เมื่อความไม่เท่าเทียม กลายเป็นหนามยอกอก 

นำพาทุกคนสู่หายนะ และโศกนาฏกรรมที่เลยเถิด 


ตั้งแต่ดูตัวอย่างที่ไวรัลในโซเชียลครั้งแรก เราก็คิดว่า วิมานหนาม น่าสนใจไม่น้อย เพราะทั้งพล็อตเรื่องไม่เหมือนใคร แก่นเรื่องที่จับประเด็นได้อินเทรนด์และตรงจุด รวมถึงเหล่านักแสดงที่ต่างล้วนมีแฟนคลับเป็นของตัวเอง แล้วก็ไม่ผิดหวังจริงๆ เพราะ วิมานหนาม ทำให้เราประทับใจมาก 

วิมานหนาม ดราม่าทริลเลอร์ ของกลุ่มคนที่ถูกพราก ความรัก ความฝัน และความหวัง “ทองคำ” (เจฟ ซาเตอร์) ต้องสูญเสียทุกอย่าง ทั้งบ้าน และสวนทุเรียน เมื่อ “เสก” (เต้ย พงศกร เมตตาริกานนท์) แฟนหนุ่ม ตายจากอุบัติเหตุอย่างกะทันหัน โฉนดที่ดินบ้านและสวนทุเรียน ซึ่งเปรียบเหมือนใบทะเบียนสมรสของทั้งคู่ ถูกฉีกทึ้งจากกฎหมาย ที่กำหนดไว้ว่าสมบัติของผู้ตายต้องตกเป็นของ “แม่แสง” (สีดา วงศ์พัวพัน) แม่แท้ๆ ของเสก 

ทองคำ ช้ำใจมาก แล้วก็ต้องแค้นแทบกระอัก เมื่อแม่แสงไม่ได้เป็น หนามยอกอกเดียว แต่ยังพ่วง “โหม๋” (อิงฟ้า วราหะ) ลูกสาวที่เก็บมาเลี้ยงไว้ดูแลรับใช้ตนตั้งแต่เด็ก และ “จิ่งนะ” (เก่ง หฤษฎ์ บัวย้อย) น้องชายแท้ๆ ของโหม๋ ติดสอยห้อยตามมาอยู่ที่บ้านในสวนทุเรียนด้วย ซึ่งทั้งสองก็ร่วมมือกับแม่แสงอย่างดี เพราะก็อยากจะมีส่วนในสมบัติที่เสกทิ้งไว้ หลังจากที่ต้องตรากตรำลำบากมาตลอดชีวิต

...

เมื่อทั้งบ้าน และสวนทุเรียน ที่เปรียบเหมือน วิมาน ถูกพราก ทองคำจึงทำทุกอย่างเพื่อทวงคืนกรรมสิทธิ์ที่ตนบุกเบิกมาตั้งแต่ต้น แต่หนทางก็ไม่ง่าย เพราะเหล่า หนามยอกอก ทั้งหลายไม่ยินยอม แถมพร้อมใจกันเหยียบย่ำทุกความฝันและความหวังของเขา รวมทั้งความรักที่เคยมีมาตลอด 5 ปี ก็ต้องพังลงด้วย เมื่อเขาดันไปค้นพบความลับบางอย่าง

ทั้งหมดทั้งมวล วิมาน จึงเหมือนเป็นสุดยอดความปรารถนาของเหล่าตัวละครทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ทองคำ ที่บุกเบิกที่ทางมาตั้งแต่ต้น ร่วมกับ เสก, แม่แสง ที่ส้มหล่นได้มรดกจากลูกชาย ก็อยากจะมีชีวิตสุขสบาย หลังจากต้องทนนอนกลางดินกินกลางทรายมาตลอด, โหม๋ ที่ชีวิตต้องติดแหงกกับแม่แสง ก็หวังอย่างสุดใจว่าจะมีส่วนในมรดกเพื่อตอบแทนความเหนื่อยยากที่ผ่านมา รวมทั้ง จิ่งนะ ที่อยากจะลงหลักปักฐาน ใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวสักครั้งหนึ่งในชีวิต หลังจากต้องระหกระเหินเร่ร่อนทำงานรับจ้าง ไม่เป็นหลักแหล่งมาตลอด

มหกรรมต่อสู้และเอาคืนเพื่อทวงกรรมสิทธิ์เป็นไปอย่าง ตาต่อตา ฟันต่อฟัน โดยเฉพาะ ทองคำ กับ โหม๋ ที่ถูกความอยากเอาชนะปิดตาจนลืมทุกสิ่งทุกอย่าง กระทั่งเกิดโศกนาฏกรรมเศร้าสลดที่เลยเถิดจนกู่ไม่กลับ วิมานที่เคยเป็นเหมือนบ้านในฝัน จึงกลายเป็นเหมือน วิมานหนาม ที่อาบด้วยเลือด เพราะหากอยากจะครอบครอง ก็ต้องเสียสละหลายอย่าง ไม่ว่าจะ ความรัก ความฝัน และความหวัง

 

ส่วนตัวคิดว่าโดดเด่นที่สุดคงเป็น การออกแบบตัวละคร ที่มีคาแรกเตอร์ และปมที่ชัด ทำให้ท่าที รวมถึงปฏิกิริยาต่างๆ สมจริง และ make sense โดยเฉพาะตัวละครหลักอย่าง ทองคำ (เจฟ ซาเตอร์) และ โหม๋ (อิงฟ้า วราหะ) ที่ต่างก็ปรารถนา สถานะทางกฎหมาย, สถานะในครอบครัว และสถานะทางสังคม จนยอมทำเรื่องหลายอย่าง ที่สุดท้ายก็กลายเป็นหลุมกลบฝังตัวเองจนหาทางขึ้นไม่ได้

แน่นอนว่าคู่หลักอย่าง ทองคำ และ โหม๋ เป็นมวยคู่หลักของเรื่อง ที่นอกจากจะฟาดฟันกันเรื่องกรรมสิทธิ์ในบ้านและที่ดินสวนทุเรียน ยังมีเรื่องความรัก และความหวัง ของทั้งคู่ที่ถูกฉีกทึ้งอย่างไม่มีชิ้นดี เพราะความเข้าใจผิด และความอยากได้อยากมีบังตา แต่ที่เราอยากเพิ่มคะแนนให้คือการแบ่งสัดส่วนการเล่าเรื่องให้กับตัวละครอีกคู่ คือ แม่แสง (สีดา วงศ์พัวพัน) และ จิ่งนะ (เก่ง หฤษฎ์ บัวย้อย) เพราะปมของทั้งคู่ก็ทำให้การเล่าเรื่องความขัดแย้งของ ทองคำ และ โหม๋ ชัดเจนและมีน้ำหนักขึ้น

...

การมีอยู่ของ แม่แสง และ จิ่งนะ ทำให้เราได้ทำความรู้จักตัวละครเอกอย่าง ทองคำ และ โหม๋ มากขึ้น โดยเฉพาะ โหม๋ ที่จากครึ่งแรกเราอาจจะหมั่นไส้ในความร้ายกาจของเธอ แต่ครึ่งหลังก็อยากจะสารภาพว่าอดเห็นใจกับชะตากรรมที่เธอต้องประสบไม่ได้ ทั้งความรักที่ไม่สมหวัง สถานะในครอบครัวที่ไม่เป็นที่ยอมรับ และสถานะทางสังคมที่เธอไม่เคยมีตัวตนมาตลอด

ส่วน ทองคำ ที่สถานะไม่มั่นคงตั้งแต่ต้นเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น สถานะคนรัก ลูกเขย หรือแม้แต่เจ้าของที่ดิน เราก็ได้รู้จักเขาผ่านการต่อสู้อย่างบ้าคลั่งเพื่อทวงกรรมสิทธิ์ สิ่งที่เขาลงทุนลงแรงมาตลอด แน่นอนว่าเราเห็นใจและเอาใจช่วยเขามาตั้งแต่ต้น แม้จะไม่เห็นด้วยกับวิธีการ แต่ก็คิดว่าสิ่งที่เขาเลือกทำและตอบโต้ก็เหมาะกับคาแรกเตอร์ที่ดีไซน์มา ทำให้เราเห็นทั้งความดี ความเลว ที่รวมอยู่ในคนเดียวกัน ซึ่งส่วนตัวคิดว่ามันก็สมเหตุสมผลดี 

อีกอย่างที่ชอบสำหรับ วิมานหนาม คือการดำเนินเรื่องที่ไม่ซับซ้อน แม้จะมีปมขัดแย้งหลายอย่างจากหลายคู่ แต่ก็บริหารจัดการได้ ทำให้ภาพรวมของการดำเนินเรื่องไม่สะดุด แถมยังซ่อนปมลับไว้อย่างแนบเนียน ทำให้เนื้อเรื่องโดยเฉพาะครึ่งหลังเข้มข้นขึ้น ซึ่งส่วนตัวคิดว่าความสนุกมันอยู่ตรงนี้ ตรงที่เราเดาไม่ถูก หรือเดาผิด เพราะเรื่องมันหักมุม

...

เอาเป็นว่าภาพรวม หนังดีทีเดียว ทั้งเพราะการออกแบบตัวละครที่ค่อนข้างสมจริง ประเด็นของเรื่องที่สะท้อนสังคมและอินเทรนด์ การดำเนินเรื่องที่ชวนติดตาม รวมทั้งการแสดงของเหล่านักแสดงหน้าใหม่ทั้ง เจฟ ซาเตอร์ และ อิงฟ้า วราหะ ที่เล่นกันแบบไม่ห่วงหล่อสวย ทำให้เราพูดได้เต็มปากว่า วิมานหนาม เป็นหนึ่งในหนังไทยไม่กี่เรื่องที่เราชอบ 

ทั้งหมดทั้งมวล คงต้องยกเครดิตให้ทีมผู้สร้าง และผู้กำกับ บอส นฤเบศ กูโน ที่ผลิตหนังดีๆ มาให้เราได้ชื่นชม แล้วก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเราจะได้เห็นผลงานดีๆ ของเขาอีกในอนาคต.