำนวน ทั้งสั่งฟ้อง ทั้งพิพากษา ตัดสินเองแบบเบ็ดเสร็จ

บางรายการจึงกลายเป็น “มาเฟีย” ไปแล้ว สมคำร่ำลือ

เราจะอยู่แบบนี้กันไปอีกนานไหม... ไม่มีใครหรือองค์กรใดควบคุมได้เลยหรือขอถามสังคมอีกครั้ง??

“สันติพงษ์ นาคประดา”


‘‘แจ๋วริมจอ’’
jaewrimjor@gmail.com

คลิกอ่าน "ทีวีบันเทิง" เพิ่มเติม

...