ตอนนี้นับเป็นช่วงเวลาพิเศษสำหรับของแฟน ๆ Attack on Titan ทุกคน เพราะต้นฉบับมังงะของอาจารย์ฮาจิเมะ อิซายามะ ก็ได้เดินทางมาถึงตอนที่ 139 ซึ่งบทสรุปของเรื่องราว ปิดตำนาน ผ่าพิภพไททัน ไปอย่างสมบูรณ์ ทางด้านแอนิเมชัน Attack on Titan: Final Season Part 1 ที่กินเวลาฉายตั้งแต่ ธ.ค. 63 มาจนถึง มี.ค. 64 รวม 16 ตอน ก็จบครึ่งทางพอดี พร้อมส่งต่อไปยัง Attack on Titan: Final Season Part 2 ได้อย่างน่าตื่นเต้น


จากเดิมที่เคยเล่าเรื่องราวของกลุ่มพระเอก เอเรน มิคาสะ และอาร์มิน ตั้งแต่เมื่อครั้งที่ "คนในกำแพง" ต้องเผชิญหน้ากับวิกฤติไททันยักษ์เข้าบุกทำลายกำแพง ความเจ็บปวดของชีวิต พังทลายทางจิตใจ ผลักดันให้เข้าร่วมหน่วยสำรวจ เพื่อสืบสวนหาปริศนาของไททันและโลกนอกกำแพง ได้เผชิญหน้ากับไททันหลากหลายรูปแบบ เหตุการณ์ที่เต็มไปด้วยปริศนา ประทับใจกับมิตรภาพและการทรยศหักหลัง สิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นทั้งสุขและทุกข์ได้เคี่ยวกรำตัวละครและคนดู สู่บทสรุปที่ทำให้เห็นว่าถึงเวลาแห่งการตอบโต้กลับคืนแล้ว

...


แต่ใน Attack on Titan: Final Season Part 1 กลับเปิดด้วยเรื่องราวที่นอกกำแพง เผยให้เห็นโลกที่กว้างใหญ่ วิทยาการที่ก้าวหน้ามากกว่าโลกในกำแพงเป็น 100 ปี สังคมการเมืองที่เต็มไปด้วยคำลวง Propaganda ล้างสมอง หล่อหลอมผู้คนจนนำไปสู่สงครามไททัน และความเกลียดชังคนในกำแพง โดยผ่านตัวละครใหม่ที่น่าจดจำอย่าง กาบิ และ ฟัลโก้ ที่เป็นเหมือนตัวแทนคนรุ่นใหม่ที่ถูกผู้ใหญ่ปลูกฝังทางความคิดลงไป ก่อนจะเชื่อมร้อยเข้ากับตัวละครเก่า ที่เผยให้เห็นมุมมองตรงข้ามของเรื่องราว ที่ยากจะตัดสินความถูกผิด


การเล่าเรื่องกลับด้าน ต่างมุมมองแบบนี้ ตอนเป็นฉบับมังงะกว่าที่จะต่อติดเรื่องราวได้นั้นก็ผ่านไปหลายตอน แต่ในฉบับแอนิเมชันแม้จะพยายามทำให้เรื่องราวกระชับให้ดูสนุกขึ้น แต่ก็ยังแอบมีช่วงเนือยอยู่บ้างประปราย เพราะต้องให้เวลากับการลงรายละเอียดที่สำคัญ เพื่อสร้างความเป็นเหตุเป็นผลให้กับสถานการณ์และการกระทำของตัวละคร ที่ยังคงบีบหัวใจกับการท้าทายมุมมองทางด้านศีลธรรมในตัวของคนดูอยู่เสมอ


ใครที่ติดใจในงานแอนิเมชันคุณภาพสูงของ Wit Studio แล้วห่วงว่า MAPPA Studio จะมาสานงานต่อได้ดีแค่ไหน ก็คงหายห่วงเสียที เพราะคุณภาพงานในแต่ละตอนที่ MAPPA ทำไว้นั้นไม่ได้อ่อนด้อย หรือทำให้เสียชื่อแอนิเมชันซีรีส์คุณภาพที่สั่งสมกันมาหลายซีซันแต่อย่างใด

...


จะว่าไปเรื่องราวใน Final Season Part 1 ก็เดินหน้าด้วยตัวละครใหม่ๆ สถานการณ์ใหม่ๆ ที่เน้นเล่าเรื่องและเดินแผนการมากกว่าฉากแอ็กชั่น ทำให้ในภาพรวมก็ต้องบอกกันตรงๆ ว่ามันไม่ได้มีงานภาพที่หวือหวา หรือมีฉากน่าจดจำในแบบที่ Wit Studio เคยเนรมิตออกมา หลายฉากที่น่าจดจำใน Final Season Part 1 ก็คงเป็นฉากที่เกิดขึ้นจากสถานการณ์ความเข้มข้นของเรื่องราวมากกว่าคุณภาพงานแอนิเมชัน


อีกทั้งแฟนๆ อาจต้องปรับตัวกันสักหน่อย กับลายเส้นที่ใช้ในภาคนี้ ที่อาจทำให้เกิดความรู้สึกที่แตกต่างกว่าซีซันก่อนๆ นั่นก็เพราะภาคนี้เป็นเรื่องราวที่ห่างจากเหตุการณ์ในซีซันที่แล้วพอสมควร ตัวละครที่เราคุ้นชินเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ขึ้น เรื่องราวก็เข้มข้น จริงจังมากยิ่งขึ้น (ปกติก็หนักหน่วงมากอยู่แล้ว) ซึ่งต้นฉบับมังงะก็เป็นเช่นนี้ โดยรวมก็ถือได้ว่า MAPPA Studio ทำหน้าที่ของผู้สานต่อได้ดีที่สุดแล้ว

...



โดยสรุปแล้ว Attack on Titan: Final Season Part 1 ยังคงเป็นแอนิเมซันซีรีส์คุณภาพสูงทั้งงานด้านแอนิเมชันและเนื้อเรื่องราว ที่ควรค่าการดูอย่างไม่มีข้อกังขาใดๆ

ใครที่ติดตาม Attack on Titan ฉบับมังงะอย่างต่อเนื่องก็คงรู้ว่าบทสรุปของสงครามไททันที่จะมาใน Attack on Titan: Final Season Part 2 มีอะไรที่ยิ่งใหญ่มาก ๆ รออยู่ น่าสนใจว่า MAPPA Studio จะถ่ายทอดฉากสุดท้ายที่เป็นไคลแมกซ์ของเรื่องออกมาได้ดีแค่ไหน อีกไม่นานเกินรอ..


อ่านรีวิวหนัง ตีตั๋วชนโรง เรื่องอื่นๆ
ชา ตีตั๋วชนโรง
Twitter @Chamanz13
Facebook: ตีตั๋วชนโรง