เป็นหนังฟอร์มยักษ์ที่หลายคนตั้งหน้าตั้งตารอคอย เราก็เตรียมตัวเหมือนกัน เตรียมตัวมามึนเต็มที่...แต่ผิดคาด เพราะนอกจากจะไม่มึนหรือชวนให้หลุดจากหนังเป็นช่วงๆ เหมือนเรื่องอื่นๆ ก่อนหน้านี้ของโนแลน แต่กลับ intensed และลุ้นระทึกเหมือนมีระเบิดเวลาจ่อตลอด 3 ชั่วโมงในโรง!

ใช่แล้วค่ะ “Oppenheimer” มีความยาว 3 ชั่วโมงโดยประมาณ ถ้าใครจะไปดูในโรงก็ขอให้เตรียมตัวให้พร้อม เพราะมันดีมากๆ เราไม่อยากให้คุณผู้อ่านพลาดเลยสักช่วง 

“Oppenheimer” เขียนบท และกำกับภาพยนตร์ โดย “คริสโตเฟอร์ โนแลน” ซึ่งบทภาพยนตร์นั้นได้รับแรงบันดาลใจจากบทประพันธ์รางวัลพูลิตเซอร์ชื่อ American Prometheus โดย “ไค เบิร์ด” และ “มาร์ติน เจ เชอร์วิน” เล่าเรื่องราวของ “เจ โรเบิร์ต ออพเพนไฮเมอร์” (รับบทโดย “คิลเลียน เมอร์ฟี”) นักวิทยาศาสตร์ผู้เปลี่ยนโลก และได้รับฉายาว่าเป็น “บิดาแห่งระเบิดปรมาณู”

...

ความรู้สึกในฐานะคนที่เคยได้ยินชื่อ “เจ โรเบิร์ต ออพเพนไฮเมอร์” มาบ้าง แต่ไม่รู้จักอย่างลึกซึ้ง ตามประสาคนที่ไม่ได้คลั่งหรือมีความสนใจเรื่องวิทยาศาสตร์เป็นพิเศษ ก่อนดูเราก็จินตนาการไปต่างๆ นานาว่าหนังต้องเต็มไปด้วย “ศัพท์เทคนิค” และ “ทฤษฎีฟิสิกซ์” ซึ่งน่าจะทำให้เรื่องดูยากสำหรับเรามากๆ แต่ก็ไม่น่าเชื่อว่าแม้หนังจะเต็มไปด้วยสองสิ่งที่ว่า แต่กลับไม่ได้เป็นอุปสรรคในการดูของเราเท่าไหร่ เพราะหนังไม่ได้ตั้งใจจะเล่าเรื่อง “ระเบิดปรมาณู” แต่อยากเล่าเรื่องราวของ “เจ โรเบิร์ต ออพเพนไฮเมอร์” มากกว่า

จะว่าเป็นหนังดราม่า-ชีวประวัติก็ไม่ผิดนัก แต่เพื่อให้สมศักดิ์ศรีโนแลน เราว่าหนังมีวิธีเล่าเรื่องที่ทะเยอทะยานแต่น่าทึ่งมาก แน่นอนว่าหนังไม่ได้เล่าแบบมี Timeline เรียบๆ แต่ตัดกลับไปมาหลายช่วงชีวิตของออพเพนไฮเมอร์ ทั้งช่วงก่อนที่เขาจะมารับหน้าที่คุมโครงการพิเศษเพื่อคิดค้นและทดสอบระเบิดปรมาณู ระหว่างการคิดค้น และเรื่องราวหลังจากนั้น (ที่บีบหัวใจเราอย่างไม่น่าเชื่อ) ซึ่งก็น่าจะชวนงงและสับสน แต่ก็นั่นแหละค่ะ...โนแลนทำได้ มันดันกลายเป็นหนังดราม่า-ชีวประวัติที่มีความ Suspensed เฉย ทำให้เราอยากรู้มากขึ้นเรื่อยๆ ว่า Closure ของคนที่คิดค้นระเบิดที่ทำให้โลกแตกเป็นเสี่ยงๆ จะเป็นยังไงต่อไป

และ “Oppenheimer” คงจะขาดสีสันและความสนุกไปเลยถ้าขาดตัวละครแวดล้อมอีกหลายตัวที่ทำให้การเล่าเรื่องชีวิตของออพเพนไฮเมอร์ ไม่ว่าจะเป็น “ลูอิส สเตราส์” (รับบทโดย “โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์”), “คิทตี้ ออพเพนไฮเมอร์” (รับบทโดย “เอมิลี่ บลันท์”), “เลสลี โกรฟ” (รับบทโดย “แมตต์ เดมอน”), “จีน แททลอค” (รับบทโดย “ฟลอเรนซ์ พิวจ์”) และ “เออร์เนสต์ ลอว์เรนซ์” (รับบทโดย “จอช ฮาร์เน็ทท์”) ซึ่งทำให้เราได้เห็นชีวิตของออพเพนไฮเมอร์ในมิติต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นในฐานะ “นักวิทยาศาสตร์”, “พ่อ”, “สามี”, “เพื่อน”, “ผู้คุมโครงการ” หรือแม้แต่ความเป็น “ชู้รัก” ที่ทำให้ชีวิตของเขาผันผวนและผกผันไม่น้อย ซึ่งส่วนตัวคิดว่าดีมากๆ เพราะทำให้เราได้รู้จักเขามากขึ้น แถมดูท่าจะเข้าอกเข้าใจ และ “เข้าข้าง” เขาอยู่ไม่น้อยในช่วงชั่วโมงสุดท้ายของเรื่อง

...

ในส่วนของการแสดง แน่นอนว่า “คิลเลียน เมอร์ฟี” ผู้รับบท “เจ โรเบิร์ต ออพเพนไฮเมอร์” ทำได้ดีสมกับที่โนแลนเชื่อใจและปลุกปั้นมานาน (เพราะก็ร่วมงานกันมาหลายเรื่อง) แต่ส่วนตัวที่เราแอบปันใจให้คะแนนมากกว่านิดนึงคือ “โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์” ผู้รับบท “ลูอิส สเตราส์” สมาชิกผู้ก่อตั้งคณะกรรมการพลังงานปรมาณูแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (U.S. Atomic Energy Commission) ตัวละครสำคัญที่ทำให้ชีวิตอันเคยรุ่งโรจน์ถึงขีดสุดของออพเพนไฮเมอร์ดิ่งสู่เหวอย่างยากที่จะกอบกู้ชื่อเสียงและศักดิ์ศรี ซึ่งต้องบอกครั้งนี้โรเบิร์ตทำได้ดีมากๆ ฉีกบทบาทของตัวเองจนเราแทบลืมภาพ “ไอรอนแมน” ไปเลยทีเดียว!

...

อีกสองตัวละครที่จะไม่เขียนถึงไม่ได้คือ “คิทตี้ ออพเพนไฮเมอร์” รับบทโดย “เอมิลี่ บลันท์” และ “จีน แททลอค” ซึ่งรับบทโดย “ฟลอเรนซ์ พิวจ์” สองตัวละครหญิงที่ทำให้เราได้เห็นอีกด้านของออพเพนไฮเมอร์ในแบบที่เราคงหาไม่ได้จากกูเกิล ซึ่งนอกจากเร่าร้อนและดราม่าเหมือนไม่ใช่หนังเกี่ยวกับนักวิทยาศาสตร์และระเบิดปรมาณูแล้ว เรายังได้เห็นพลังของผู้หญิงที่บางทีก็ทำให้ผู้ชาย “เขว” หรือ “สะดุดขาตัวเอง” ได้เหมือนกัน 

งานภาพของโนแลนยังโดดเด่นเหมือนเคย เพิ่มเติมคือเรื่องนี้ถ่ายทำด้วยฟิล์ม IMAX® 65 มิลลิเมตร ผสมผสานกับงานถ่ายภาพด้วยฟิล์มขนาดใหญ่ 65 มิลลิเมตร อีกทั้งยังเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การสร้างภาพยนตร์ที่ถ่ายทำด้วยฟิล์ม IMAX® แบบแอนะล็อกดำ-ขาว ทำให้อรรถรสการชม “Oppenheimer” ตื่นตาตื่นใจมากๆ แม้ว่าเราจะแสบตาพอควรเพราะคงเลี่ยงฉากระเบิดไม่ได้ แต่ก็ถือว่ายอมรับได้ เพราะแสงระเบิดที่ว่าไม่ได้เล่าแค่เรื่องระเบิดปรมาณู แต่เล่าความรู้สึกนึกคิดและอารมณ์ของตัวเอกอย่างออพเพนไฮเมอร์ด้วย...จัดว่าเทพมากๆ เล่าเรื่องคนด้วยแสงระเบิด!

...

เอาเป็นว่าภาพรวมหนังดีมากๆ เป็น 3 ชั่วโมงที่ลุ้นระทึกเหมือนมีระเบิดเวลาคอยเราอยู่ ทั้งการคิดค้นระเบิดที่เราก็ไม่เคยรู้ว่าทำยังไง และเรื่องราวหลังจากนั้น...ชีวิตของ “เจ โรเบิร์ต ออพเพนไฮเมอร์” นักวิทยาศาสตร์ผู้ร่วมสมัยเดียวกับ “อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์” (รับบทโดย “ทอม คอนติ”) ที่ต้องสู้รบปรบมือกับทั้งกระแสที่มีทั้งยินดีและต่อต้านกับความสำเร็จของเขา รวมถึงการใส่ร้ายป้ายสี การบิดเบือน และความดำมืดของจิตใจมนุษย์ ที่ไม่ว่ากี่ยุคกี่สมัยเรื่องราวนี้ก็ไม่เคยจางหาย 

แฟนๆ คริสโตเฟอร์ โนแลน ต้องไม่พลาด หนังเขาดี สมการรอคอยจริงๆ ค่ะ

มาดามอองทัวร์
Twitter: @MadamAutuer