- เปิดเรตติ้ง Dare To Love ให้รักพิพากษา
- ตัวเลขเรตติ้งยังไม่มา แต่ยอดวิวออนไลน์กระฉูด!
- กองทัพ พีค-เบลล่า ทีมนักแสดงแบกละคร
เรียกได้ว่าเป็นละครแห่งความหวังของ เรตต้ิงละคร และกระแสของ ช่อง 3 ในช่วงสถานการณ์แบบนี้เลย สำหรับ Dare To Love ให้รักพิพากษา
และความน่าสนใจที่เพิ่มขึ้น ก็คือละครเรื่องนี้ช่อง 3 ขายลิขสิทธิ์ให้ Netflix ไปฉายแบบ DOB (Date-Of-Broadcast) หรือการออนแอร์ใน Netflix แบบวันต่อวันพร้อมกันกับที่ฉายที่เมืองไทยเหมือนที่คนไทยดูซีรีส์เกาหลี
จริงๆ เรื่องนี้เป็นที่น่าจับตาตั้งแต่เปิดตัวว่าจะทำแล้ว เพราะตอนนั้นนางเอก เบลล่า ราณี ที่โด่งดังสุดๆ จาก บุพเพสันนิวาส ถูกวางตัวให้ดันพระเอกน้องใหม่ กองทัพ พีค ลูกชายของนักแสดงชื่อดัง ปราบ ยุทธพิชัย ที่กำลังพีคสมชื่อกับการเป็นหนุ่มไทยคนเดียวที่เข้าแข่งขันไอดอลในรายการ Produce X 101 ที่เกาหลี
ทำให้ Dare To Love ให้รักพิพากษา จากค่ายชลลัมพี โปรดักชั่น ถูกจับตามองตั้งแต่วางตัวนักแสดง จนถ่ายโปสเตอร์ จนเปิดกล้อง
...
ออกตัวดี Feminism ชูโรง ก่อนทิ้งไว้กลางทาง
หลังจากออนแอร์ไปได้สักพัก Dare To Love ออกตัวได้อย่างน่าสนใจ เพราะละครมีแกนเส้นเรื่องแนวอาชีพ เรื่องราวเกี่ยวกับอาชีพทนาย
Dare To Love ให้รักพิพากษา เริ่ม EP แรกๆ เห็นกลิ่นของความเป็น เฟมินิสม์ (Feminism) เล่าเรื่องความเท่าเทียมกันของผู้หญิงกับผู้ชายในหลายๆ ด้าน
โดยเฉพาะความยากลำบากของผู้หญิงในสายอาชีพทนาย ที่โดนดูถูกจากผู้ชาย ผ่านกลุ่มทนายชายในบริษัท ละครทำให้เห็นถึงศักยภาพของเพศหญิงในอาชีพทนาย ทั้ง ทิชา และ คามิเลีย ต่างทำได้ดีกว่าทนายเพศชาย แต่พวกเขาก็ยังพยายามดูถูกและใช้คำพูดทางเพศเป็นการกดเหยียดพวกเธอในทุกครั้งที่มีโอกาส
รวมถึงปูมหลังของทนายทิชา นางเอกของเรื่องที่เธอทุ่มเททำงานหนักเพราะหวังลบคำสบประมาทของอัยการอดีตแฟนหนุ่มที่กดเธอไว้ในลักษณะชายเป็นใหญ่
เห็นการพยายามใส่ประเด็นนี้อย่างหนักหน่วงในช่วงแรก แต่สุดท้ายดูเหมือนประเด็นนี้ถูกทิ้งไว้กลางทางไปเสียอย่างนั้น กลายเป็นให้น้ำหนักเรื่องรักกุ๊กกิ๊กลูกกวาด หญิงไล่ตามชาย ชายไล่ตามหญิงเสียมากกว่า เรื่อง Feminism ดูเบาลงจนหายไปเลย (แต่ EP ที่เหลือต่อจากนี้อาจจะกลับมาชูเรื่องนี้ก็ได้)
เส้นเรื่องอาชีพทนายมาดีแต่กลับเบาหวิว
การชูภาพความเป็นละครที่ใช้อาชีพทนายเป็นแกนเรื่องของ Dare To Love ให้รักพิพากษา เราหวังจะได้เห็นเรื่องราวการว่าความสนุกๆ ได้เห็นการขบเหลี่ยมเฉือนคมด้วยตัวบทกฎหมายแบบเฉียบๆ แต่สุดท้ายพาร์ตนี้กลับเบาหวิว เห็นแต่ความคอเมดี้ของบรรดาลูกความและทีมทนายที่ละครพยายามใส่เข้ามา
จุดนี้หากมองในความเป็นละครโรแมนติกคอเมดี้ Dare To Love ให้รักพิพากษา ต้องถือว่าประสบความสำเร็จ เพราะดูเพลินๆ เบาสมอง ฟินกับความกุ๊กกิ๊กของพาร์ตความรัก เรื่องความฮาก็เอาอยู่ ได้ขำกันในช่วงเวลายากลำบากตอนนี้ของคนไทย
...
แต่อดเสียดายไม่ได้ ทั้งภาพ โปรดักชั่น ฝีมือของนักแสดงดีในระดับดีมาก รวมถึงโอกาสในการเข้าไปฉายแบบ DOB (Date-Of-Broadcast) ใน Netflix ถ้าบททำได้ดีกว่านี้ตลาดละครไทยในต่างประเทศอาจสว่างวาบๆ ขึ้นมาทันที
(ต่อไปนี้คือสปอยล์ !!!)
ฉากหนึ่งที่ดูด้วยความลุ้นอยากเห็นละครไทยไปถึงจุดซีรีส์เกาหลีบ้าง เป็นเรื่องราวตอนที่ลูกความของทนายทิชา (เบลล่า) ที่ขึ้นศาลฟ้องชู้ แต่เรื่องราวกลับพลิกผัน เมื่อลูกความของเธอเพิ่งเปิดเผยว่าฝ่ายชู้มีทะเบียนสมรส
งานนี้ทนายต้องกุมขมับ เพราะทะเบียนสมรสคือกระดาษที่มีค่าทางกฎหมายมาก กระดาษใบนี้พลิกเกมให้ฝ่ายชู้ ลูกความของทนายทิชาไม่มีทางชนะชู้ได้เลยเพราะอีกฝ่ายมีทะเบียนสมรส ทนายทิชามืดแปดด้านอาจถูกทนายฝั่งตรงข้ามแก้เกมว่าลูกความตนเป็นชู้เสียเอง
...
นั่งดูตอนนี้ในฐานะคนดูด้วยความลุ้นว่า ทนายทิชา จะแก้เกมยังไง ในใจตบเข่าฉาดว่ามันต้องอย่างนี้สิวะละครไทย! รอดูว่าละครจะใช้แง่ไหนในกฎหมายมาพลิกเกมให้ชนะได้ เหมือนได้ดู Law School ซีรีส์เกาหลีแน่ๆ ดีใจน้ำตาจะไหลละครไทยไปถึงขั้นนี้แล้ว
แต่สุดท้ายเหมือนตัวบทหาทางออกด้วยกฎหมายไม่ได้ เลยเลือกใช้วิธีเดิมๆ ของละครไทย โดยให้ตัวละครสามีกับชู้ ลุกขึ้นชี้หน้าแฉกันในศาล หลังทนายทิชาเอาหลักฐานชู้ไปผ่าตัดมดลูกมาเปิด ฝ่ายสามีเลยลุกขึ้นมาชี้หน้าชู้กลางศาลและตะโกน เธอหลอกฉันว่าเธอท้อง! ฉันเลยจดทะเบียนสมรสกับเธอ สุดท้ายทุกอย่างจบ ทนายทิชา ชนะคดี!
ดูแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ ทุกอย่างช่างเบาหวิวเหลือเกิน ละครเล่นใหญ่กับคดีนี้มาหลายตอน เพื่อปูทางให้เห็นความสามารถในการแก้เกมของทนายทิชา คนดูหวังจะได้ดูทางออกเฉียบๆ เรียลๆ
แต่สุดท้ายหาทางออกไม่เจอเลยแลนดิ้งง่ายๆ ด้วยการให้ตัวละครชี้หน้าแฉกันเองหลังเห็นหลักฐานแค่เอกสารผ่าตัดมดลูก ตอนดูก็ยังเอาวะเอกสารนี้อาจจะแก้เกมได้ รอฝั่งทนายทิชาฟาดๆ แต่กลายเป็นว่าอยู่ๆ ก็ลุกขึ้นชี้หน้าด่ากันดื้อๆ มันกลางศาลนั่นละ! บทสรุปมันดูละค๊รละครไทยเหมือนเดิม
...
กองทัพ พีค-อู๋ ธนากร กับการแสดงขั้นเทพ
ทั้งหมดทั้งมวล ให้รักพิพากษา Dare To Love ต้องยกความดีความชอบให้ทีมนักแสดง ที่แบกละครกันเอาไว้ทุกคน ทีมนักแสดงรับส่งกันได้ดี ทั้งฮา ทั้งดราม่า ซีนอารมณ์ ซีนคอเมดี้ ทำได้ยอดเยี่ยม
อาจจะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าบางตัวละครแอ็กติ้งล้นเกินไป แต่เป็นเรื่องเข้าใจได้กับความต้องการขยี้คอเมดี้ของผู้กำกับ ความโบ๊ะบ๊ะรับมุกแบบเล่นใหญ่เห็นได้ชัดเป็นเรื่องจำเป็น
การแสดงของนางเอก เบลล่า ทำได้ดีตามมาตรฐาน คนอาจจะมองล้น แต่มองว่า เบลล่า รับมือกับบททิชา ได้ดีทั้งความคอเมดี้และซีนอารมณ์ ซีนตลกของ เบลล่า กำลังพอดีดูแล้วไม่ฝืน ไม่ยัดเยียดความตลก ไม่พยายามเป็นนางเอกเกาหลีโก๊ะๆ เช่นเดียวกับ พิงกี้ สาวิกา ที่เราเห็นเธอทำได้ยอดเยี่ยมกับบท คามิเลีย ความโก๊ะที่อยู่ในสาวเป๊ะ บ้างาน จริงจัง เด็ดขาด แต่ก็แพ้ทางผู้ชายที่ตัวเองชอบ
และที่ต้องขอชื่นชมจริงๆ คือ 2 หนุ่ม 2 รุ่น อู๋ ธนากร และ กองทัพ พีค คนแรก อู๋ ธนากร ไม่ต้องพูดอะไรกันมากชื่อชั้นการันตีความสามารถ
ชอบความละเอียดของ อู๋ ธนากร ในการดีไซน์การแสดงเป็น บอสเบน ผู้ชายที่ดูอบอุ่น แต่ก็แฝงความน้ำนิ่งไหลลึก อ่านยาก สมภารจ้องกินไก่วัด สายตาที่ อู๋ ธนากร ใช้ในบท บอสเบน เฉียบขาด เวลาใจดีดูอ่อนโยน แต่เวลา บอสเบน โกรธ สายตาและน้ำเสียงที่ อู๋ ธนากร ใช้สุดจริง ขนาดนั่งดูอยู่ที่บ้านยังรู้สึกกลัวตามตัวละครอื่นๆ เวลาโดน บอสเบน ด่า
ส่วนหนุ่มน้อยพระเอกใหม่ กองทัพ พีค คนนี้ต้องปรบมือเลย แสดงได้ดีมากในบท คิว หนุ่มรุ่นน้องที่แอบชอบรุ่นพี่ ตัวเองเป็นแค่ทนายฝึกตั๋วแต่หวังเด็ดดอกฟ้าแข่งกับผู้บริหารใหญ่ของ Law Firm
เราเห็นสายตาเจียมตัวชัดเจนที่ กองทัพ พีค ส่งออกมาในบทคิว ขณะที่จังหวะคอเมดี้ก็ทำได้ดีมากจริงๆ ไม่ประดิษฐ์ ไม่ฝืน พีค เล่นได้จังหวะดี เก็บทุกมุก ลูกกระตุก ลูกสะดุ้ง เนียนมาก น้อยครั้งที่จะเห็นพระเอกไทยเล่นบทอย่างนี้ได้แบบพอดีๆ จับต้องได้ ไม่โอเวอร์แอ็กติ้ง ไม่ออดอ้อนจนเลี่ยน
พีค เหมือนไม่ใช่พระเอกที่เล่นละครเต็มตัวเรื่องแรก ถือเป็นพระเอกอนาคตไกลทีเดียว ช่อง 3 อาจจะต้องจับมาปรับลุคอะไรอีกนิดหน่อย แต่เรื่องฝีมือบอกเลยว่ารอดูบทหนักๆ กว่านี้ของ กองทัพ พีค เลยละพระเอกคนนี้น่าจะมีของมาโชว์ให้เราดูอีกเยอะ
เรตติ้งนิ่งๆ แต่ยอดวิวออนไลน์กระฉูด
หันมาดูเรตติ้งขณะนี้ของ Dare To Love ให้รักพิพากษา ก็ต้องบอกว่ากำลังมา เรตติ้งอาจจะเรื่อยๆ มาเรียงๆ แต่ก็ดีขึ้นแบบอยู่ตัวในทุกสัปดาห์
- 8 ก.ค. EP1 2.6
- 14 ก.ค. EP2 2.6
- 15 ก.ค. EP3 2.6
- 21 ก.ค. EP4 2.9
- 22 ก.ค. EP5 2.8
- 28 ก.ค. EP6 3.2
- 29 ก.ค. EP7 3.2
- 4 ส.ค. EP8 3.2
- 5 ส.ค. EP9 3.2
ส่วนหนึ่งที่เรตติ้งไม่ดีขึ้นแบบก้าวกระโดด อาจเพราะคนไปดูในออนไลน์กันเสียเยอะเพราะยอดวิวในออนไลน์ใน CH3 Plus พุ่งกระฉูดระเบิดเถิดเทิง ยอดวิวรวมตั้งแต่ออนแอร์มาอยู่ที่ 33 ล้านวิว!! และติดอันดับ 1ใน Netflix ไทยแลนด์ 3 สัปดาห์
ลองดูกันต่อไปว่าอีก 7 EP ก่อนอวสาน Dare To Love จะจุดกระแสให้ติดลมบนให้มากกว่านี้หรือไม่ เพราะเราเห็นความพยายามของช่อง 3 ที่ดันกระแสกันทุกทาง
พูดแล้วก็เสียดายจริงๆ ละครไทยนักแสดงดีแล้ว ภาพสวย โปรดักชั่นดี คอสตูมไม่หลอกตาแล้วเชียว แต่สุดท้ายก็ยังมาสะดุดที่เดิม คือบท บท บท และก็บท
งานนี้ก็ไม่รู้ว่าบทเขียนมาแบบนี้ หรือทางช่องเองที่เจาะจงอยากให้บทเป็นแบบนี้เพราะยังมีความเชื่อเดิมว่าคนไทยชอบดูอะไรง่ายๆ ไม่หนักเกินไป.
เรื่อง : ดินสอเขียนฟ้า
กราฟิก : Varanya Phae-araya