ผันตัวเข้าสู่ “วงการบันเทิง” เป็นนักแสดงเต็มตัว สำหรับ แอนชิลี สก๊อต-เคมมิส ดีกรีเจ้าของมงมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2021 ประเดิมจอภาพยนตร์เรื่องแรก “มะลิ (Beautiful Fighter)” ค่าย M39 นอกจากลักกี้อินเกม ยังลักกี้อินเลิฟกับ เซมิซี่ ทูพู แฟนหนุ่มหล่อดีกรีนักรักบี้จะอยู่ไกลถึงประเทศญี่ปุ่น ไม่หวั่นรักแท้แพ้ระยะทาง เพราะบอกรักกันทุ้กวัน...น
แอนชิลีเล่าว่า “พอได้อ่านแล้วอยากเล่น มีสิ่งที่คล้ายหนูกับอแมนด้า ประสบคล้ายๆกัน ที่หนูอยากเอามานำเสนอในอีกมุมมอง เขาเป็นคนมุ่งมั่นทุกอย่างที่เขาทำ หนูก็เป็นคนที่มั่นใจ บางทีก็เคยโดนว่ามั่นเกิน แต่จากคาแรกเตอร์นี้เราเข้าใจตัวละคร ก็เลยคิดว่าหนูสามารถแสดงบทนี้ได้อย่างดี จูนกับตัวละครไม่ยาก”
เตรียมตัวเตรียมร่างกายยังไงเพราะมีต่อยมวยด้วย
“ใช่ค่ะ เริ่มฝึกมวยมาประมาณ 2 เดือนแล้วค่ะ กับกองถ่ายก็ต้องทำให้เหมือนจริง เราต้องชกเป็นให้ได้ ทั้ง 3 ตัวละครชกมวยเป็นอาชีพของเราให้มันเหมือนจริง ก่อนตัดสินใจเล่นหนังเรื่องนี้ก็ฟิตร่างกายในมุมมองที่ให้หัวใจ ปอดแข็งแรงขึ้นเพราะมวยเป็นกีฬาที่เหนื่อยมากๆ ล้าง่าย เลยเตรียมตัว 2-3 เดือนก่อนที่จะเริ่มมาซ้อมกับกอง”
...
วันแรกที่ลงนวมสภาพวันนั้นเป็นยังไงบ้าง
“ในหัวคิดว่ามันดีแล้ว ต่อยเท่มาก สุดแรงแล้ว พอดูคลิปใหม่ เห้อ! ได้แค่นี้เองเหรอ”
แสดงว่าวันแรกที่ดูคลิปส่ายหัวเลยสิ
“ใช่ค่ะ กังวลด้วยแหละ วันแรกรู้สึกใส่เต็มที่ได้แค่นี้ บางทีเราก็ลืมไปว่าไม่ต้องเก่งทุกอย่างเนาะ ก็ฝึกได้ ก็เลยตอนนั้นหนูจะทำได้มั้ยเนี่ย แต่ตอนนี้ได้แล้ว”
คนฝึกมวยวันแรกจะเดินเสียทรงมากแอนเป็นมั้ย
“เป็นค่ะ มันปวดทุกที่เลย มีรอยช้ำตรงโน้นตรงนี้ มีตรงบริเวณคอ รอยจากมวย กระโดดเชือกมวย มันหนักจริงๆ แต่มันคุ้ม เป็นสกิลใหม่ที่เราได้เรียนด้วย”
ที่ผ่านมาชีวิตเจอดราม่าตอนนั้นท้อบ้างมั้ยเพราะขยับอะไรก็โดน
“เหนื่อยแต่ไม่เคยท้อ บางทีนอยด์บ้าง”
เจอเสียงวิพากษ์วิจารณ์ข้อความไหนอ่านแล้วเรารู้สึกแย่เลย
“จำได้มีช่วงนึงทำอะไรโดนด่าทุกอย่างเลย”
บูลลี่รูปร่างหน้าตา
“ด้วยค่ะ บางทีก็ใส่ชุดนั้นคนด่า ใส่ชุดนี้คนด่า เรารู้สึกทำอะไรไม่ถูกเลย พูดอะไรไม่ถูก เราทำบทบาทเต็มที่แล้วยังมาด่า บางทีมันนอยด์ได้ค่ะแต่ไม่ท้อต้องไปเรื่อยๆ”
ตอนนี้ถือว่าชีวิตเราประสบความสำเร็จแล้วหรือยัง
“ต้องไปอีกค่ะ”
เป้าหมายของเราคืออะไร
“ตอนแรกอยากเป็นนักแสดง นางแบบ มาถึงจุดนี้ที่ได้โอกาสต้องทำก่อนที่จะคิดมีอะไรต่อ ตอนนี้เพิ่งเข้าวงการ”
อัปเดตความรักเป็นยังไงบ้าง
“เหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนค่ะ (หัวเราะ) หวานเหมือนเดิม แฮปปี้เหมือนเดิม เสมอต้นเสมอปลาย”
เวลาทำงานเยอะๆแบบนี้มีเวลาให้เค้ามากน้อยขนาดไหน
“ช่วงนี้ไม่มีเวลาแต่ไม่เป็นไร เขาก็ทำงาน หนูก็ทำงาน มันเกี่ยวกับความเข้าใจจริงๆ”
มีแอบบ่นๆอยากหาเวลาเจอ กินข้าวกันสักหน่อยมั้ย
“ไม่มีเลย มันยาก คบกันได้ 2 ปี”
เป็นคนชัดเจนมากๆคบใครก็เปิดเลย
...
“เขาพูดก่อนไง หลังหนูประกวด MU มาแชร์โพสต์ หนูแค่แชร์เฉยๆมันก็เลยตู้มเลย ตอนนั้นไม่มีประสบการณ์ ใหม่มาก ไม่คิดว่ารีแชร์โพสต์ขอบคุณที่ให้กำลังใจหนู ดีใจที่ยืนอยู่ข้างๆเรา คอยซัพพอร์ต เพราะอาชีพเค้าก็ไม่ง่ายเหมือนกัน มีความคล้ายสิ่งที่หนูทำ สิ่งที่เค้าทำ เพราะเขาเป็นนักกีฬามืออาชีพ มีความเข้าใจตรงนี้ให้กำลังใจ”
คู่เราให้กำลังใจแบบไหน
“แล้วแต่ บางทีหนูต้องการบ่น คือบางทีหนูบ่นให้คนอื่นฟังไม่ได้ก็บ่นให้เขาฟังคนเดียว แค่อยากบ่น”
อ้อนมั้ย
“หนูจะอ้อนกับเพื่อน จะไม่อ้อนแฟนเพราะแฟนไม่ได้อยู่เมืองไทย เขาอยู่ญี่ปุ่นไม่ค่อยได้เจอกัน จะอ้อนเพื่อนสนิทมากกว่า”
เราอ้อนผ่านวิดีโอคอลก็ได้ไง
“ไม่ค่อยมีอะไรให้อ้อน โตๆกันแล้ว บางทีเหนื่อยทั้งคู่ก็ขี้อ้อนทั้งคู่ ถ้าเวลาเราสวมหมวกทำงาน เราก็เป็นผู้ใหญ่ ไม่ใช่เด็กๆ อินเลิฟ”
คู่เราบอกรักกันทุกวัน
“ทุกวัน (เสียงค่อยๆ) สไตล์ฝรั่ง ให้คนตีความเองแล้วกัน (หัวเราะ) เติมพลัง”
...
จะบินไปให้กำลังใจ
“โอ้ย อยากไปมากเลย แต่คิวงานแน่นมาก ไม่มีโอกาสไปเลย คิวยาวถึงสิ้นปีเลยค่ะ”.