นักแสดงชาวอเมริกันฝีมือดีคนหนึ่งของฮอลลีวูด เจค จิลเลนฮาล ถึงจะไม่ได้มีผลงานมาให้ชมกันบ่อยนัก แต่ถ้าปรากฏกายในผลงานเรื่องใด ก็รับประกันได้ถึงฝีมือการแสดงที่ต้องปล่อยออกมาอย่างสุดพลัง เรียกว่าได้บทรับบทอะไรมา เจ้าตัวก็เข้าถึงบทบาทนั้นอย่างถึงแก่น ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายธรรมะหรือฝ่ายอธรรม
ผลงานล่าสุดของ เจค จิลเลนฮาล ที่เพิ่งออกมาให้ได้ชมก็คือ “โรด เฮาส์” (Road House) หรือ “คนเดือดบวกเมืองเถื่อน” งานแอ็กชันระทึกขวัญดุเดือดเลือดพล่านไม่ต่างจากชื่อเรื่อง โดยสตรีมให้ชมทาง “ไพรม์ วิดีโอ” (Prime Video) ผู้ให้บริการสตรีมมิงในเครือ แอมะซอน (Amazon) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“โรด เฮาส์” ผลงานกำกับของ ดั๊ก ไลแมน ผู้กำกับที่เคยฝากผลงานดังทั้ง “เดอะ บอร์น ไอเดนทิตี” (The Bourne Identity), “มิสเตอร์ แอนด์ มิสซิส สมิธ” (Mr. and Mrs. Smith), “เอจ ออฟ ทูมอร์โรว์” (Edge of Tomorrow), “อเมริกัน เมด” (American Made) ฯลฯ โดย “โรด เฮาส์” สร้างจากภาพยนตร์ในชื่อเดียวกันฉายเมื่อปีพ.ศ.2532 บอกเล่าการต่อสู้ของ เอลวูด ดัลตัน อดีตนักสู้ของ “ยูเอฟซี” คือสมาคมศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน ซึ่งหลีกเร้นจากปมปัญหาในอดีต แต่ชีวิตตกอับ เลยทำให้ ดัลตัน รับงานเป็นคนคุมบาร์ที่ชื่อ “โรด เฮาส์” ในหมู่เกาะฟลอริดาคีย์ส ตั้งอยู่นอกชายฝั่งทางตอนใต้ของรัฐฟลอริดา (แต่สถานที่ถ่ายทำทั้งหมดคือที่สาธารณรัฐโดมินิกัน) เพื่อกำราบนักเลงหัวไม้ลูกน้องของ เบน แบรนดท์ (บิลลี แมกนัสเซน) ผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่น ไม่ให้มาก่อกวนบาร์แห่งนี้ การที่แบรนดท์ล้มเหลวในการจัดการ ดัลตัน ทำให้แบรนดท์ ซีเนียร์ พ่อของเขาผู้เป็นมาเฟียใหญ่แก๊งค้ายา แม้จะถูกคุมขังในเรือนจำ แต่ก็ส่ง น็อกซ์ นักฆ่ารับจ้างสุดอำมหิตมาปิดบัญชี โดยบทนี้ได้ คอเนอร์ แม็คเกรเกอร์ นักสู้ตัวจริงจาก MMA (Mixed Martial Arts) หรือวงการศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวแบบผสม และมีชื่อเสียงโด่งดังมารับบทดังกล่าว
...
ก่อนที่ “โรด เฮาส์” จะนำผู้ชมเข้าสู่โลกแห่งการต่อสู้อันสุดมัน นักแสดงหลักของเรื่องก็ชวนสื่อมวลชนจากทั่วโลกมาร่วมวงฟังพวกเขาคุยกันอย่างออกรสท่ามกลางบรรยากาศตกแต่งเป็นบาร์ในฟลอริดาคีย์ส นำโดย เจค จิลเลนฮาล, ดาเนียลา เมลคิออร์, บิลลี แมกนัสเซน, ลูคัส เกจ และ คอเนอร์ แม็คเกรเกอร์
การนำงานคลาสสิกปลายยุค 1980 มาพลิกโฉมใหม่ และผู้รับบท ดัลตัน ฉบับเดิมคือ แพทริก สเวซีย์ ดาราเจ้าบทบาทผู้ล่วงลับ เจค ได้กล่าวถึงการรับบทนี้ว่า “แพทริกเป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์ที่สุด ผมเป็นแฟน ตัวยงของเขามาตั้งแต่เด็ก ผมดู ‘พอยท์ เบรก’ (Point Break) พี่สาวก็พาไปดู ‘เดอร์ตี แดนซิ่ง’ (Dirty Dancing) ซึ่งตอนที่ผมได้ร่วมงานกับเขาใน ‘ดอนนี ดาร์โก’ (Donnie Darko) เขาใจดีกับผมมาก ลิซา ภรรยาของเขา ก็ด้วย เขาก็สนับสนุนผมตั้งแต่เริ่มต้นและตลอดหลายปีที่ผ่านมา เลยไม่ค่อยรู้สึกว่าต้องเป็นห่วงอะไรมากนัก แต่ผมรู้สึกว่าอยากจะให้เกียรติเขาและตัวผมเอง มันสำคัญมากสำหรับเราทุกคนที่จะต้องเคารพทั้งฉบับนี้และต้นฉบับที่อำนวยการสร้างโดยโจ ซิลวา เช่นกัน”
เมื่อถามถึงการเตรียมตัวที่จะรับบทนักสู้ เจค ตอบว่า “เรื่องเกี่ยวกับการลดน้ำหนัก ในฐานะนักแสดงผมรู้สึกเสมอว่ามันเป็นเรื่องดีที่อย่างน้อยก็มีรูปร่างที่ดีเพื่อที่จะสามารถทำได้ แล้วตอนนี้ผมอายุ 43 ปีแล้ว ซึ่งตอนนั้น (ช่วงถ่ายทำ) ผมอายุ 40-41 ปี มันสำคัญมาก ผมต้องแน่ใจว่าร่างกายต้องยืดหยุ่น คล่องตัว แข็งแรง และผลตอบรับมันก็ดี ซึ่งการถ่ายทำในสาธารณรัฐโดมินิกันก็ร้อนมากจนเหงื่อชุ่มตลอดเวลา เลยทำให้น้ำหนักลด”
ด้าน ลูคัส เกจ ก็เปิดใจถึงบท บิลลี ที่เจ้าตัวสมบทบาทว่า “ผมคิดว่าบิลลีได้เรียนรู้อะไรมากมายระหว่างทาง ผมคิดว่าดัลตันสอนให้เขายืนหยัดเพื่อเป็นเจ้าของพื้นที่นี้ และมองเขาเป็นเด็กขี้อายที่กลายเป็นคนเข้มแข็งและยืนหยัดเพื่อตัวเอง ผมคิดว่ามันเจ๋งดีที่ได้ร่วมงานกับเจคฮะ” ส่วนบิลลี แมกนัสเซน เผยถึงบทและฉากที่เข้มข้นในหนังว่า “ผมคิดว่ามันเป็นการพัฒนาตัวละครและกำหนดลมหายใจอยู่กับตัวละครมากกว่าสิ่งอื่นใด ผมมองว่าการค้นหาประกายไฟ หรือจิตวิญญาณที่แท้จริงของตัวละครคือความท้าทายและความตื่นเต้นในการเป็นนักแสดงนะ”
...
ขณะที่ คอเนอร์ แม็คเกรเกอร์ เผยว่า “มันสนุกมากเลยกับการได้ทำงานนี้เป็นครั้งแรก ผมมีนักแสดงที่น่าทึ่งคอยชี้แนะและกำกับ” และยังเผยถึงการกลับสู่เวทีการต่อสู้ของศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน ที่รู้จักกันว่าเป็นการสู้กันในกรงทรงแปดเหลี่ยม “สัญญาของผมเหลืออีก 2 ไฟต์ การเจรจากำลังดำเนินอยู่ เมื่องานโปรโมตภาพยนตร์สิ้นสุดลง งานเฉลิมฉลองวันเซนต์แพทริกจบ มันก็จะแยกกันละ เราก็จะมุ่งความสนใจไปที่ว่าจะเดินหน้าหรือย้อนกลับ คือหลังจากนั้นอาจจะเป็นปีหน้าหรืออะไรก็ไม่รู้ ผมจะไม่พูดว่า ‘เนเวอร์ เซย์ เนเวอร์’ (Never say never) คืออย่าเพิ่งบอกว่าคุณทำไม่ได้ ถ้าคุณยังไม่ได้ลองทำ เพราะผมมีเวลาที่ดีและได้เจอเพื่อนที่นี่ ผมสนุกกับกระบวนการทำงานนี้ แม้แต่ แอมะซอน ก็ทำงานด้วยได้อย่างน่าทึ่งมาก ใครจะรู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไรในอุตสาหกรรมนี้”
ส่งท้ายด้วย ดาเนียลา เมลคิออร์ นักแสดงสาวคนเดียวในวงสนทนา ที่รับบท เอลลี แพทย์หญิงในโรงพยาบาลประจำเกาะผู้ถูกชะตากับ ดัลตัน ซึ่งดาเนียลามองถึงบทของเธอว่า “ฉันพูดเสมอว่า เอลลีต้องได้รับการบำบัดโดยเร็วที่สุด เธอชอบที่จะมีปัญหาอย่างแน่นอน คือฉันจินตนาการว่าเอลลีน่าจะโตมากับแบรนดท์สมัยยังเรียนโรงเรียนหรือเปล่า” แต่ที่แน่ๆดาเนียลาเผยว่า ที่รับงานนี้ก็เพราะเป็นโอกาสได้ร่วมงานกับ เจค จิลเลนฮาล นี่ก็คงจะยืนยันได้ว่าชื่อหนุ่มเจค คือแม่เหล็กดึงดูดให้นักแสดงตกลงมาร่วมงานใน “โรด เฮาส์”.
...
เรื่อง: ศุภางค์ภัค เศารยะพงศ์
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่