หลังจากทีวีดิจิทัลปิดตัวลง 7 ช่อง ไทยพีบีเอส เดินหน้าปรับรูปแบบข่าว-รายการ มุ่งขยายฐานผู้ชมบนแพลตฟอร์ม Platform OTT เติมเต็มช่องว่างให้เด็กเยาวชนและครอบครัว พร้อมให้ความสำคัญกับกลุ่มผู้พิการ รศ.ดร.วิลาสินี พิพิธกุล ผู้อำนวยการองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) ได้เผยว่า

“ไทยพีบีเอสได้เร่งทบทวนกลยุทธ์ โดยยังยึดมั่นภารกิจเพื่อสาธารณะภายใต้งบประมาณที่มีอยู่ให้สามารถทำประโยชน์และคุ้มค่าต่อสังคมมากที่สุด มีประเด็นหลักๆ เช่น การพัฒนาศักยภาพบุคลากรให้ทำงานแบบเพิ่มทักษะให้หลากหลายมากขึ้น ต้องสร้างเนื้อหาที่เหมาะแต่คงอยู่บนพื้นฐานของจริยธรรม ความรับผิดชอบ ซึ่งเป็นความแข็งแรงและจุดเด่นของไทยพีบีเอส จากสถานการณ์การคืน 7 ช่องทีวีดิจิทัล มีผลทำให้ช่องเด็กหายไปไทยพีบีเอสในฐานะสื่อสาธารณะให้ความสำคัญกับสื่อเพื่อเด็กและครอบครัวมาโดยตลอด ซึ่งพร้อมที่จะเติมเต็มช่องว่างนี้ เรามีแผนที่จะพัฒนาศูนย์สื่อเพื่อเด็กและครอบครัว เพื่อต่อยอดเนื้อหารายการเด็กให้แข็งแรงขึ้น ทั้งสื่อทางหน้าจอทีวี สื่อออนไลน์ และพื้นที่กิจกรรมการเรียนรู้ ขยายเครือข่ายที่ทำงานด้านเด็ก รวมถึงเกมเมอร์ (Gamer) ที่ผลิตเกมสำหรับเด็ก

นอกจากนั้นเรามีสถาบันวิชาการสื่อสาธารณะ ที่ทำวิจัยติดตามพฤติกรรมการรับสื่อของเด็ก กลุ่มอายุ 3-6 ปี และกลุ่มอายุ 7-11 ปี ทั้งสองกลุ่มนี้ต้องการสื่อที่ตอบสนองพัฒนาการในช่วงวัย ผลการวิจัยพบว่าเด็กวัย 3-6 ปี ยังดูทีวีเป็นอันดับแรก รองลงมาคือการอ่านหนังสือและดูยูทูบ ส่วนเด็กอายุ 7-11 ปี พบว่าใช้สื่อยูทูบมากที่สุด รองลงมาคือโทรทัศน์ ไทยพีบีเอสจึงเชื่อมั่นว่าทุนทางสังคมที่เราสั่งสมมานาน จะทำให้ศูนย์สื่อเพื่อเด็กและครอบครัว เราตั้งเป้าในแต่ละปีว่าจะสร้างผลกำไรอะไรให้กับสังคมได้บ้าง กำไรของเราคือผลประโยชน์ของสังคมที่จะได้รับจากไทยพีบีเอส”.

...