ปิดตำนานลงแล้ว สำหรับ The Mask Singer ที่เคยสร้างปรากฏการณ์ครั้งใหญ่ในวงการจอแก้ว เป็นรายการวาไรตี้ที่เคยทำเรตติ้งสูงกว่าละครหลังข่าว ตอนนี้เหลือเพียงหยุดทุกอย่างไว้ที่ 3 ปีกว่าๆ ที่สร้างสีสันให้จอแก้ว
จุดเริ่มต้นของ The Mask Singer จริงๆ ต้องบอกว่าช่องเวิร์คพอยท์ไม่ได้เล็งที่จะซื้อมาแต่แรก เป้าหมายหลักคือ I Can See Your Voice จึงตัดสินใจกันอยู่นานว่าจะซื้อมาจากเกาหลีดีหรือเปล่า แต่สุดท้ายเมื่อได้มาแล้วก็ต้องทำให้ดีที่สุด และเซอร์ไพรส์ก็เกิดขึ้น เมื่อซีชั่นแรกกลับสร้างปรากฏการณ์ดังไม่หยุดฉุดไม่อยู่ เรตติ้งสูงเป็นประวัติการณ์ พาหุ้นของเวิร์คพอยท์พุ่งแบบนักลงทุนต้องช้อนซื้อกันยกใหญ่
The Mask Singer พีคสะเทือนวงการทีวีดิจิทัล
ความพีคของรายการสร้างชื่อให้กับศิลปิน นักแสดงหลายคน ไม่ว่าจะเป็น เป๊ก ผลิตโชค ที่พูดได้อย่างเต็มปากว่าเขากลับมายืนเป็นซุป'ตาร์แถวหน้าของเมืองไทยได้เพราะ “หน้ากากจิงโจ้” เลยจริงๆ หรือจะเป็น ซาร่า นลิน โฮเลอร์ ที่แจ้งเกิดจากความมุกแป้กนั่งเป็นกรรมการในรายการจน ซาร่า กลับมามีงานในวงการบันเทิงชุกอีกครั้ง
...
รวมถึง กันต์ กันตถาวร ที่พุ่งขึ้นมาเป็นพิธีกรอันดับต้นๆ ของเมืองไทยเพราะลีลาในการเป็นพิธีกร The Mask Singer ที่เล่าลือกันว่าตอนนี้ กันต์ เป็นพิธีกร 1 เทปค่าตัว 300,000 บาท!!
ทอม ROOM39 “หน้ากากทุเรียน” แชมป์ซีชั่นแรกก็ได้โด่งดังแบบสุดขีดจากรายการนี้ก่อนจะมีเรื่องราวต่างๆ ตามมามากมายจนสุดท้ายเพราะความพีคของหน้ากากทุเรียน ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้วง ROOM39 เดินทางมาถึงทางตันและต้องแยกย้ายในที่สุด รวมถึงการที่รายการทำให้เพลงต่างๆ เป็นที่นิยมอีกครั้งโดยเฉพาะ ตราบธุลีดิน และมือปืน ฯลฯ
ความสำเร็จของ The Mask Singer หรือในชื่อไทย หน้ากากนักร้อง นอกจากต้องยกความดีความชอบให้กับความอลังการ ของแสง สี เสียง คอสตูมหน้ากากของนักร้องแต่ละคนแล้ว
ต้องยอมรับว่าการตีโจทย์จุดขายของรายการได้แหลกละเอียด จนเข้าไปนั่งอยู่ในใจคนดูได้ทันทีที่ออกอากาศซีชั่นแรก ก็คือการเล่นกับ “ความอยากรู้อยากเห็น” ของคนไทย การเก็บความลับชนิดที่ไม่มีใครแพร่งพรายทำให้เกิดการคาดเดากันไปต่างๆ นานาว่าใครคือนักร้องภายใต้หน้ากากคนนั้น ซึ่งแน่นอนอะไรที่มันลับต้องขุดแคะแงะงัดหาความจริงออกมา มันถูกจริตคนไทยอยู่แล้ว
อีกอย่างที่สำคัญคือการโชว์ร้องเพลงระดับสุดยอดของนักร้องในหน้ากากที่สุดยอดชนิดที่แต่ละคลิป เวิร์คพอยท์ สามารถทำเงินได้จากยอดวิวใน youtube ได้อีกนาน รวมถึงมุกโบ๊ะบ๊ะที่กำลังพอดีของกรรมการที่ต้องหาให้ได้ว่าใครคือศิลปินภายใต้หน้ากาก
ความโด่งดังของหน้ากากนักร้องในซีซั่นแรกทำให้สปอนเซอร์ซื้อโฆษณายาวกันแบบข้ามซีชั่น จนเวิร์คพอยท์เลือกตีเหล็กตอนร้อน ทำต่อๆ กันมาเพื่อให้คงกระแสได้ต่อไปและต่อไป แต่ทุกอย่างกลับไม่เป็นอย่างนั้น มันเกิดอะไรขึ้น?
ซีชั่นแรกเป็นตำนาน ก่อนที่ทุกอย่างจะเฟดลง
ความสำเร็จอย่างมากมายของ The Mask Singer กลับไม่สามารถส่งต่อมาถึงซีชั่นอื่นๆ ได้ โดยเฉพาะตั้งแต่ซีชั่น 2 เป็นต้นไป เพราะต้องยอมรับว่าความแปลกใหม่ของรายการ กลายเป็นไม่น่าตื่นเต้นไปเสียเฉยๆ สำหรับคนไทย
และยิ่งมีหลายซีชั่นเข้าก็ดูกลายเป็นน่าเบื่อไม่น่าติดตามอีกแล้ว ซึ่งปัจจัยหลักที่เรตติ้งลดลงในทุกซีชั่น จากการซาวนด์เสียงผู้ชม พบว่าที่ไม่ค่อยดู The Mask Singer แล้วหลังซีชั่นแรก เพราะโชว์ไม่สนุก รายการไปยืดให้แอร์ไทม์กับการเล่นมุกของกรรมการจนได้ดูโชว์ของนักร้องในหน้ากากน้อย รวมถึงเพลงและศิลปินที่เลือกมาแข่งขันยังไม่ดึงดูดพอ
หากมองดูที่เรตติ้งแต่ละซีชั่นก็คงมองออกได้ไม่ยากว่า แต่ละซีชั่นเหมือนเคาต์ดาวน์รอเพียงเวลาลาจอเท่านั้น
...
ซีชั่น 1 เฉลี่ย 6.5 สูงสุด 13.8
ซีชั่น 2 เฉลี่ย 7.3 สูงสุด 9.4
ซีชั่น 3 เฉลี่ย 3.7 สูงสุด 4.4
ซีชั่น 4 เฉลี่ย 2.4 สูงสุด 2.4
โปรเจกต์ A เฉลี่ย 2.4 สูงสุด 2.9
Line Thai เฉลี่ย 2.9 สูงสุด 3.9
วรรณคดีไทย เฉลี่ย 2.4 สูงสุด 2.8
จักรราศี เฉลี่ย 1.91 สูงสุด 2.4
งานวัด เฉลี่ย 1.80 สูงสุด 2.2
ลูกไทย เรตติ้งเฉลี่ยอยู่ประมาณ 1.4
โดยซีชั่นแรกมีเรตติ้งเฉลี่ยอยู่ที่ 6.5 เคยได้สูงสุดอยู่ที่ 13.8 กันเลยทีเดียว แม้เรตติ้งของซีชั่น 2 จะมีค่าเฉลี่ยมากกว่าที่ 7.3 แต่ความพีคของเรตติ้งสูงสุดยังเป็นรองซีชั่นแรกอยู่ 9.4 จากนั้นซีชั่นที่เหลือก็ลดลงเรื่อยๆ
จน 3 ซีชั่นสุดท้าย จักรราศี, งานวัด, ลูกไทย เฉลี่ยเรตติ้งแตะแค่ 1 และลูกไทยซีชั่นสุดท้ายอยู่แค่ 1 ต้น ซึ่งตามหลักของช่องทีวีแล้วเมื่อเรตติ้งถอยหลังลงคลอง ถึงจุดอิ่มตัว ก็จำเป็นต้องหารายการใหม่มากู้สถานการณ์ดึงดูดใจผู้ชม
ซึ่งดูจากรายการใหม่ ร้องข้ามกำแพง The Wall Song ก็ยังคงเล่นกับความอยากรู้อยากเห็นของคน ว่านักร้องหลังกำแพงคือใคร เวิร์คพอยท์ เลือกเล่นกับจุดขายเดิม แต่เปลี่ยนรูปแบบการนำเสนอ เสิร์ฟสิ่งใหม่ให้คนดูได้ตื่นเต้น ก็คงต้องรอติดตามกันไปว่าจะปังหรือจะแป้ก
...
แต่ไม่ว่าอย่างไร การลาจอของหน้ากากนักร้อง ก็ถือเป็นธรรมดาโลก ทุกอย่างไม่มีอะไรจีรัง ใดๆ ล้วนมีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป
แม้วันนี้จะต้องลาจอไป แต่ทุกคนคงต้องจดจำ The Mask Singer ในตำนานบทหนึ่งของวงการโทรทัศน์ไทยถึงความสำเร็จที่สั่นสะเทือนจอแก้วแบบไม่เคยมีมาก่อน และเรื่องราวของ The Mask Singer ยังเป็นการบอกความจริงอย่างหนึ่งในวงการทีวีไทย ว่าคนดูไทยเป็นอะไรที่จับทางยากสุด! วันนี้เคยชอบ พรุ่งนี้ก็เบื่อได้แบบน่าเหลือเชื่อ.
ผู้เขียน : ดินสอเขียนฟ้า
กราฟิก : Varanya Phae-araya