ไม่ได้ฮาเล่นๆ แต่รวมตัวตึงสาย “ตลก” มาปล่อย “มุก” โบ๊ะบ๊ะสู้ยิบตา ถึงขั้นทำให้เพ็ชร–ฐกฤต ตวันพงค์ พระเอกหนุ่มจากละครแนวโรแมนติกคอมเมดี้เรื่อง “18 มงกุฎสะดุดเลิฟ” ของผู้จัดไฟแรง ต่าย–นัฐฐพนท์ ทางช่อง 3 ร้องขอชีวิตเพราะกลั้น “ขำ” ไม่ไหวๆๆ ส่วนความรักเป็นหนุ่ม “คลั่งรัก” หลังมายด์–ฑาริกา แฟนสาว เข้ามาเปลี่ยนมายด์เซต มองอนาคตร่วมกัน วางแผนชีวิตอยากมี “ลูก” ก่อน ค่อยแต่ง ใน “คนดังนั่งคุย”
เป็นละครเรื่องแรกที่ประกบน้องแจ็คกี้ แม่น้องบอง เป็นอย่างไรบ้าง “จริงๆเจอกันหลายเรื่องแต่เพิ่งมาคู่กัน”
ต้องปรับตัวขนาดไหน “ นิดหน่อย คือทุกเรื่องเราไม่ได้เล่นด้วยกัน แค่แบบมาเจอกันนิดๆหน่อยๆแต่เรื่องนี้เราเล่นด้วยกัน ให้เคมีเข้ากัน ทั้งนี้ อยู่ที่ผู้ชมจะมองว่าเคมีเข้าด้วยกันหรือเปล่า แต่เรื่องนี้การปรับบทค่อนข้างเยอะเพราะว่าปรับให้ดูเด็กลง คาแรกเตอร์ของเป้เป็นวัยรุ่นที่เพิ่งเรียนจบนอกมา ทางด้านครอบครัวมีพร้อมทุกอย่างเพียงแต่เราอยากช่วยเหลือสังคมเลยตั้งเพจขึ้นมา เจาะเหลี่ยมโกง ช่วยเหลือผู้ยากไร้ หรือเด็กกำพร้าจากมิจฉาชีพ”
เพ็ชร–แจ็คกี้ เข้าขากันได้ดีขนาดไหน “ก็สนุกดีครับ บางทีมีบอกมุกกันก่อน บางทีก็ไม่ได้บอก สดๆกันเลย เข้ากันด้วยดี แจ็คกี้เค้าก็เป็นแจ็คกี้ จะมาแนวฮาๆอยู่แล้ว เขาสนุกของเค้าอยู่แล้ว เล่นเต็มอยู่แล้ว”
...
บทเป้ในเรื่องไม่ใช่คนตลกเนอะ “มีบ้างนิดหน่อย แต่เป็นคนตลกในเพจของตัวเอง จะมีน้องอีกคนเป็นลูกน้องจะตลกแนวนั้น แต่กับนางเอกเจอกันไม่ค่อยตลก จะฉะกันตลอด ในเรื่องเราไม่รู้เค้าเป็น 18 มงกุฎ เราไม่รู้ เค้ามาหลอกอะไรเราหรือเปล่า เราคิดแง่ดีตลอด ฉะด้วยอารมณ์ คำพูดมากกว่า”
เล่นเรื่องนี้รายล้อมด้วยนักแสดงตลก เป็นอย่างไรบ้าง รับมือไหวมั้ย “โอ้โห (หัวเราะ) บางทีก็ไม่ไหวครับ มันต้องกัดฟันสู้เพราะบางทีเล่นกับพี่จตุรงค์ แม่แก้ว-อภิรดี พี่ฝน-สรวงสุดา พี่โก๊ะตี๋ แต่ละคนเล่นจัดเต็มมาก เวลาเล่นเราต้องกัดฟัน คือเราในตัวเป้ต้องเครียดตลอดเวลา แต่เวลาเล่นรายล้อมตลกเราต้องไม่ให้หลุด ต้องคีปคาแรกเตอร์ไว้ ต้องแข็งสุด จริงจังสุด แต่บางสิ่งบางอย่างไม่ไหวมันหลุด บางทีเค้านอกบทตลอด รับมือยากเหมือนกัน (ยิ้ม)”
เพ็ชรกลายเป็นคนหลุดขำง่ายที่สุดมั้ย “ง่ายครับ แต่ไม่ใช่แค่ผมคนเดียว น้องจูเนียร์-กาจบัณฑิต อู้หู นำก่อนเลย แต่ผมจะน้อยกว่า โดนจริงๆ จะขำแต่น้องจูเนียร์ขำตลอด”
เพ็ชรแพ้ทางตลกของใคร “ผมจะแพ้ทางพี่โก๊ะตี๋กับพี่จตุรงค์ เวลาสองคนนี้เล่นด้วยกัน เค้าจะมีนอกบทตลอด บางทีบทเราก็ซีเรียสก็จะ
หลุดขำ ต้องกลั้นไว้”
พอเล่นๆไปมีการร้องขอชีวิตกันบ้างมั้ย เบาๆหน่อยก็ได้ “มีบ้างครับ บอกกันก่อนนะ พ่อบอกก่อนนะ ผมจะเรียกพี่จตุรงค์ว่าพ่อ พี่โก๊ะตี๋เล่นมุกอะไรเตี๊ยมกันก่อนผมจะได้รู้ ขึ้นมา ฮาแตกเลยนะ ไม่งั้นโบ๊ะบ๊ะกันอยู่สองคนแต่คนรายล้อมหัวเราะกันสนั่น กล้องมาปุ๊บต้องเบี่ยงหน้าหนีกันแล้ว”
สรุปบทคอมเมดี้เล่นยากกว่าเล่นดราม่ามั้ย “ยากกว่าครับ คอมเมดี้เหมือนง่ายแต่ไม่ง่าย มีความยากกว่าแอ็กชัน ดราม่าผมว่าเล่นง่ายเพราะผมถนัดดราม่าแอ็กชันอยู่แล้ว แต่คอมเมดี้มีความยาก เล่นยังไงให้คนดูขำแต่เราไม่ขำ เล่นน้อยแต่ขำ เล่นมากไปโอเว่อร์แอ็กติ้งดูแห้งไป คนดูไม่ขำ มันจะมีความยากมากๆ แค่พูดไดอะล็อกนิดเดียวมันก็ขำได้โดยที่ไม่ต้องเล่นให้ตลก”
เม้าท์ชัด จัดทุกตอน ติดตามได้ที่ www.thairath.co.th/novel และ Facebook Fanpage : นิยายไทยรัฐ
เรื่องนี้สิบแปดมงกุฎแล้วชีวิตจริงเราเจอการหลอกลวง เจอแก๊งมิจยังไงบ้าง “ส่วนมากจะเจอ คอลเซ็นเตอร์มากกว่า โทร.มาตลอด เคสล่าสุดบอกว่าผมมีพัสดุตกค้าง คุณส่งไปมันส่งไม่ถึงปลายทางคุณจะต้องเสียค่าใช้จ่าย ผมก็คิดๆ ส่งของอะไรว่ะไปนราธิวาส พอผมพูดตัดบทไป จะโทร.มาอีกสาย อ้างเป็นตำรวจ อ้างเรื่องบัตรประชาชนโดนอายัด ทำอะไรผิดกฎหมาย และโดนหมายเรียก ผมก็จะกวนๆกลับไป มันจะมีแบบนี้เข้ามาเยอะมาก เจอตลอด เป็นช่วงๆ เบอร์แปลกๆ จะมีโทร.เข้ามาแล้ว”
เราก็ยังขยันรับสายมิจฯเหลือเกิน “ก็กวนตีนไง เค้ากวนตีนมาเราก็กวนตีนกลับ เพราะฉะนั้นถ้าเจอเบอร์แปลกๆ บางที 3 วิก็จะไม่รับเลย ตอนนี้กลัวว่าพอเรารับสายเค้าจะแฮ็กข้อมูล”
มาอัปเดตความรักเพราะเราเองก็เป็นสายคลั่งรักไม่เบา “ก็ๆไม่เชิงคลั่งรัก”
...
จริงดิ ที่ผ่านมาไม่คลั่งเลยเนาะ “ไม่คลั่งๆ ไม่ เป็นคนสบายๆ ทำสวนด้วยควบคู่กันไป ถ่ายละคร ทำงานในวงการไปด้วย” มายด์เจ้าของไร่ เพ็ชรรับบทคนงานในสวน “ใช่ครับ เราตำแหน่งเลขาฯเค้าครับ (หัวเราะ) เค้าเป็นเจ้าของสวน เราคอยซัพพอร์ต เป็นแขนเป็นขาให้เค้า เขาเป็นสมอง เราเป็นลูกมือ ก็แฮปปี้ดีครับ ทั้งในเรื่องของความรัก มีทะเลาะกันเล็กๆ น้อยๆ เป็นเรื่องปกติ”
ที่ว่าเล็กๆน้อยๆมันคือเรื่องอะไร “มันเป็นเรื่องจุกจิก เล็กๆ น้อยๆ อย่างเช่นความขี้ลืม เพ็ชรชอบขี้ลืมไม่จำเป็นต้องเป็นวันสำคัญ บางทีลืมของ หลักๆ โทรศัพท์ ขึ้นรถปุ๊บ เห้ย! โทรศัพท์วางไว้ตรงไหน คือเราถ้าลืมของจะเป็นคนลุกลี้ลุกรน ทำให้เค้าประสาทเสียไปด้วยทุกครั้งเค้าก็จะหงุดหงิด ลืมอีกแล้วเหรอ? เมื่อไหร่จะจำได้สักที เมื่อไหร่จะหายขี้ลืมสักทีสอนไม่เคยจำ? คือโดนด่าตลอด สุดท้ายอยู่ข้างๆ คอนโซล มันตก เอาโทรศัพท์มาโขกหัวทีนึงโป๊ก ทุกครั้งผมเป็นคนขี้ลืม”
จริงๆน้องมายด์เป็นคนดุมั้ย “เวลาที่เราทำผิดซ้ำซากอยากให้เราแบบคิดมีสติให้มากกว่านี้ ”
เริ่มคุยแต่งงานเพราะเราคบกันหลายปีแล้วเหมือนกัน “ใช่ครับ ทีแรกก็อยากแต่งก่อนแต่ทีนี้เรามีความคิดอยากมีลูกก่อนดีกว่า อยากมีโมเมนต์มีลูกน้อยอยู่ในงานแต่งด้วย แต่ทั้งนี้เราก็ต้องจดทะเบียนกันก่อน”
...
ฤกษ์ดี 14 ก.พ. วันแห่งความรักไปเลยมั้ย “โอ๊ย รีบไปหน่อย ใจเย็นๆ เตรียมตัวไม่ทัน แต่มีการคุยกันแล้ว เดี๋ยวจะมีการระบุวัน ฤกษ์กันอีกที จดทะเบียนไม่แน่ใจภายในปีนี้มั้ย แต่คงไม่นานหรอก”
ที่ยังไม่เปิดเผยฤกษ์เป็นเพราะเราอยากมีโมเมนต์ขอแต่งงานก่อนด้วยหรือเปล่า “ใช่ครับ แต่จริงๆน้องมายด์เป็นคนเรียบง่ายสบายๆ เค้าไม่ค่อยอยากให้เซอร์ไพรส์อะไรมากมาย เค้าแค่ขอทำทุกอย่างวันนี้ก็มีความสุขกันแล้ว แต่ถ้าเราทำให้เค้าได้ก็อยากทำ”
อย่างประเด็นที่เราอยากมีลูกก่อน เคลียร์กับพ่อแม่ของมายด์หรือตัวน้องมายด์เอง เราคุยกับใครยากสุด “คุยกับคุณพ่อคุณแม่ฝ่ายน้องมายด์ วันนั้นน้องมายด์ก็อยู่ด้วย ก็อธิบายเหตุผล จะขอจดทะเบียนก่อน มีลูกก่อนได้ไหมครับ ก่อนแต่งงาน อยากมีโมเมนต์จูงลูกอยู่ในวันสำคัญของเราด้วย เขาโอเค มีลูกก่อนก็ได้นะเพราะพ่อแม่เริ่มแก่กันแล้ว”
ความพร้อมตอนนี้ล่ะ “ผมว่าปีหน้าน่าจะพร้อม คือปีนี้ขอเคลียร์ให้เสร็จเป็นเรื่องๆไปก่อน ไหนจะเรื่องงานการ เรื่องสวนด้วยเพราะสวนยังไม่แล้วเสร็จ”
ตั้งแต่คบกับน้องมายด์ หลายๆคนพูดเป็นเสียงเดียวกันทำให้เพ็ชรดูเป็นผู้เป็นคนขึ้น “ใช่ๆครับ จะพูดอย่างนั้นก็ได้ เทียบกับช่วง แรกๆที่เข้าวงการ ตอนนี้ผมดูเป็นผู้เป็นคน ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ดูมีความคิดมากขึ้น ก่อนที่คบน้อง บอกตรงๆ เราเป็นคนที่อยู่ไปเรื่อยๆ อยู่ไปวันๆ ไม่มีเป้าหมายเล่นบอล เล่นฟิตเนส ใครชวนไปไหนไป ไปปาร์ตี้ ผับไปหมด ไปเที่ยวพักผ่อน สังสรรค์กับเพื่อนๆ ตามอายุ พออายุ 29 จะขึ้นเลข 3 ปุ๊บ เจอน้องมายด์ บอกว่าถ้าพี่ทำตัวแบบนี้ พี่จะไม่เหลืออะไรเลยนะ เค้าจะคอยบอกเรา ต้องมีโกลด์ ต้องมีเป้าหมายของตัวเอง อย่าทำ อย่าหายใจไปวันๆ ใช่ๆ ต้องคิดวางแผนแล้วนะ เพราะอายุพี่ก็มากขึ้นแล้วนะ พี่ดูเคสหลายๆคน ทุกคนๆที่ประสบแบบนี้ มีเงินจ่ายโน้นจ่ายนี่โดยเปล่าประโยชน์ เราต้องทำอะไรสักอย่าง เขาดึงสติเราปุ๊บ คิดได้เป็นช่วงโควิดมาพอดี ว่าง 2 เดือน ที่ล็อกดาวน์ เราก็คิดทำอะไรดีเพราะตอนนั้นนอนกิน ดูหนัง ดูซีรีส์ ใช้ชีวิตแบบว่างเปล่า ไม่ได้ทำอะไรให้ดูดีขึ้นมาเลย แล้วน้องมายด์มีสวนอยู่ที่ชลบุรีอยู่แล้ว เพ็ชรเองยังไม่มีอะไรทำเลย พูดง่ายๆ มีแต่หนี้ ทีนี้น้องมายด์บอกถ้าพี่เป็นแบบนี้จะมีแต่หนี้จะไม่เหลืออะไรเลย เงินที่ได้มาพี่ก็เอาไปใช้หนี้หมด ไม่มีอะไรเป็นของตัวเอง เค้าเลยบอกผมเอาเงินก้อนไปซื้อที่เลย ไปทำที่ ทำเป็นอาณาจักรของตัวเอง หลังจากนั้นมาเพ็ชรเต็มที่เลย เบนเข็ม เปลี่ยนชีวิตตัวเอง เปลี่ยนมายด์เซตตัวเองใหม่ เลิกทุกอย่างที่ไร้สาระ โฟกัสเป้าหมายของเราแล้ว”
...
มีสวนแล้วมีเรือนหอหรือยัง “ตอนนี้มีหลังเล็กอยู่ รอทำหลังใหญ่อยู่ที่ชัยนาทครับเพราะหลักๆ ทำที่ชัยนาทมากกว่าเพราะว่ากรุงเทพฯมาทำงานหลักๆ ไปมาชัยนาท เหนื่อยแต่เป็นความสุข จริงๆ ทำสวนมันเหนื่อยกับการดูแลต้นไม้มาก การปลูกไม่เหนื่อยหรอก การดูแลต้นไม้จะเหนื่อยหน่อย”
แสดงว่ามายด์ให้เป้าหมายชีวิตเราเปลี่ยนไป “ใช่เลยครับ เป้าหมายเปลี่ยนไป และเป้าหมายชัดเจนยิ่งขึ้นทำให้เราคิดอนาคตได้มั่นคง ระยะยาว มองการณ์ไกล วางแผน จัดการระบบเงิน ระบบทุกอย่างมองเป็นขั้นเป็นตอนแล้วว่าต้องทำอะไรก่อน เมื่อก่อนอยากได้โน่นนี่ อยากได้อะไรซื้อเลย อยากซื้อมอเตอร์ไซค์ก็ซื้อ แต่ตอนนี้ทุกวันนี้อยากขายมอเตอร์ไซค์แล้ว เราไม่ได้ขี่เลย อะไรที่ไม่จำเป็นเราตัดทอนได้ก็ตัดออกไป เราจะได้แบกภาระน้อยลงด้วย เราจะได้ไม่ต้องแบกหนัก ทำให้มีความสุข ผมว่าชีวิตเรามีหนี้น้อยมีความสุขแต่ถามว่าไม่มีหนี้เลยก็เป็นไปไม่ได้ เพราะเราต้องมีคอนเนกชันในเรื่องของเครดิต ทำอะไรต้องมีบ้างแต่มีน้อยดีสุด เค้าเรียกว่ายกภูเขาออกจากอก ชีวิตจะดีมากๆ จริงๆการไม่มีหนี้เป็นลาภอันประเสริฐ เรื่องบ้าน มันเป็นความสุข แต่ถ้ามันหนักเกินไปกับตัวเราที่แบกรับไหวก็ไม่ไหวเราต้องปล่อย เพราะเราไม่รู้อนาคตเราจะมีงานเข้ามา หลักๆ เราเอาสวนก่อน เรามีพื้นที่ของเรา 10 ไร่ มีอาณาจักร ปลูกบ้านปุ๊บเราไม่มีเงิน แต่เราปลูกผักกิน มีปลากิน มีผลไม้ให้กิน มีต้นไม้ขาย บั้นปลายเราไม่รู้หรอกว่าเราจะเจออะไรบ้าง เราต้องวางแผนให้ รอบคอบก่อน”.
เรื่อง: วรรณี ห่อวโนทยาน