โค้งสุดท้ายคอนเสิร์ต “2 DAYS AGO KIDS โตไปเป็นเด็ก” The First Show on Their Playgroud ที่จะเกิดขึ้นใน วันเสาร์ที่ 16 มี.ค.2567 ณ Bcc hall เซ็นทรัลลาดพร้าว คอนเสิร์ตใหญ่ครบรอบ 24 ปีของวงดนตรีที่กาลเวลาไม่สามารถพรากความสดใส ซุกซนของพวกเค้าไปได้ ทั้ง 5 คน บอย-ตรัย (นักร้องนำ), โป้-ปิยะ (นักร้องนำ), ก้อ-ณฐพล (เบส), อดุลย์ (กีตาร์) และ เจอรี่-ศศิศ (กีตาร์) ฟิตซ้อมจัดเต็มพร้อมแล้วเพื่อให้ทุกคนได้ปลดปล่อยความเป็นเด็กในตัวของคุณด้วยเพลงที่ทุกคนคุ้นเคยจาก “2 DAYS AGO KIDS โตไปเป็นเด็ก” นอกจากนี้ก็ยังมีเพลงจาก Friday, Yokee Playboy, The BOYKOR และอีกมากมาย นอกจากความพิเศษจาก 2DAYS AGO KIDS (ทู เดย์ อะโก คิดส์) แล้ว พวกเค้ายังได้เชื้อเชิญเพื่อนที่โตมาด้วยกันอย่าง MODERN DOG มาเพิ่มความสนุกในคอนเสิร์ตครั้งนี้รวมถึงแขกรับเชิญที่เชื่อว่าหลายคนต้องกรี๊ด!! ยังพอมีบัตรให้จับจองด่วนที่ The Concert
งานนี้ “บอย–ตรัย” เผยว่า “พวกเราเติบโตมาด้วยกันถึง 24 ปี แล้วตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเรามีความทรงจำร่วมกันมากมาย ทุกครั้งที่ได้พบเจอกันนั้นเป็นช่วงเวลาที่แสนพิเศษ คอนเสิร์ตนี้ก็เช่นกันเพราะไม่บ่อยครั้งนักที่พวกเราจะมีคอนเสิร์ตใหญ่ เข้าห้องซ้อมกันทุกวันเลยเพื่อให้ทุกคนได้รับชมโชว์ที่ดีที่สุด”
โป้ เสริม “โดยเราได้แต่งเพลงใหม่ขึ้นมาเพื่อคอนเสิร์ตนี้นั่นคือเพลงสุดจ๊าบ! ที่เราตั้งใจให้เป็นเพลงเชียร์อัปทุกคนได้ปลดปล่อยทุกสิ่งทุกอย่างไปด้วยกัน ตอนนี้แค่หลับตาแล้วนึกภาพตามก็สัมผัสได้ถึงความสนุกที่จะเกิดขึ้น นอกจากนี้เรายังมีเพื่อนๆอย่างวง MODERN DOG มาร่วมเสริมความสนุกให้เพิ่มพูนมากขึ้นและอาจจะมีอีกหลายๆ คนที่อาจจะขึ้นมาร่วมแจมกันก็เกิดเป็นช่วงเวลาพิเศษที่เกิดขึ้นแค่ในคอนเสิร์ตเท่านั้น แล้วปลดปล่อยทุกความสนุกไปด้วยกันครับ”
...
เดินทางมา 24 ปีแล้ว อะไรที่ทำให้ “2 DAYS AGO KIDS” เหนียวแน่นอยู่มาถึงวันนี้? บอย “สิ่งที่ทำให้เรายังคงอยู่ด้วยกันจนถึงตอนนี้อย่างแรกคือ ดนตรี ด้วยความ ชอบที่มีคล้ายกัน มีความเชื่อไปในทิศทางเดียวกันจึงทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเราเป็นไปในแบบสบายๆ ไม่กดดันกัน ปล่อยให้ทุกคนมีอิสระในตนเอง”
โป้ “ผมว่าคนรุ่นเราธรรมชาติคัดสรรให้เป็นคนที่เมื่อรักในสิ่งใดแล้วก็จะทำสิ่งนั้นไปตลอดไม่คิดที่จะหยุดทำ สิ่งนั้นก็คือการได้เล่นดนตรีที่ยังคงอย่างต่อเนื่อง ทำให้เรายังโคจรมาเจอกันอยู่เรื่อยๆครับ”
อดุลย์ “ถ้าในทางธรรมะก็อาจจะใช้คำว่าศีลเสมอกัน (หัวเราะ) ที่ทำให้ความสัมพันธ์เรานั้นยังเหนียวแน่น ทุกครั้งที่ได้นัดเจอกันเป็นช่วงเวลาที่สนุกสนานกับเพื่อนไม่ต้องคิดอะไรมากครับ”
โป้ “พอได้เล่นดนตรีแล้วหน้าเด็ก สุขภาพแข็งแรง”
อดุลย์ “ทำให้เอ็นโดฟินได้หลั่งออกมาให้รู้สึกเฟรช”
ทำไมถึงใช้ชื่อคอนเสิร์ต “2 DAYS AGO KIDS โตไปเป็นเด็ก? โป้ “ผมว่าเมื่อตอนเรายังเด็กหลายๆคนคงมีคำถามกับตนเองว่า โตขึ้นไปเราจะเป็นผู้ใหญ่แบบไหน สำหรับพวกเราคือโตไปเป็นเด็ก ยิ่งเราเติบโตขึ้นความเป็นเด็กในตัวเราก็ต้องถูกเก็บซ่อนไว้ด้วยภาระหน้าที่ของแต่ละคน แต่เราเชื่อว่าความเป็นเด็กเหล่านั้นไม่เคยจางหายไป”
บอย “ผมเชื่อว่าทุกคนคงมีความรู้สึกคล้ายๆกันที่อยากเติบโตขึ้นไปก็อยากจะแบบสดใสเหมือนเดิม มีความเป็นเด็กได้พบปะเจอเพื่อนได้ทำกิจกรรมร่วมด้วยกัน”
โป้ “สำหรับผมการเล่นดนตรีเพื่อให้ชีวิตมีศิลปะมากขึ้น ทำหัวใจอ่อนนุ่ม”
นอกจากแฟนๆที่เหนียวแน่นรู้สึกยังไงที่แฟนๆและเพลงของ “2 DAYS AGO KIDS” เป็นที่รู้จักส่งต่อรุ่นสู่รุ่นสู่คนรุ่นใหม่ด้วย? เจอรี่ “ยิ่งกว่าได้รางวัลอีกครับ รู้สึกว่าจะมีอยู่งานหนึ่งที่เมโลดี้ออฟไลฟ์ซึ่งเป็นงานที่มีผู้ชมเป็นเด็กเข้ามาชมงาน ซึ่งเค้าได้ถ่ายคลิปเพลงกลับมาลงในอินสตาแกรม แล้วพิมแคปชันประมาณว่าเพิ่งรู้เลยว่าเพลงนี้เป็นของพวกพี่เหรอ ทำให้รู้สึกว่าเพลงยังคงทำงานของมันต่อไปเรื่อยๆ มีคนยังรู้จักและฟังเพลงของเราอยู่”
โป้ “อยากให้คอนเสิร์ตนี้เป็นเหมือนจุดเชื่อมต่อสู่รุ่นต่อรุ่นได้ ยิ่งดีเลยครับยิ่งกว่าได้รางวัลอีก”
เวลา “2 DAYS AGO KIDS” รวมตัวจากวันแรกถึงวันนี้มีอะไรที่ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน และมีอะไรที่ทุกคนเปลี่ยนหรือเติบโต? บอย “อย่างแรกคือรูปลักษณ์ (หัวเราะ)”
ก้อ “ตั้งแต่ครั้งแรกที่รวมตัวกัน ทำโปรเจกต์นี้มันก็สนุกอยู่เหมือนเดิมคือมันยังขำหัวเราะไร้สาระ เหมือนมาเล่นกับเพื่อนตั้งแต่วันแรกและวันนี้ก็ยังเป็นอย่างนั้นอยู่จริงจังกับเรื่องที่เล่น”
...
โป้ “แต่ที่ไม่เคย เปลี่ยนเลยนะ รสนิยมทางเพลงมันก็กลับมาเป็นที่มาของโตไปเป็นเด็ก เราอยากให้ความสนุกเหล่านั้นยังคงอยู่ต่อไปเรื่อยๆ ซึ่งทุกคนต่างยังคงมีความเป็นเด็กในแบบของตนเอง เรารู้สึกชื่นชมเพื่อนๆที่ยังเก็บความสดใสแบบนี้ไว้”
บอย “ผมคิดว่าความเปลี่ยนแปลงเป็นนิรันดร์คือไม่มีอะไรที่ไม่เปลี่ยนแปลงแต่ว่าการเปลี่ยนแปลงกับคนเหล่านี้มันยังคงเป็นความรู้สึกเดิมเมื่อเวลาเราอยู่ด้วยกันที่แบบเอนจอยเรื่องใหม่ๆที่เข้ามาหรืออะไรก็ตามหรือว่าสภาพของเราที่เปลี่ยนไปแต่ว่าพออยู่ด้วยกันก็ยังรู้สึกสนุกเหมือนเดิม”.