ตกเป็นประเด็นร้อนต่อเนื่องเลยทีเดียว สำหรับพิธีกรดัง หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย ที่ก่อนหน้านี้นอกจากจะถูกนักร้องหนุ่ม ฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ เข้าแจ้งความในข้อหาหมิ่นประมาท หลังเคยเปิดคลิปเสียงที่หนุ่มถูกแอบอ้างเรื่องเรียกเงิน 20 ล้านบาทแล้ว
ล่าสุดก็ถูกนักแสดงสาว ปู มัณฑนา หิมะทองคำ แจ้งความในข้อหาหมิ่นประมาทเช่นกัน หลังถาม ทนายแก้ว กลางรายการโหนกระแส ถึงเรื่องที่ไม่คืนเงินค่าทนายให้ ปู 1 แสนบาท จากที่เคยเรียกไปในตอนแรก 1.5 แสนบาท พอนักข่าวได้เจอ หนุ่ม จึงถามถึงเรื่องดังกล่าว
ล่าสุดที่โพสต์ภาพเอาค้อนทุบปู?
“อ๋อ อยากกินปู (ยิ้ม) คือเป็นคนชอบกินอาหารทะเลอยู่แล้ว ลงไปก็ไม่มีความหมายอะไร แค่อยากกินปู เวลากินปูต้องทุบปูก่อนแล้วค่อยแกะและจิ้มน้ำจิ้มแค่นั้นเอง ไม่มีอะไรเลย อย่าไปคิดกันเยอะ ถามว่าต้องไปกินปูแถวทองหล่อมั้ย ไม่จำเป็น ปูมีเยอะแยะมากมาย กินที่ไหนก็ได้นะฮะ แต่ทองหล่อก็น่าจะดีนะ (ยิ้ม)”
ถามถึงเรื่องที่ปู มัณฑนา ไปแจ้งความ?
...
“ก็งงอยู่เหมือนกัน ต้องแยกกันก่อนกับเรื่องของภาพที่ลงมันก็เป็นสิทธิ์ของผม แต่เรากำลังพูดเรื่องคุณปู มัณฑนา ที่แจ้งความผมกับทนายแก้วที่ สน.ทองหล่อ คือเรื่องนี้เป็นสิทธิ์ของคุณปูที่จะเข้าใจว่าผมไปหมิ่นประมาท หรือร่วมสนับสนุนทนายแก้วให้หมิ่นประมาท แต่ต้องบอกคุณปูด้วยว่าข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ผมเชื่อว่าไปถามนักกฎหมายหลายท่าน คุณปูจะรู้นะครับว่ามันไม่น่าจะเป็นไปได้ที่ผมจะไปสนับสนุนหรือไปหมิ่นประมาทคุณ
เท่าที่ผมทราบมาเหมือนคุณปูพยายามบอกว่าผมไปใช้คำว่าโบ๊ะบ๊ะ หรือสนับสนุนให้ทนายแก้ว คำว่าโบ๊ะบ๊ะมันคืออะไร ผมยืนอยู่ข้างคุณปูด้วยซ้ำนะ ผมถามทนายแก้วในรายการว่ามันมีคนบอกว่าคุณไม่เอาเงินไปคืนทั้งหมด คุณคืนแค่แสนเดียว คุณเหลือ 5 หมื่นทำไม แก้วก็บอกว่าเป็นเพราะอย่างนี้ครับ ผมทำงานไปแล้ว
หลังจากนั้นผมก็บอกว่าคุณเป็นทนายความ คุณไม่โบ๊ะบ๊ะเลย เท่าที่ทราบมาเขาบอกว่าคุณไม่โบ๊ะบ๊ะ คุณต้องโบ๊ะบ๊ะ เร่งรีบจัดการให้เร็วหน่อย แก้วก็บอกว่าไม่ได้หรอกครับ จะให้ไปโน่นนี่ไปด่าคนผมทำไม่ได้ ถามว่าผมผิดตรงไหน ถ้าเกิดว่าผมจะผิดในการตั้งคำถามของคนเป็นสื่อว่าทำไมคุณไม่เอาเงินไปใช้เขา คนที่ยืนอยู่ตรงนี้ (นักข่าว) ก็ผิดหมดนะ เพราะคุณเป็นสื่อ คุณก็ต้องตั้งคำถามเหมือนกัน
คุณมาถามผมก็ต้องตอบ มันมีข้อเท็จจริงอะไรบ้างผมก็ตอบไป แต่พอตอบเสร็จกลายเป็นถูกแจ้งความ มันแฟร์กับทางสื่อทุกคนมั้ย ผมว่ามันไม่แฟร์ เพราะฉะนั้นก็ไม่เป็นไรครับ เป็นสิทธิ์ของคุณปู แต่สุดท้ายถ้าถูกพิสูจน์ไปแล้วว่าผมไม่ได้หมิ่นประมาทคุณ เรื่องนี้ผมก็ไม่ปล่อยผ่านนะครับ
ผมจะใจดีกับคนที่มีเหตุและผล แต่ถ้าคนไม่มีเหตุและผล ผมไม่ใจดีด้วยนะครับ ผมก็คงจะต้องมีการดำเนินคดีกลับในข้อหาที่คุณไปแจ้งความเท็จ กลั่นแกล้งผู้อื่นให้ได้รับโทษทางอาญา คุณต้องเข้าใจว่าในบางครั้งคุณได้รับการปรึกษาจากใครมาผมไม่ทราบ แต่เวลาติดคุกผมบอกเลยว่าทนายไม่ได้ติดนะ เพราะฉะนั้นคุณจะทำอะไรคิดให้ดีๆ นะครับ”
ตรงนี้มันมาจากรายการโหนกระแส มันพาดพิงกับรายการ?
“ต้องบอกว่าโหนกระแสส่วนใหญ่มักจะถูกกล่าวอ้างตลอดเวลาอยู่แล้ว ผมก็ต้องขอบคุณทุกคนนะครับ (ยกมือไหว้) ขอบคุณจริงๆ ที่ทุกคนคาดหวังกับรายการโหนกระแส คาดหวังกับผม แต่ผมเองพูดหลายครั้งแล้วว่าโหนกระแสไม่ได้เป็นผู้ถือกฎหมาย
เราไม่ใช่ศาล เราไม่ใช่ตำรวจ เราเป็นแค่กระบอกเสียง แต่กระบอกเสียงก็ไม่จำเป็นต้องพูดทุกเรื่องราวในสังคม เพราะมีอยู่ 1 รายการ มีพิธีกรอยู่คนเดียว มันมีคนร้องมาเยอะอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นต้องเข้าใจจุดยืนของรายการด้วย
อย่างเรื่องของคุณปูที่พูดว่าโหนกระแสไม่ได้นำเสนอ โห...ผมอยากนำเสนอจะตาย คุณปูก็บอกมาสิว่าคุณปูอยากมาออก ผมก็อยากให้มาออก ผมได้เรตติ้ง โห...คุณเป็นตัวเรตติ้งอยู่แล้ว ทำไมไม่อยากได้ แต่ผมไม่ทราบว่าคุณอยากจะมา ถ้ารู้ว่าคุณอยากจะมา ผมเชิญคุณอยู่แล้ว แต่วันนี้มันผ่านจุดนั้นไปแล้ว วันนี้เป็นเรื่องของคดีความ ฉะนั้นมันย้อนกลับมาไม่ได้”
ก่อนหน้านี้มีการติดต่อเรื่องยืมเงินไหม?
...
“เรื่องการยืมเงินไม่เคย เพราะอยู่ดีๆ เขามีการโพสต์ถึงใครคนนึงผมก็ไม่รู้ ตอนหลังถึงมารู้ว่าเป็นทนายแก้ว ผมเลยถามทนายแก้วว่าเกิดอะไรขึ้นในรายการ เขาก็เล่าให้ฟังแบบนี้ ผมเลยพูดในรายการว่าถ้าคุณปูอยากมาออกก็มาได้ จะได้คุยให้มันจบกันไป ผมจะไปนั่งหมิ่นประมาทคุณเพื่ออะไร คุณไม่ได้เป็นคู่กรณีกับผม แล้วผมก็ไม่ได้จงเกลียดจงชังอะไรคุณ แล้วเราก็เคยรู้จักกันมาก่อน แต่ก็เป็นสิทธิ์ของคุณปูที่จะเข้าใจแบบนั้น หรือฟังใครมาก็เป็นสิทธิ์ของคุณปู”
เขาบอกว่าเขาเป็นดาราชื่อดัง มีตำแหน่ง พูดแบบนั้นไปทำให้เขาเสียชื่อเสียง?
“ผมทำให้เขาเสียชื่อเสียงตรงไหน ผมยังคิดไม่ออกเลย (เขาบอกว่าฟ้องหมิ่นประมาทเพราะทำให้สังคมเกลียดชัง?) ตรงไหนอ่ะ คำว่าโบ๊ะบ๊ะคือทำไมคุณไม่รีบจัดการ รีบทำให้เขาสิ หมิ่นประมาทตรงไหน”
หรือเพราะว่าพี่หนุ่มเข้าข้างทนายแก้ว?
“ถ้าผมเข้าข้างทนายแก้ว ผมจะไม่ถามแบบนั้นกับแก้วหรอก ถ้าผมเป็นทนายแก้ว ผมโดนถามแบบนั้นผมอายนะ”
กรณีทนายแก้วก็เป็นการถามแบบโหนกระแส?
“ใช่ แต่อาจเป็นสไตล์พี่ที่ถาม แต่พี่ก็ต้องการให้ได้รู้ข้อเท็จจริงว่าตกลงแก้วเอาเงินเขามาไม่คืนจริงไหม แต่ถ้าคุณปูรู้สึกเสียหายจากคำตอบของทนายแก้ว มันก็เป็นสิทธิ์ของเขาไงครับ แต่ผมมองว่าทนายแก้วก็มีสิทธิ์ชี้แจง เพราะวันที่โพสต์ ผมว่ามันเป็นเรื่องที่ทนายแก้วก็เสียหาย แต่ตัวพี่เองไม่เกี่ยว พี่เป็นแค่สื่อและถามให้”
ใช้มาตรการเดียวกับฟิล์ม?
“แบบนั้นเลย ถูกต้อง”
กรณีปู พี่หนุ่มเตรียมรับมือยังไงบ้าง?
“เรื่องนี้ไม่ต้องรับมือ ว่าไปตามข้อเท็จจริง ผมเชื่อว่าประชาชนคนไทยเห็นอยู่แล้วว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันคืออะไร”
...
ก็คือมองว่าโดนกลั่นแกล้งให้เราโดนโทษทางอาญา?
“สำหรับผม ผมมองแบบนั้น”
ส่วนตัวรู้จักกับปูมั้ยในฐานะนักแสดง?
“ผมไม่สนิทกับคุณปู รู้จักผ่านๆ อย่างที่เขาบอกว่าเขาเป็นดาราดัง แต่ผมไม่ดังไง อาจจะเอื้อมไม่ถึง”
ถ้าเขาจะมีไกล่เกลี่ย?
“มันเกินการไกล่เกลี่ยไปแล้วครับ และผมไม่จำเป็นต้องไกล่เกลี่ยกับคุณด้วย ในเมื่อคุณมาแจ้งความผม บอกว่าผมไปหมิ่นประมาทคุณ ก็ว่าไปตามสิทธิ์ของคุณ ผมก็ว่าไปตามสิทธิ์ของผม แล้วเดี๋ยวไปดูกันว่าข้อเท็จจริงมันเกิดอะไรขึ้น สุดท้ายแล้วผมเชื่อว่าตำรวจเองก็มีดุลยพินิจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นว่ามันคืออะไร”
ในกรณีของฟิล์มหาว่าเราหมิ่นประมาท ทั้งที่เขาเป็นคนขอโทษเรา และยอมรับเอง แต่สุดท้ายมาแจ้งความ คิดว่ายังไง?
“มาพูดถึงเรื่องของคุณฟิล์ม เรื่องนี้ผมให้ความสำคัญมากกว่าเรื่องของคุณปู ผมว่าเรื่องของคุณปูขี้ผง ผมไม่ได้สนใจ แต่เรื่องคุณฟิล์มผมสนใจ เพราะว่าจริงๆ แล้วผมอยากให้คุณฟิล์มลองกลับไปคิดทบทวนให้มันดีๆ เพราะว่าทุกๆ คนในประเทศไทยยังจำกันได้ ผมเปิดคลิปๆ หนึ่งขึ้นมา ในนั้นมีชื่อของหนุ่ม กรรชัย ปรากฏอยู่ ก็คือรายการโหนกระแส จะเอาทางฝั่งของบอสพอลมาออกรายการ คุณกฤษอนงค์ก็บอกว่าจะหาทางลงให้สวยๆ เลย
...
แล้วมีเสียงผู้ชายคนหนึ่ง บอกว่าตอนนี้พี่หนุ่มยังคุยไม่ได้หรอก เพราะทางนู้นอยากจะคุยกับพี่หนุ่ม ผู้ชายคนนั้นเลยบอกว่าเดี๋ยวผมจัดการให้ แล้วสุดท้ายมีการบอกด้วยว่า 20 ล้านครับ คือคนไทยไม่ได้โง่นะครับ คนไทยกินข้าว แล้วผมมั่นใจว่าสิ่งที่ทุกคนได้ยินมันหมายถึงอะไร แล้วในนั้นมันคือผม ผมถามย้อนกลับไปว่าวันนั้นทำไมผมถึงเปิดคลิปนี้ ผมมีเหตุผลครับ วันนั้นกำลังดำเนินรายการเรื่องดิไอคอน ผมถามว่าถ้าคลิปนี้ตกอยู่ในมือคู่กรณีของผม หรือคนที่ต้องการจะทำร้ายผม เขาเปิดมาแล้วบอก อ้าว หนุ่ม กรรชัย กับนักร้องดังร่วมมือกัน แล้วไปเรียกเงินเขาเนี่ย ผมเสียไหมครับ ลูกผมจะมองหน้าเพื่อน มองหน้าพ่อแม่เพื่อนของเขายังไง
มันกลายเป็นพ่อเขาไปเรียกรับเงินจากชาวบ้าน มันไม่เป็นธรรมฮะ ผมในฐานะที่มีส่วนได้เสีย ผมก็จำเป็นที่จะเปิดคลิปนั้นขึ้นมา แล้ววันนั้นไม่ได้เอ่ยชื่อด้วยว่าเป็นใคร แต่สุดท้ายวันนั้นพอเปิดคลิปนั้นไป ไม่เกิน 2-3 ชั่วโมง คุณฟิล์มเองวิ่งไปที่ช่อง 8 เอง แล้วไปขอสัมภาษณ์ที่ช่อง 8 กับ อ.ยิ่งศักดิ์ แล้วออกมาแถลงข่าว คุณได้ยินใช่ไหมว่าคุณฟิล์มพูดว่าอะไร คุณฟิล์มบอกว่าผมต้องขอโทษพี่หนุ่มด้วยครับ ที่เอาชื่อพี่หนุ่มไปพูด
ผมถามว่าถ้าคุณไม่ผิดแล้วคุณจะขอโทษผมทำไม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่คุณไปตบทรัพย์หรือคุณจะบอกว่าเป็นงานอีเวนต์ คุณมีสิทธิ์อะไรที่เอาชื่อผมไปบอกคนอื่นว่า กรรชัยเรียก 20 ล้าน และคุณขอโทษผมด้วยเรื่องนี้ คล้อยหลังไป 2 เดือนกว่า คุณไปแจ้งความผมที่ห้วยขวาง ผมยังไม่เห็นหรอกครับว่าคุณแจ้งอะไรผมบ้าง แต่คุณก็ออกข่าวว่าไปแจ้งความผม ว่าทำให้คุณเสื่อมเสียชื่อเสียง
ผมถามว่า ในวันนั้นคุณขอโทษผมแล้ว แล้วคุณจะแจ้งความผมทำไม คุณต้องการอะไร คุณมีเจตนาอะไร แต่คุณกลับไปดูเรื่องของข้อกฎหมาย คุณไปดูมาตรา 173, 174 ว่ามันเข้ากับสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่หรือเปล่า ผมไม่รู้หรอกว่า ทนายความหรือใครก็ตามแต่ว่าให้คุณทำแบบนี้ ผมพูดเหมือนเรื่องคุณปูเลยครับ เวลามีเรื่องทนายไม่ได้ติดคุกนะ คนที่จะติดคุกคือคุณ นะครับถ้าผมเอาเรื่องคุณ แต่เรื่องนี้ผมบอกเลยว่าผมก็สุดซอยเหมือนกัน”
มองยังไงที่ฟิล์มบอกว่าพี่หนุ่มพูดแรงเกินไป?
“ผมพูดแรงตรงไหน ไอ้การที่คุณเอาชื่อผมไปบอกคนอื่นว่าเรียกเงิน 20 ล้าน ไม่แรงเหรอ เป็นพี่น้องกับผมยังไง ในเมื่อไม่ได้เป็นน้องผมตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ผมก็ประกาศชัดเจนอยู่แล้วว่าไม่ใช่น้องผม ส่ายหงส่ายหัว เลอะเทอะ ผมไม่ได้มีน้องคนนี้อยู่แล้ว เป็นแค่คนรู้จักคนนึง เคยร่วมงานและแยกย้ายกันไป เขาเรียกผมพี่ ผมก็เออ ฟิล์ม แต่วันนี้มีเรื่องแบบนี้ก็ไม่ต้องเรียกพี่เท่านั้นเอง เรียกไอ้ก็ได้”
ตอนนี้หมายมาถึงบ้านหรือยัง?
“ยังครับ ผมรออยู่ครับ คือจริงๆ ไม่จำเป็นต้องรอหมายมาถึงบ้าน วันไหนผมว่าง ผมจะเดินทางไปที่ สน.ห้วยขวาง ผมจะไปขอพนักงานสอบสวนดูว่ามีการแจ้งความผมยังไงหรือเปล่า ถ้าเกิดมีการแจ้งความผมหรือยังไงก็แล้วแต่ ผมก็สวนเหมือนกัน
และก็อีกเรื่องนึง ผมยกมือไหว้เลย (ยกมือไหว้) ขออนุญาตครับ อ.ประมาณ ครับ ผมในฐานะที่รู้จัก อ.ประมาณ พอสมควร แล้วก็เคารพท่าน ผมมีเรื่องอยากจะถามนิดนึงครับ เห็นอาจารย์พูดคำว่าจัญไร ขออนุญาตถามอาจารย์ผ่านทางนี้นะครับว่า นักกฎหมายพูดคำนี้ไม่ผิดเหรอครับ หรือว่าเป็นทนายความแล้วด่าคู่ความว่าจัญไรได้
ถ้าหากว่าสามารถจะด่าแบบนั้นได้ ดีครับ จะได้เป็นบรรทัดฐาน ที่ทำให้นักกฎหมายออกมาแล้วใช้คำพูดแบบนี้ได้ อันนี้อยากเรียนถามจริงๆ ด้วยความโง่เขลาของผม ผมอยากทราบ เพราะผมไม่ใช่นักกฎหมายเลยอยากรู้ ฝากเรียนถามท่านด้วย เพราะเป็นถึงนักกฎหมายอาวุโสน่าจะรู้ครับ ให้ข้อมูลสักนิดนึงครับ”
มีอะไรอยากถามฟิล์มไหม?
“ไม่มีหรอกครับ ผมเชื่อว่าสิ่งที่เขาทำ เขารู้อยู่แก่ใจ แล้วก็มีคนฝากมาบอกด้วยนะ ไม่ต้องพยายามโทรไปหาเขา เพื่อดึงเขามาดิสเครดิตผม แต่คนนั้นเขาบอกว่าไม่ต้องโทรไปหาเขาแล้ว เพราะเขารำคาญ แล้วพยายามจะไปดึงเรื่องโน่นนี่นั่นมา ซึ่งผมดูแล้วมันเลอะเทอะอ่ะ”
เขาบอกว่าพี่หนุ่มพูดจนทำให้คนเกลียด?
“มันจำเป็นต้องเป็นผมพูดเหรอ คนไม่ได้เกลียดทั้งประเทศอยู่แล้วเหรอ ทำไมต้องเป็นผม ผมเป็นคนถูกพาดพิง ถูกเอาชื่อไปแอบอ้าง ว่าไปเรียกเงิน 20 ล้านจากพวกคุณ ผมเป็นสื่อ ผมทำเพื่อสาธารณะประโยชน์
การที่ผมเปิดเรื่องนี้ถือว่าผมปกป้องตัวเอง ตามมาตรา 329 แล้วที่สำคัญที่สุด เรื่องนี้ทางสอบสวนกลางหรือกองปราบเอง หรือทางท่านจำรูญ เกียรติปานแก้ว ท่านก็บอกเองว่า หนุ่มควรจะต้องเปิด เพราะมันมีเรื่องของความผิดของกฤษอนงค์รวมอยู่ในนั้นด้วย
แล้วผมก็ให้ปากคำไปแล้ว แจ้งความทั้งหมดอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นผมไม่ได้ทำให้ใครไปเกลียดใคร ผมแค่ปกป้องสิทธิ์ของผม ผมไม่สามารถไปห้ามประชาชนทั้งประเทศเขามองคุณว่าเป็นแบบไหนได้ อย่ามาโทษผมครับ คุณต้องกลับไปดูพฤติกรรมในสิ่งที่มันเกิดขึ้นก่อน”
กับเรื่องที่คนเอาชื่อไปแอบอ้างก็แจ้งความแล้ว?
“ผมแจ้งความที่กองปราบอยู่แล้วเรื่องนี้ ตอนนี้กำลังดำเนินการอยู่ หลังจากเช็กไปล่าสุด”
กับวลีที่บอกว่าอย่ามีเรื่องกับหนุ่ม กรรชัย?
“อ๋อ ไม่หรอกครับ จริงๆ ทุกคนมีเรื่องกับผมได้หมด เพียงแต่ว่าต้องดูบริบทข้อเท็จจริงว่าสิ่งที่มันเกิดขึ้นคืออะไร แล้วก็ผมว้าวมากๆ กับสิ่งที่คุณไปแจ้งความผม โดยคุณเองก็เคยออกมาขอโทษผมแล้ว ถามว่าจะมีว้าวกว่านี้มั้ย ว้าวๆๆๆ (ยิ้ม)”
หนักใจมั้ย ต้นปีมาก็โดนไป 2 คดี?
“ไม่หรอกครับ ตัวผมเองตั้งแต่วันแรกที่ก้าวเข้ามาทำรายโหนกระแส มาอยู่ในวงการข่าว ผมรู้เลยว่าก้าวขาข้างนึงไปอยู่บนศาลแล้ว คือมันเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ผมเชื่อว่าสื่อทุกคนรู้ เพียงแต่ว่าไม่ได้ออกมาเป็นประเด็นขนาดนี้ ผมเชื่อว่าทุกคนโดนหมด
หลายคนก็เป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย?
“ผมว่าคนเหล่านี้เขาคงไม่เล่นนอกเกม ผมเชื่อว่ามีสามัญสำนึกมากพอ มีอะไรก็ไปสู้ในกระบวนการกฎหมาย ถ้าคิดว่าผมผิดก็ไปแจ้งความ ไปฟ้องศาลเอา ผมคิดว่าผมไม่ผิดก็ยื่นข้อเท็จจริงเสนอไป แล้วผมก็แจ้งความกลับ ฟ้องกลับก็จบ”
คลิกเพื่ออ่าน ข่าวบันเทิง เพิ่มเติม