รีวิวหนัง NOPE ประสบการณ์ ยืนมองท้องฟ้า ไม่เป็นเช่นเคย

ผู้กำกับ Jordan Peele ชื่อนี้คงไม่ต้องเอ่ยสรรพคุณอะไรอีกต่อไป หากคุณเคยผ่านงานกำกับของเขาอย่าง Get Out หรือ Us มาก่อน ก็เชื่อว่า NOPE ที่ชื่อหนังภาษาไทยว่า "ไม่" จะเป็นอีกหนึ่งโปรแกรมหนังชนโรง ที่คุณจะไม่พลาดตีตั๋วอย่างแน่นอน ซึ่ง Jordan Peele ยังคงเต็มไปด้วยความสร้างสรรค์ พร้อมมอบ "ประสบการณ์" ในการดูหนังในโรงภาพยนตร์ที่สดใหม่ให้กับคนดูเช่นเคย ที่ครั้งนี้เล่นกับการค้นพบสิ่งแปลกประหลาดและน่าสะพรึงกลัว ที่มันอยู่ใกล้เรามาตลอด เพียงแค่เราเงยหน้ามองขึ้นฟ้า

NOPE (ไม่) เล่าเรื่องราวของครอบครัวเฮย์วูด ที่อาศัยอยู่พื้นที่หุบเขาในแคลิฟอร์เนีย ที่มีธุรกิจประจำตระกูลคือ การฝึกม้าเพื่อใช้ในการถ่ายทำภาพยนตร์ แต่แล้วก็ได้เกิดเหตุการณ์ประหลาดเมื่อมีวัตถุปริศนาตกลงมาจากท้องฟ้า จนทำให้โอทิส (Keith David) ผู้พ่อและเป็นเจ้าของธุรกิจเสียชีวิต ทำให้รุ่นลูกคู่พี่ชายและน้องสาว โอเจ (Daniel Kaluuya) และ เอ็ม (Keke Palmer) ต้องมารับช่วงต่อ

ท่ามกลางปัญหาการรับช่วงต่อธุรกิจที่ไม่ราบรื่นและเสี่ยงจะเจ๊ง แต่เหตุการณ์แปลกประหลาดที่มาจากท้องฟ้า แต่ก็ "ไม่" สามารถบอกได้ว่ามันคืออะไร ก็ทำให้สองพี่น้องคิดว่านี่อาจเป็นโอกาสที่จะทำให้พวกเขามีชื่อเสียงและรายได้หากพวกเขาสามารถจับภาพสิ่งประหลาดนี้ได้ นั่นทำให้เราได้พบกับตัวละครอื่น ที่ได้เข้ามามีส่วนร่วมกับเหตุการณ์นี้ ทั้ง ทอเรส (Brandon Perea) พนักงานขายกล้องวงจรปิด, ฮอยส์ (Michael Wincott) ช่างภาพสารคดีชื่อดัง และ ริกกี้ จูพ พาร์ค (Steven Yeun) อดีตดาราเด็ก ที่ปัจจุบันกลายมาเป็นเจ้าของธีมพาร์คแนวคาวบอย ..ที่เรื่องราวหลังจากนี้ มันเลยเถิด ไปไกลเกินกว่าจะคาดเดา

เสน่ห์อย่างหนึ่งในหนังของ Jordan Peele คือ การที่ทำให้คนดูเต็มไปด้วยข้อสงสัยมากมาย ว่าหนังจะเล่าอะไร เกิดอะไรขึ้น สถานการณ์ที่เห็นตรงหน้ามันมีที่มาที่ไปอย่างไร ระหว่างที่เรื่องดำเนินไป เหมือนค่อยๆ โยนจิ๊กซอว์เพื่อล่อหลอกให้เราติดตามและเก็บไปปะติดปะต่อ จนเมื่อได้ภาพที่สมบูรณ์แล้ว ภาพนั้นก็ยังมีพลังมากพอที่จะทำให้เราขบคิดต่อเพื่อหาความหมาย นัยแฝงของภาพนั้น

ซึ่งใน NOPE ผลงานกำกับและเขียนบทชิ้นที่ 3 ของเขา ก็ยังคงเสน่ห์ดังกล่าวไว้ได้ครบถ้วน แต่หากว่ากันอย่างตรงไปตรงมา การนำเสนอในเรื่องนี้ไม่ดุดันเข้มข้นชวนว้าวในแบบที่ Get Out หรือ Us เคยทำไว้ สองเรื่องก่อนหน้าจะมีความเร่งเร้าด้วยสถานการณ์ประหลาดมากมายที่มุ่งเข้าใส่ ที่มาพร้อมดนตรีประกอบที่ไม่น่าไว้วางใจ ตรึงให้เราอยู่ติดเบาะ และจ้องมองติดตามเรื่องราวในแบบที่ไม่อาจละสายตา

ขณะที่ NOPE จะให้เวลากับตัวละครมากกว่าสถานการณ์ ลงรายละเอียดในความสัมพันธ์โอเจและเอ็ม ที่เหมือนขั้วตรงกันข้ามกันคนหนึ่งเงียบขรึม อีกคนช่างจ้อ และกับอีกตัวละครสำคัญ จูพ ที่เหตุการณ์ระทึกขวัญสมัยเขาเป็นดาราเด็ก จะเป็นส่วนสำคัญที่ผลักดันความคิดและการกระทำของเขาในปัจจุบัน นั่นจึงทำให้ช่วงครึ่งแรกของหนังจะค่อนข้างเรื่อยๆ เนือยๆ ที่ต้องใช้ความอดทนในการติดตามพอสมควร เมื่อจิ๊กซอว์ถูกเปิดเผยออกมาครบถ้วน NOPE ก็กลับสู่เส้นทางของ Jordan Peele ที่เราคุ้นเคย ที่ชวนติดตามและลุ้นระทึกไปตลอดจนจบเรื่อง

ตัวละครของ Jordan Peele จะมีความเป็น Fighter ที่แม้สถานการณ์จะตกเป็นรองแค่ไหน ก็พร้อมที่คิดหาทางตอบโต้และเอาคืน ความสนุกของ NOPE จึงเป็นการติดตามว่า เมื่อจิ๊กซอว์ถูกต่อเป็นภาพแล้ว ตัวละครจะจัดการกับภาพอย่างไร ซึ่งรายละเอียดต่างๆ ที่ปูมาตลอดเรื่อง ก็ถูกหยิบจับนำมาใช้ในการนี้ได้อย่างสร้างสรรค์และน่าทึ่ง

NOPE เดินรอยตามหนังระดับคลาสสิกอย่าง Jaws ของผู้กำกับ Steven Spielberg ที่เปลี่ยนจากฉลามในท้องทะเล มาเป็นสิ่งประหลาดบนท้องฟ้า แม้ “ไม่” ปรากฏตัวออกมา แต่ก็สร้างบรรยากาศท้องฟ้าที่ชวนอึดอัด และเมื่อสิ่งประหลาดที่เริ่มรุกหนักหน่วงในช่วงไคลแมกซ์ของเรื่อง ก็ยิ่งทำให้รู้สึกไร้ทางต่อสู้ไร้ทางหนี จะโจมตีมาจากจุดใดบนท้องฟ้ากว้าง ยิ่งได้ดูบนจอ IMAX ยิ่งเพิ่มดีกรีความหวาดเสียวขึ้นไปอีก

ไม่เพียงแค่ Jaws รายละเอียดในหนังส่วนอื่นๆ ก็ทำให้เรานึกถึงภาพจำหนังของหนังอีกหลายๆ เรื่อง และคงต้องนับรวมไปถึง “สิ่งประหลาดบนท้องฟ้า” ที่ส่งให้หนังตกหมวดอยู่ในความไซไฟ ว่าการออกแบบและความสามารถที่สยดสยอง ให้ความรู้สึกเหมือนงาน Lovecraftian Horror ที่เต็มไปด้วยความแปลก น่าสะพรึง ลี้ลับ จะเห็นว่า NOPE เป็นงานที่ได้รับอิทธิพลและผสมผสานจากสื่อหลายๆ ด้าน และผลงานที่ออกมาไม่ใช่งานที่ย่ำบนเส้นทางเดิม แต่เป็นการต่อเติมเส้นทางเพื่อพาคนดูไปสู่เส้นทางใหม่

นั่นทำให้ NOPE ไม่ใช่หนังที่จะถูกใจคนในวงกว้าง จะมีทั้งคนรักและคนชัง ซึ่งคงต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์คุณค่าของหนังอีกทีว่าจะเป็นที่จดจำของแฟนๆ หรือไม่ในอนาคต และโดยส่วนตัวไม่รู้สึกผิดหวัง กับงานกำกับชิ้นที่ 3 ของ Jordan Peele

NOPE ไม่ใช่หนังดูยาก หนังเคลียร์ในตัวเองเท่าที่เรื่องราวจะเอื้ออำนวย เป็นลีลาใหม่ของ Jordan Peele ที่อาจไม่ดุดันเท่า Get Out หรือ Us แต่ก็ไต่ระดับความน่าสนใจและลุ้นระทึกได้ดี มีองค์ประกอบที่น่าสนใจมากพอ คนที่ชอบการตีความ เก็บรายละเอียดมาขบคิดต่อ น่าจะชอบเป็นพิเศษ หากใครยังไม่ได้ดูและกำลังวางแผนไปดู แนะนำดูจอ IMAX เพื่อประสบการณ์ ยืนมองท้องฟ้าไม่เป็นเช่นเคย

ชา ตีตั๋วชนโรง
Twitter @Chamanz13