ว่าจะไม่กล่าวอ้างถึงแล้วนะ แต่ดูข่าวบันเทิงทางโทรทัศน์มาหลายครั้งแล้ว อดไม่ได้ที่จะต้องมาทำความเข้าใจกันหน่อย เนื่องจากผู้อ่านหลายท่านก็เห็นคล้อยตรงตามกัน!!

นั่นคือการสัมภาษณ์ดารานักแสดง-นักร้องที่แยกทางกัน ภาษาสื่อใช้ว่า “เตียงหัก” นั่นแหละ

ไม่ปฏิเสธว่า...ข่าวประเภทนี้อยู่ในความสนใจของผู้คนแทบทุกวงการ ไม่เฉพาะวงการบันเทิงฝ่ายเดียว

ใครรักกับใคร? ใครเลิกกับใคร? ใครเป็นมือที่สาม? สารพัดความอยากรู้อยากเห็นที่สื่อจะต้องคุ้ยแคะ ล้วงลึก นำมาเสนอเป็นข่าว ทั้งจากสื่อหลักและสื่อโซเชียล!!

เรื่องของดาราเตียงหักนี่ มันเอนจอยยิ่งนัก คืออาหารโอชะของสื่อมาแต่ไหนแต่ไร ยังไงสื่อก็ต้องซอกแซกหาข้อเท็จจริงและแง่มุมมาละเลงให้เกิดสีสัน เติมความกระสันของผู้ชมได้ละเอียดทุกเม็ดอยู่แล้ว

แต่สังเกตกันบ้างหรือไม่ว่า...ระยะหลัง “ข่าวรักร้าว-เตียงหัก” ของดาราคนดังมักถูกก้าวล่วงเลยเถิดไปถึงคนอื่นๆในครอบครัวด้วย!!

โดยเฉพาะ “ลูก” เด็กผู้บริสุทธิ์ไร้เดียงสา ต้องถูกเอ่ยถึงและตกเป็น “เหยื่อ” ของข่าวประเภทนี้ ตกเป็นขี้ปากของสังคม ถูกตั้งคำถามจากเพื่อนๆ

“พ่อแม่เลิกกันเหรอ? พ่อแม่หย่ากันเหรอ? เห็นออกข่าวใหญ่โต”

ภาพไมค์ทิ่มปาก พร้อมยิงคำถาม “ซ่อนพิษ” อาทิ....ลูกคิดยังไงบ้างที่เห็นพ่อแม่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน? ลูกจะอยู่กับใคร? ใครจะรับภาระเลี้ยงดูลูก?

สื่อไม่เคยเจ็บปวดหรอกกับกรณีนี้ เพราะได้ยอดเรตติ้งพุ่งปรี๊ด ได้ยอดไลค์พุ่งกระฉูด แต่คนเจ็บปวดคือคู่หย่าร้างและลูกน้อยที่พลอยได้รับผลกระทบไปเต็มๆกับการเสนอข่าวแบบนี้

กลายเป็น “ปมด้อย” ที่พวกเขาไม่ได้ก่อขึ้น แต่เกิดจากการกระทำของสื่อที่ไม่รับผิดชอบใดๆ ไม่แม้แต่จะเห็นอกเห็นใจชีวิตน้อยๆที่หมองคล้ำกล้ำกลืนน้ำตา

...

“จรรยาบรรณ” ต้องอ่านหลายๆรอบ!!

แจ๋วริมจอ
jaewrimjor@gmail.com