"Bad Genius แบด จีเนียส" หนังใหม่ของผู้กำกับ เจ.ซี. ลี ที่นำหนังไทยชื่อดังของผู้กำกับ บาส-นัฐวุฒิ พูนพิริยะ "ฉลาดเกมส์โกง" ที่ประสบความสำเร็จรายได้พันล้าน ดังไกลระดับอินเตอร์ มารีเมกใหม่ในฉบับฮอลลีวูด แถมยังคว้าทีมงานมืออาชีพระดับเอลิสต์มาร่วมงานอีกมากมาย โดยเฉพาะ มาริอุส เดอ วรีส โปรดิวเซอร์นักแต่งเพลงจาก La La Land และ Elvis มาร่วมกับผู้กำกับภาพ เบรตต์ ยุตคีวิซ ที่เคยฝากผลงานประทับใจจาก Stranger Things ที่มาสร้างสัมผัสภาพและเสียงให้ตื่นเต้นเร้าใจ

Bad Genius ฉบับปี 2024 จะชวนผู้ชมร่วมลุ้นไปกับทีมงานนักแสดง นำทีมโดย "คัลลินา เหลียง" (Tell Me Everything), "จาบารี แบงส์" (Bel-Air), "เทย์เลอร์ ฮิกสัน" (Deadpool) "เบเนดิกต์ หว่อง" (Doctor Strange) และนักแสดงน้องใหม่ "คอเนอร์ มีโดวส์" ที่จะเอาชนะระบบการศึกษาด้วยกลโกงที่จะพลิกสนามสอบให้กลายเป็นธุรกิจเงินล้านจากมันสมองของหัวกะทิระดับประเทศ

เรื่องย่อ "Bad Genius แบด จีเนียส" ปฏิบัติการโกงระดับอินเตอร์

...

เรื่องราวของ "ลินน์" (คัลลินา เหลียง) เด็กสาวนักเรียนทุนของโรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นที่รวมตัวของบรรดาลูกเศรษฐี เธอมีโอกาสได้รู้จักกับ "เกรซ" เพื่อนซี้ที่เป็นจุดเริ่มต้นให้เธอเริ่มต้นปฏิบัติการช่วยเพื่อนโกงข้อสอบ เปลี่ยนพรสวรรค์อันชาญฉลาดของตัวเองให้กลายเป็นเม็ดเงิน ก่อนที่จะนำไปสู่ธุรกิจโกงข้อสอบภายในโรงเรียน ความท้าทายเพิ่มมากขึ้นเมื่อมีเหตุการณ์บางอย่างให้เธอและ "แบงค์" เด็กหนุ่มนักเรียนทุนอีกคนที่ต้องมาแท็กทีมโกงข้อสอบระดับอินเตอร์ โดยมีเป้าหมายเป็นเงินที่จะเปลี่ยนอนาคตพวกเขา

รีวิวหนัง "Bad Genius แบด จีเนียส" สนุกชวนลุ้น เคารพต้นฉบับ บทสรุปจิกกัดสังคมเหลื่อมล้ำ

"ลินน์" หญิงสาวที่ไม่ได้มีต้นทุนในชีวิตมากนัก เมื่อเทียบกับเพื่อนนักเรียนคนอื่นๆ ในโรงเรียนแห่งนั้น ไม่เพียงแค่ฐานะทางการเงินที่เธอมีความแตกต่างจากเพื่อนๆ แต่ยังมีเชื้อสายเอเชียท่ามกลางนักเรียนอเมริกัน ที่ยิ่งผลักให้เธอกลายเป็น "คนชายขอบ" ทางสังคมมากยิ่งขึ้น

ทว่าแต้มต่อเดียวในชีวิตที่ลินน์มีก็คือ พรสวรรค์และความฉลาดของเธอ ที่กลายเป็นใบเบิกทางให้ลินน์ได้เข้าไปใช้ชีวิตอยู่ในสังคมนักเรียนบ้านรวย และอยู่ในสถานศึกษาที่เชื่อว่าจะนำพาเธอไปสู่การมีชีวิตและโอกาสทางการศึกษาที่ดียิ่งขึ้น จนกระทั่งลินน์ได้รู้จักกับ "เกรซ" หญิงสาวน่ารักที่เข้ามาเป็นพี่เลี้ยงจำเป็นในการดูแลลินน์ในฐานะนักเรียนใหม่

เกรซเป็นลูกของคนมีฐานะ ทว่าเธอเองก็รู้ว่าตัวเองไม่ได้หัวดีสักเท่าไร สิ่งเดียวที่ครอบครัวคาดหวังจากเธอก็คือผลการเรียนดีๆ แน่นอนว่าเกรซได้ไปขอความช่วยเหลือจากนักเรียนทุนอย่างลินน์ ให้มาติวเข้มพิเศษให้ ทว่าลินน์กลับมาทางลัดที่ถูกใจบรรดาลูกเศรษฐีแสนเกียจคร้านเหล่านี้ เกรซชักชวนแฟนหนุ่มและเพื่อนๆ ของตัวเองมาติวเข้มพิเศษกับลินน์ ซึ่งก็คือกลโกงข้อสอบในโรงเรียนรูปแบบต่างๆ 

ลินน์เริ่มทำรายได้เป็นกอบเป็นกำจากการช่วยเพื่อนโกงข้อสอบ จนกลายเป็นธุรกิจกำไรงาม ส่วนหนึ่งก็เพื่อช่วยเหลือค่าใช้จ่ายภายในครอบครัว และเก็บไว้เป็นเงินทุนเพื่อการเรียนต่อโรงเรียนดนตรีอย่างที่เธอใฝ่ฝัน แม้ว่าคุณพ่อชาวเอเชียจะไม่เห็นด้วย และยังคงทำงานหนักเพื่อหวังให้ลูกสาวคนเดียวได้เข้าเรียนต่อในสถาบันอันมีชื่อเสียงของสหรัฐอเมริกา

...

ในจุดนี้หนังได้สะท้อนให้เห็นถึงมุมมองและตัวตนของความเป็นเอเชียที่ถ่ายทอดผ่านตัวละครครอบครัวของลินน์ คนชายขอบที่มีความฝันแบบอเมริกันชน และพยายามทำงานหนักเพื่อไปสู่ความสำเร็จนั้น ทว่าโลกแห่งความเป็นจริงมีด่านทดสอบสำคัญที่เปรียบดั่งกำแพงสูงที่เรียกว่า "ความเหลื่อมล้ำทางชนชั้น" ซึ่งคนที่ไม่ได้พกต้นทุนชีวิตมามากอย่างลินน์ ก็ต้องใช้เทคนิคกลโกงต่างๆ เพื่อให้สามารถเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของสังคมนั้นได้

แตกต่างจาก "แบงค์" เด็กหนุ่มนักเรียนทุนอีกราย ที่ไม่สถานะทางสังคมไม่ต่างจากลินน์ ความฉลาดคือสิ่งเดียวที่ทำให้เขามีแต้มต่ออยู่ในโรงเรียนมัธยมแห่งนั้นได้ หากลินน์คือเด็กฉลาดที่ยอมผ่อนปรนเพื่อเป้าหมายบางอย่าง แบงค์ก็คือเด็กฉลาดที่เถรตรง อยู่ในกฎระเบียบทุกอย่าง ทว่าความตรงจนเกินไปของแบงค์ก็นำไปสู่ปัญหาบางอย่าง จนแบงค์รู้สึกว่า "ชีวิตโกงเขา" ทางออกเดียวคือต้องโกงชีวิตกลับบ้างนั่นเอง

สิ่งหนึ่งที่ชื่นชมสำหรับภาพยนตร์เรื่อง Bad Genius ก็คือ การเคารพต้นฉบับเดิม การเล่าเรื่องมีการไล่เรียงฉากลำดับต่างๆ ตามที่ต้นฉบับทำไว้ ทว่าสิ่งที่แตกต่างและทำออกมาได้ดีคือ การเพิ่มประเด็นทางวัฒนธรรมในฉบับฮอลลีวูดเข้าไป หลายบริบทอาจมีการปรับเปลี่ยนให้ต่างจากไทย เพื่อให้มีความเป็นสากล แต่ยังคงไม่ทิ้งลายเซ็นเดิมที่ตัวหนังต้องการสื่อออกมา นั่นก็คือ "ความเหลื่อมล้ำ" ไม่เพียงแค่ด้านการศึกษา แต่ยังรวมถึงปัญหาการเหยียดเชื้อชาติ การถูกกีดกันทางเชื้อชาติ รวมถึงการจิกกัดระบบการศึกษาและระบบการสอบ ที่ถูกยกย่องให้เป็นการสอบระดับมาตรฐานที่มักจะถูกออกแบบโดยกลุ่มคนฐานะ ซึ่งจริงๆ แล้วการสอบแต่ละครั้ง กลับมีค่าใช้จ่ายมากมายที่ครอบครัวของเด็กหลายคนอาจไม่สามารถสนับสนุนได้

...

Bad Genius ในเวอร์ชันฮอลลีวูด เล่าเรื่องได้ค่อนข้างกระชับ ซึ่งทางผู้กำกับ เจ.ซี. ลี ที่เคยฝากผลงานโปรดิวซ์และเขียนบทซีรีส์ชื่อดังอย่าง How To Get Away With Murder ก็ได้ร่วมเขียนบทกับ "จูเลียส โอนาห์" ที่เคยได้เข้าชิงรางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมจากผลงาน "Luce" (2019) บนเวที Film Independent Spirit Awards 2020 หนังเรื่องนี้จึงดำเนินเรื่องไปอย่างน่าสนใจ สนุก ชวนลุ้น และยังมีตอนจบที่นำเสนอแตกต่างจากเวอร์ชันไทย ส่วนมีจุดเด่นที่น่าสนใจไม่แพ้กันก็คือ ดนตรีประกอบที่ตื่นเต้นเร้าใจ ซึ่งได้ "มาริอุส เดอ วรีส" จาก La La Land และ Elvis มาร่วมงาน ยิ่งทำให้ส่วนผสมของ Bad Genius 2024 มีความลงตัวมากยิ่งขึ้นนั่นเอง

สามารถรับชม "Bad Genius แบด จีเนียส" ได้ในโรงภาพยนตร์

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม

...