วิทยุ (Radio) เมื่อก่อนนั้นถือว่าเป็นเดี่ยวมือหนึ่งของผู้เสพสื่อ คนดังหลายๆคนแจ้งเกิดจากการจัดรายการวิทยุ ไต่เต้าจนเป็นเศรษฐี มหาเศรษฐี เป็นนายห้างก็มากหลาย

กาลเวลาผ่านไป เทคโนโลยีพัฒนาแบบก้าวกระโดด นวัตกรรมใหม่ๆ ช่องทางสื่อสารใหม่ๆ ก็ก้าวมาแทนสื่อที่เรียกว่าวิทยุ

จากเดิมพระเอกคือระบบ AM รับฟังได้ทั่วถึง แม้ตามท้องไร่ทุ่งนา เศรษฐีหลายคนสร้างเงินทองจากการเป็นดีเจจัดและขายสินค้าผ่านวิทยุ AM

กระแสพลวัตเลื่อนไหล AM ค่อยๆซาความนิยม หากจะให้ modern ต้องฟังวิทยุ FM เพลงลูกทุ่งที่เคยยึดหัวหาด AM ก็สยายปีกเข้าสู่คลื่น FM อย่างสง่าผ่าเผย

เมื่อ 10-20 ปีที่แล้วถือว่าเป็นยุคทองของคลื่นวิทยุ FM ครับ

นวัตกรรมใหม่ๆยังคงทำงานและผลิตผลออกมาแบบสม่ำเสมอ สถานีวิทยุยังคงอยู่ แต่ลมหายใจค่อนข้างจะรวยริน

ยอดรวมเม็ดเงินโฆษณาที่ซื้อรายการวิทยุ ซึ่งนีลเส็นเจ้าเก่าสำรวจให้ กสทช.นั้น ตัวเลขกลมๆเหลือแค่ 300 กว่าล้านบาทเท่านั้นทั้งระบบ!!

พฤติกรรมของผู้ฟังก็เปลี่ยนไป ส่วนใหญ่ปัจจุบันรับฟังผ่านโทรศัพท์มือถือ ซึ่งแน่นอนย่อมมีผลกระทบกับผู้ลงโฆษณา

เพราะการฟังผ่านสมอลทอล์กนั้น การได้ยินก็ย่อมเป็นปัจเจก

จะลงโฆษณาแล้วมีผู้เปิดเครื่องรับฟังตามบ้านดังไปสามบ้านแปดบ้านเหมือนเก่าก่อน ก็คงหายาก

นี่คือจุดอ่อนหนึ่งในหลายๆจุดที่เอเจนซีนำมาขบคิด

แม้จะเคยทำใจมาก่อนว่าทุกอย่างเป็นอนิจจัง มีการล้มหายตายจาก วิทยุก็คงจะไม่พ้นสัจธรรมข้อนี้ เหมือนสื่ออีกหลายประเภทที่ต้องปรับปรุงปิดตัวตามยุคสมัย...

สรุปได้ชัดเจนว่า แม้นวัตกรรมสำหรับการรับฟัง รับชมเปลี่ยนไป ผู้ผลิตผู้สร้างสรรค์ ก็ล้วนแล้วแต่เป็นนักผลิตรายการจากนวัตกรรมเดิมทั้งสิ้น

เพียงแต่เปลี่ยนช่องทางในการนำเสนอ ให้ดูทันสมัยไฮเทคกว่าเดิมก็แค่นั้น

...

หรือผู้ทำรายการในโลกออนไลน์ทุกวันนี้ จะเถียงว่าไม่จริง?!?

“สันติพงษ์ นาคประดา”

แจ๋วริมจอ