เตรียมขึ้นแท่นว่าที่เจ้าสาวคนต่อไป สำหรับ เบลล์-มนัญญา ลิ่มเสถียร หรือ เบลล์ เกิร์ลลี่ เบอร์รี่ อดีตเกิร์ลกรุ๊ปยุค 90 ถูก วิน อินธาระ แฟนหนุ่มนอกวงการ ดีกรีนักเรียนนอก-เจ้าของบริษัท วิน สปอร์ตส์ แมเนจเม้นท์ จำกัด คุกเข่าขอแต่งงานกลางสวนสนุกวอลต์ดิสนีย์เวิลด์ เมืองออร์ลันโด รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา
เบลล์ ได้เปิดใจข้ามทวีป โดยเชื่อว่าเป็นเพราะตนรับช่อดอกไม้เจ้าสาวจาก “แนนนี่ เกิร์ลลี่ เบอร์รี่” เพื่อนสนิท ที่ได้แต่งงาน เมื่อปลายปีที่แล้วเป็นแน่ “ช่อดอกไม้จากแนนนี่ศักดิ์สิทธิ์ค่ะ ต้องได้จากเพื่อนสนิทแหละ (หัวเราะ)”
แต่งานแต่งแนนนี่ วันนั้นที่เบลล์ได้ช่อดอกไม้หน้าตาวินคืองงมากนะ
“ตอนแรกเค้าบอกเบลล์ว่าอาจจะไม่มางานเพราะไม่ค่อยสบาย เบลล์ก็แล้วแต่ แต่ตอนเย็นตัดสินใจเพราะสนิทกับแนนนี่เหมือนกัน วันนั้นพอเบลล์ได้ช่อดอกไม้ วินหันมาถามว่าเตี๊ยมหรือเปล่าเนี่ย? เบลล์ก็บอกว่าเปล่า เป็นช่อดอกไม้ที่ต้องดึงริบบิ้น ใครจะเตี๊ยมก็เห็นๆกันอยู่ เขาก็โอเค ผู้ชายก็งง อยากกลับบ้านเลยวันนั้น (หัวเราะ)”
...
กับโมเมนต์ที่วินขอแต่งงานที่ดิสนีย์เวิล์ดล่ะ วันนั้นมีอะไรให้เอ๊ะมั้ย
“ต้องบอกว่าการมาอเมริกาครั้งนี้เป็นอะไรที่ฉุกละหุกมาก จองตั๋ววันนี้ บินพรุ่งนี้เลย จริงๆแล้ววินเขามาทำงาน เพราะเปิดบริษัทเอเจนซีดูแลนักกีฬา แต่เกิดแอ็กซิเดนต์ พายุเข้า ทำให้ทัวร์นาเมนต์ยกเลิก เขาเลยว่างประมาณอาทิตย์นึง เลยอยากให้เบลล์บินตามมา อยากให้มาเที่ยวด้วยกัน จองตั๋วให้บินตามมาเลย ปุ๊บปั๊บรับโชคมากค่ะ”
เขาวางแผนไว้แล้วที่จะขอเซอร์ไพรส์
“เท่าที่คุยกิ๊ฟซี่ ก็เล่าว่าจริงๆวินตั้งใจจะขอตั้งแต่ปีที่แล้วแต่ว่าด้วยโควิด วีซ่าทำไม่ได้ ไม่มีคิว เลยต้องเลื่อนมาปีนี้ ตอนแรกคิดว่าน่าจะเปลี่ยนแผนไปแล้วไม่น่ามาขอที่ดิสนีย์เวิลด์ กิ๊ฟร่วมขบวนการ เขาเคยพูดเกริ่นๆบ้าง ด้วยความที่เราเจ็บมาเยอะ เราเลยคิดว่าไม่อยากไปตั้งความหวัง แต่ทำวันนี้ อยู่กับวันนี้ให้มีความสุข ดูแลความรักให้ดี ไม่ได้มองข้างหน้าแต่งไม่แต่งดีกว่า เราเคยตั้งความหวังแล้วเจ็บ เราเลยไม่อยากเป็นแบบนั้นแล้ว ถามถูกหลอกไปดิสนีย์ได้ยังไง ไม่ ไม่ได้ถูกหลอก ตั้งใจเต็มใจไป เบลล์ชอบ จะคุยกับเขาตลอดว่าถ้ามา ตอนที่เขาอยู่อเมริกา เมืองออร์ลันโด เขาอยู่มา 15 ปี เขาจะรู้ว่าดิสนีย์ที่นี่ใหญ่มาก มีหลายธีมพาร์กมาก แล้วพลุก็สวยมาก เขาบอกต้องมาที่นี่ เพราะเขารู้เบลล์ชอบดิสนีย์มาก
พอมาถึงปุ๊บวันแรกไปเที่ยวดิสนีย์เลยนะ เราดีใจมาก เตรียมชุดตามสไตล์ผู้หญิง ไปถึงดึกแล้วได้นอนตีหนึ่ง ตื่นมาต้องไปถึงดิสนีย์ 9 โมงกว่าเจ็ตแล็กอีก แต่เราตั้งใจที่จะไป ช่วงเวลาที่เขาขอแต่งงาน จะเป็นช่วง 2 ทุ่มครึ่ง หลังพลุจบเสร็จเขาชวนเดินไปถ่ายรูปหน้าปราสาท ก็งงทำไมต้องไปถ่ายหน้าปราสาท กลับเลยมั้ย? เพราะคนเยอะมาก กว่าจะออกจากที่นี่ได้ต้องนั่งเรือ มันเป็นเกาะ เขาบอกไม่เอาไปถ่ายก่อน อยากถ่ายรูปที่ปราสาทมีไฟสวยๆ ซึ่งไม่ใช่เขาเลย จนเดินไปอยู่แถวหน้าปราสาท แล้วมีคนนึงที่เป็นช่างกล้องที่อยู่ตรงนี้แป๊บนึงนะคะ เขาพูดกับเบลล์ มุมสวยมุมได้ ถ่ายรูปเป็นเมมโมรีหน่อย ความขำคือตอนที่ถ่ายรูปแอ็กไปแอ็กมาเหมือนเขามาพูดอะไรสักอย่างที่ข้างๆหูเรา อยู่ด้วยกันมามีความสุขมากเลยนะคะ อุ้ยอะไรอะ ปล่อยเขาพูดไปเพราะพูดไม่จบเพราะช่างภาพมีการขอให้แอ็กท่าโน้นท่านี้หน่อย เอาหลังชนกัน เอาจริงๆ ไม่รู้เขาพูดอะไรบ้าง (หัวเราะ) จนช่างภาพเริ่มเงียบ เขาเลยพูดขึ้นมาอีกว่า “เราอยู่ด้วยกันมีความสุขใช่มั้ย?”
หลังจากนั้นเขาก็เริ่มคุกเข่า เขาพูดขึ้นมาว่า รู้ใช่ไหมว่ามีความสุขมาก โอเค เข้าใจแล้วมาทรงนี้แต่เราก็ยังไม่ค่อยแน่ใจ กองเชียร์ที่อยู่ข้างๆที่เป็นฝรั่งใดๆทั้งหลาย เริ่มกรี๊ดๆๆๆๆ หลังจากนั้นหูดับแล้ว พอสวมแหวน คอนเกรททูเลชัน ทุกคนอยู่ตรงนั้นหันมาปรบมือๆ ฮิ้วๆๆ ขำมาก แต่เราหูดับ ไปแล้ว ความแปลกก็คือวินต่อแถวถ่ายรูป วินหันไปถามว่ายูช่วยถ่ายรูปให้ไอหน่อยได้มั้ย เขามาเล่าให้ฟังทีหลัง ไอจะขอแฟนแต่งงาน เขาบอกว่าเขาเยสๆ โอเคๆ แต่หลังจากที่เขาถ่ายรูปเสร็จปุ๊บ เขาก็บอกว่าเพิ่งขอแฟนแต่งงานเมื่อ 10นาทีที่แล้วเหมือนกัน กลายเป็นว่าเราไปขอคนที่เพิ่งขอแฟนแต่งงานเหมือนกันมาถ่ายรูปให้เรา ส่วนแหวนหลวมมาก เบลล์ก็ถามเขาว่ารู้ไซส์ได้ยังไง เขาบอกว่าก็ไปถามกิ๊ฟซี่ไง สรุปแหวนหลวมจ้าเพราะส่งไซส์ผิด เป็นแหวนบิวตี้แอนด์เดอะบีท เขาบอกว่าตัวเค้าเป็นคนที่ไม่ได้เชื่อในความรัก แต่ว่าพอมาเจอเราทำให้เขารู้ว่าเขาสามารถอยู่กับใครสักคนนึงได้ เขาเลยบอกว่าเขาเหมือนเดอะบีท เจ้าชายอสูร”
...
แพลนแต่งปีนี้เลยมั้ย
“ไม่ค่ะ น่าจะปีหน้า ปีนี้ไม่ไหวเร็วไปเตรียมตัวไม่ทัน หลังจากนี้กลับเมืองไทยค่อยกลับไปคุยกับผู้ใหญ่ ดูว่าเรายังไงต่อ ใครจะดูเรื่องไหน รายละเอียดค่อนข้างเยอะ แต่เริ่มมีสายโทร.มาต้องจองอันนั้นอันนี้นะ ความคิดคงกรุงเทพฯ มีผู้ใหญ่เยอะ”
ย้อนถามวินกับเบลล์เจอกันได้ยังไง
“จริงๆเป็นเพื่อนตั้งแต่สมัยมัธยมปลาย เรียนด้วยกันตั้งแต่ ม.4 แล้วหลังจากนั้นเขาแยกไปเรียนที่อเมริกา เบลล์เรียนเมืองไทย ทำงานไป แยกกัน ช่วง ม.6 วันนึงเขาทักมาทางไอจี อ้าวคนนี้เพื่อนเราจำเค้าได้ ก็เริ่มคุยกัน สุดท้ายนัดเจอกัน ไม่อย่างนั้นยาก ถ้าไม่ใช่เพื่อนมาก่อนคงลำบาก”
...
ก่อนหน้าเบลล์ไม่เปิดโอกาสให้ใครง่ายๆ ด้วยเปล่าโสดมาตั้งนาน
“เหมือนเปิดโอกาสแต่มีความเอ๊ะ ถ้าเราไม่ได้เจอมาก่อนจะเอ๊ะเยอะมาก เพราะเบลล์กลัว เจ็บมาเยอะมาก”
อะไรเปลี่ยนจากเพื่อนเป็นแฟนคบกัน
“เบลล์ว่าเป็นเค้าคนที่เราคุยภาษาเดียวกัน มีความชอบอะไรที่คล้ายๆกัน อยู่ด้วยกันเป็นคนสบายๆง่ายๆเป็นคนเรียกว่าไม่จู้จี้จุกจิกและมีสเปซให้กัน เขามีสเปซให้เรา เรามีสเปซให้เค้า เรื่องนี้ตั้งแต่แรกๆที่ลองคุยกันคบกันเลยรู้สึกสบาย มันเบา พอโตขึ้นเอนจอยรอบตัวขึ้น ความรักทำให้เราดูคนมากขึ้นเหมือนกันค่ะ”.