“รสนิยมคนดูละครอาจเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ละครแนวหนึ่งก็เหมาะกับยุคหนึ่ง พอยุคเวลาเปลี่ยน ละครแนวนั้นอาจไม่ได้รับความสนใจอีกต่อไป
เข้ามาถึงยุคนี้ พ.ศ.2562 ความเปลี่ยนแปลงของเนื้อหาละครก็เป็นอีกแบบหนึ่ง จึงอยากให้ผู้จัดละครโปรดเข้าใจความต้องการของผู้ชมด้วยจะขอบคุณมาก
ดิฉันจะบอกว่า....ละครที่เต็มไปด้วยฉากตบตี ทะเลาะวิวาทด้วยคำพูดรุนแรง หยาบกร้าน จิกด่ากันด้วยความสะใจนั้น แทบหมดความหมายไปแล้วสำหรับแฟนละคร
ตัวอย่างง่ายๆ ก็ละคร...ของช่อง...ที่เอาละครแนวนี้มาออกฉาย หวังไว้สูงว่าจะเป็นละครแห่งปี คนพูดถึงกันมากมาย แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น เรียกว่าตกม้าตายทันที
หลายคนเลิกดู เหมือนดิฉันก็ไม่สนใจ เพราะลองทำใจรับสภาพก็แล้ว แต่ก็รับไม่ได้ในที่สุด เป็นเหตุผลที่ต้องเลิกชมเหมือนกัน ทั้งๆที่ชอบผู้จัดและนักแสดงทุกคนในเรื่อง
ละครสไตล์นี้มันเหมาะเมื่อสิบปีที่แล้ว เมื่อสถานการณ์เปลี่ยน จึงกลายเป็นละครหลงยุค ล้าสมัย ไม่ได้ประโลมใจผู้ชมแต่อย่างใด
เนื้อหาซ้ำเดิม ไม่มีความแปลกใหม่ การจะเขียนบทเน้นให้ตัวละครเต็มไปด้วยความอาฆาตริษยา เพื่อผูกโยงไปลงเอยด้วยความสุขนั้น คนดูเขาฝังตรึงอยู่ในสมอง มันเลยขาดความสนุก
ที่ว่าไม่เข้ายุคก็เพราะตรรกะต่างๆมันเปลี่ยนไปแล้ว เราจะถึงยุค 5G อยู่รอมร่อ แต่ถ้ามาถ่างตาชมละครเมื่อสิบยี่สิบปีที่แล้วอยู่ ผู้ชมก็ย่อมเบื่อเป็นธรรมดา
ฝากไว้ในฐานะคอละครและนักอ่านนิยายมานาน ยืนยันว่าละครเก่าก็มีดีอยู่มาก แต่อยากให้ปรับเปลี่ยนไปสู่ความทันสมัย ตัดความหยาบคาย ความรุนแรงออกไปบ้าง ก็น่าชมทีเดียว”.
“ต้นกล้า”
แจ๋วริมจอ
jaewrimjor@gmail.com
...