ร่วมงานครั้งแรกกับค่ายโคลิเซี่ยม พระเอกหน้าเด็ก อ๊อฟ–ชนะพล สัตยา เลยฟิตร่างกายจนหลายคนทักว่าหุ่นผอมลงรึเปล่า หรือว่าฟิตเตรียมถ่ายพรีเวดดิ้งเป็นว่าที่เจ้าบ่าว เพราะแววว่าใกล้จะมีข่าวดีกับ ลูกพีช–ศศิยา แฟนสาวนอกวงการที่คบหามา 10 ปี อ๊อฟ เผยในวันบวงสรวงละครเรื่อง “เผาขน” ณ บริษัทโคลีเซี่ยม อินเตอร์กรุ๊ป

เริ่มจากผอมลงมั้ย?

“จริงๆแล้วผอมด้วยการทำงาน เพราะผมถ่ายละครบู๊อยู่เรื่องทางเสือผ่าน ใกล้ปิดกล้องแล้ว ก็ต่อเนื่องเลยเพราะเราต้องฟิตร่างกายเพื่อที่จะมาบู๊ต่อในเรื่องนี้ ก็ได้คุยกับทางผู้กำกับว่าเค้าอยากจะให้มีความแปลกใหม่ไปจากที่เคยทำมา ก็ได้มาร่วมงานกันครั้งแรกกับโคลีเซี่ยม ก็ถือว่าเป็นโอกาสดี”

ฉากบู๊ยุค new normal มันจะต้องเป็นยังไง?

“ณ เวลานี้นะครับ จากที่เคยเตะต่อยระยะประชิดก็กลายมาเป็นการบู๊แบบใช้อาวุธปืน ก็จะวิ่งไล่ล่ายิงกันซะส่วนใหญ่ ก็เว้นระยะห่างครับ ส่วนการบู๊แบบเตะต่อยกันก็จะมีบ้าง แต่น้อยลง”

ผอมลงกี่กิโล?

“จาก 73 เหลือ 67 ครับ ผมว่าการผอมน่ะง่าย คือผมเป็นคนออกกำลังกายอยู่แล้ว เล่นกีฬาอยู่แล้ว ซึ่งในช่วงจังหวะที่เราได้พักไป 2 เดือน เรากินเยอะ แล้วไม่ได้ทำงานอะไรเลย พอจะเริ่มทำงานก็มีการเตรียมตัวคือกลับมาวิ่ง ออกกำลังกาย ซื้อลู่วิ่งมาวิ่งที่บ้าน กำหนดตัวเองว่าต้องทำให้ได้วันละ 5 กิโลถ้าเราว่าง”

ผอมแล้วหน้าเปลี่ยนเลย?

“ดีขึ้นมั้ยครับ (ยิ้ม) จริงๆเราเป็นคนที่มีเบบี้แฟตเรื่องรูปหน้าอยู่แล้ว ซึ่งทุกคนจะทักว่าเราดูเด็กตลอดเวลา แต่จริงๆแล้วความตั้งใจของผมไม่ได้มองเรื่องจะต้องดูเด็ก แค่ผมเป็นคนชอบออกกำลังกาย ตั้งแต่เริ่มกลับมาถ่ายละครพี่ๆในกองถ่ายก็บอกว่าดูดีขึ้น ดูโตขึ้น มีเชพช่วงหน้าดูดีขึ้น เค้าเลยอยากให้เราคงตรงนี้ไว้”

...

แสดงว่าเราไม่คิดจะไปพึ่งหมอใช่มั้ย?

“ไม่หรอกครับ เรื่องการดูแลหน้าเนี่ยผมจะเอาเรื่องการออกกำลังกายเป็นหลัก เรื่องการพึ่งหมอ เรื่องฉีดโบทอกซ์ ถามว่าจำเป็นมั้ยด้วย วัยของเรา ก็จำเป็น แต่ผมจะเลือกเป็นสิ่งสุดท้าย แต่ถ้าต้องเร่งรัดก็อาจจะต้องพึ่งหมอครับ”

ความรักก็แฮปปี้ ลดหุ่นเพื่อเตรียมถ่ายพรีเวดดิ้งด้วยหรือเปล่า?

“จริงๆแล้วเราก็ดูๆแหละว่าความพร้อมถึงระดับไหนแล้ว แต่ว่าไม่ใช่เร็วๆนี้ที่จะมาพรีเวดดิ้งกัน จริงๆปีนี้ผมคุยกับทางผู้ใหญ่ไว้ว่าเราก็พร้อมนะ ก็อยากจะให้ไปสู่ขอให้ถูกต้องตามประเพณีไทย แต่บังเอิญว่ามาติดช่วงโควิด ทางผู้ใหญ่ก็เลยบอกว่าขอขยับไปเป็นปีหน้าแล้วกัน”

ถ้าสู่ขอแล้วฤกษ์ใกล้ๆกันจะแต่งเลยมั้ย?

“ก็ต้องดูความพร้อมทั้งสองฝ่าย แต่ผมอยากจะให้เป็นช่วงปลายปี ซึ่งมันจะเป็นช่วงปลดล็อกเรื่องงานด้วย ตอนนี้น้องเค้าก็มีความสุขในการทำงานของเค้า และเค้าก็โอเคในการที่จะขยับไป คุยกันจริงๆในปีหน้ารวมๆแล้วมันคือความพร้อมของตัวผมเองและตัวน้อง ครอบครัวน้องด้วยครับ”

ก็ครบ 10 ปีพอดี?

“ใช่ น้องก็พูดแบบนั้นเหมือนกันครับว่า 10 ปีแล้ว ก็ไปคุยให้ถูกต้อง ถ้าเกิดฤกษ์ยามหรือผู้ใหญ่โอเคภายในปีหน้า ก็อาจจะเห็นงานมงคลที่ดีครับ (ยิ้ม)”

เตรียมพร้อมจะมีทายาทเลยมั้ย?

“ถ้าถามผมก็พร้อมครับ แต่ด้วยเรื่องงานมันยังไม่มีเวลาขนาดนั้น เพราะผมก็อยากจะมีและดูแลด้วยตัวเองด้วย แต่คุณพ่อคุณแม่เค้าก็อยากเลี้ยงหลานแหละ เพราะอายุเค้าก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ”.